Generative AI คืออะไร? จะส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ (Website Ranking) และจำนวนคนที่เข้ามายังเว็บไซต์ (Traffic) อย่างไร? มาทำความเข้าใจกันว่า Google AI Overviews กำลังส่งผลต่อเว็บไซต์ของเราอย่างไร รวมถึงความท้าทายและโอกาสในการรักษาการมองเห็นเว็บไซต์ ซึ่งสำคัญต่อแบรนด์และผู้ทำธุรกิจอย่างแน่นอน!
Generative AI คืออะไร?
Generative AI หรือปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ คือเทคโนโลยี AI ที่สามารถสร้างเนื้อหา ข้อมูล หรือสื่อใหม่ๆ ได้โดยอัตโนมัติ โดยเรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่ Generative AI มีอะไรบ้าง? ตัวอย่างเช่น:
- การสร้างข้อความ (Text Generation)
- การสร้างภาพ (Image Generation)
- การสร้างเสียงและดนตรี (Audio and Music Generation)
- การสร้างวิดีโอ (Video Generation)
Generative AI ใช้ยังไง?
ในปัจจุบัน Generative AI ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในหลายด้าน เช่น:
- การสร้างเนื้อหาทางการตลาด เช่น ข้อความโฆษณา บทความ เป็นต้น
- การออกแบบผลิตภัณฑ์
- การเขียนโค้ดคอมพิวเตอร์
- การแปลภาษา
- การสร้างภาพและวิดีโอเสมือนจริง
โดยหนึ่งในการประยุกต์ใช้สำหรับการทำ SEO ที่กำลังเป็นที่พูดถึง คือ Google Generative AI SEO ซึ่งกำลังส่งผลกระทบอย่างมากต่อการทำ SEO และการจัดอันดับเว็บไซต์
ผลกระทบของ Google Generative AI SEO
ก่อนจะทำความรู้จักกับผลกระทบของการนำ AI มาใช้ในการทำ SEO ของ Google ให้เราลองย้อนเวลากลับไปกันสักหน่อย
ในปี 1901 วิลเบอร์ ไรท์ (Wilbur Wright) บอกกับน้องชายของเขา ออร์วิล (Orville) ว่ามนุษย์จะไม่สามารถบินได้อีก 50 ปี แต่เพียงสองปีต่อมา ในปี 1903 พี่น้องคู่นี้ก็สร้างเครื่องบินลำแรกของโลกได้สำเร็จ เช่นเดียวกับวิวัฒนาการของการ Search ซึ่งได้มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นมาแล้ว แต่เรายังคงต้องรอดูกันต่อไปว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะพร้อม “บิน” ขึ้นเมื่อไหร่
ตอนนี้ Google ประกาศแล้วว่า AI Overviews ได้รับอัตราการคลิกสูงกว่าผลการค้นหาเว็บแบบปกติ โดย Google AI Overviews กำลังปรากฏในการค้นหา 15% ของคำค้นหา (Query) ทั้งหมด ซึ่งลดลงจากเดิมที่เคยปรากฏถึง 84% แต่ Generative AI ส่งผลกระทบต่อ Website Traffic อย่างไรกันละ?
ทราฟฟิก Organic, Direct, Referral และ Affiliate จะลดลง
ผลการค้นหาจะเพิ่มขึ้น แต่เว็บไซต์จะได้รับผลกระทบและมี Organic Traffic โดยรวมน้อยลง ซึ่งมีการคาดการณ์ตัวเลขคร่าวๆ ดังนี้
- AI ทำให้การค้นหาเพิ่มขึ้น 6 เท่าต่อวัน
- AI ทำให้อัตราการคลิก (CTR) เฉลี่ยลดลง 60%
- อาจทำให้ Organic Traffic ลดลง 30%
แน่นอนว่าทุกเว็บไซต์จะได้รับผลกระทบ โดย กิลาด เดวิด มายัน (Gilad David Maayan) CEO และผู้ก่อตั้ง Agile SEO ได้วิเคราะห์การลดลงของ Traffic จาก 23 เว็บไซต์หลังจาก Google เปิดตัว AI Overviews ในการศึกษาของเขาพบว่า หลังจาก Google AI Overviews เปิดตัว Organic Traffic ของเว็บไซต์เหล่านี้ลดลงถึง 18-64% นั่นหมายความว่าจะมีเพียงไม่กี่ลิงก์การ์ดที่แสดง Query ซึ่งอาจทำให้บริษัทเล็กๆ หลุดออกจากผลการค้นหาเพื่อเปิดทางให้กับแบรนด์ใหญ่
ลิงก์การ์ด (Link Card) ดังกล่าวอาจแทนที่ Featured Snippets แต่ Google ยืนยันว่า Featured Snippets จะยังไม่หายไป (ในตอนนี้) ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ เพราะทาง Google เองก็ได้ทดสอบฟีเจอร์ Featured Snippets มาหลายปีแล้ว
ทำให้นักทำ SEO หลายคนอาจเห็นความผันผวนในการจัดอันดับ Featured Snippets ของเว็บไซต์ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
การ Crawl ลดลง = เนื้อหาจะถูก Index น้อยลง
ปัจจุบัน ทาง Google กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านโครงสร้าง เพราะปริมาณเนื้อหาที่ Google ต้อง Crawl, Render และ Index นั้นมีปริมาณมหาศาล และกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ผนวกกับเนื้อหาที่เขียนโดย AI ที่ Google Data Center รับมือไม่ไหว ดังนั้น Google จึงใช้วิธีลัดอย่างการลดงบประมาณการ Crawl สำหรับเว็บไซต์ที่มีความเร็วในการสร้างเนื้อหาสูงเมื่อเทียบกับระดับความน่าเชื่อถือ หมายความว่าถ้าเว็บไซต์เรามีเนื้อหาทั่วไปๆ ที่ดูไม่มีประโยชน์ ทาง Google อาจจะไม่ Index มันเลยก็ได้
ลองคิดดูว่า ผู้สร้างเนื้อหาจำนวนมากกำลังอัปโหลดเนื้อหาเหมือนๆ กันที่สร้างโดย AI บนเว็บไซต์ของพวกเขา ส่งผลให้มีสแปมและเนื้อหาซ้ำซ้อนจำนวนมาก เมื่อ Search Engine ตรวจพบความคล้ายคลึงของเนื้อหาในเว็บไซต์ต่างๆ เหล่านั้น มันจะจัดหมวดหมู่ว่าเป็นเนื้อหาที่ไม่มีความเป็นต้นฉบับหรือ Duplicate Content นั่นเอง ปัจจุบัน วิธีที่ดีที่สุดในการทำให้ Google เห็นเนื้อหาของคุณ คือ การเขียนเนื้อหาที่มาจากประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่ง AI ไม่สามารถทำได้นั่นเอง
AI อาจทำให้การค้นหาเพิ่มขึ้น และการจัดอันดับเว็บไซต์ผันผวนมากขึ้น
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ที่ Google ประกาศเรื่อง Mobile-first Indexing ส่งผลให้เกิดความวุ่นวายในคอมมูนิตี้ SEO อย่างมาก ถึงกับมีคนคาดการณ์ว่าการค้นหาจะลดลงและคนจะไม่ใช้คอมพิวเตอร์อีกต่อไป แต่ในความเป็นจริง การค้นหาบนมือถือกลับเพิ่มขึ้น ซึ่งคล้ายกันกับสถานการณ์ของ AI ในตอนนี้ พฤติกรรมของผู้ใช้งานเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แล้วเมื่อผู้คนเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับ Google Generative AI วิธีการค้นหาก็จะปรับตัวเปลี่ยนไป เป็นไปได้ว่า การเติบโตของ AI จะทำให้ปริมาณการค้นหาเพิ่มขึ้น และเมื่อการค้นหาเพิ่มขึ้น ความผันผวนในการจัดอันดับก็จะสูงขึ้นด้วย
พื้นที่โฆษณาที่มากขึ้นหมายถึง CPC ที่ต่ำลง
ผู้ค้นหาจะเห็นโฆษณา Google Ads อยู่เหนือ Google AI Overview ส่งผลให้รายได้ของ Google เพิ่มขึ้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา รายได้จากโฆษณาของ Google ลดลงเกือบ 4% ซึ่งรายได้จากโฆษณาเป็นแหล่งรายได้หลักของ Google จึงไม่น่าแปลกใจที่ Google AI Overviews จะมุ่งเน้นที่จะเพิ่มรายได้จากโฆษณา แน่นอนว่า จำนวน Google Ads ที่มากขึ้นจะส่งผลให้ CPC ลดต่ำลงในระยะยาว นักทำ SEO ทั้งหลายต้องปรับตัวตามไปด้วย
Leads มีคุณภาพ แต่มีจำนวนลดลง
แม้ว่า Google AI Overview จะทำให้ Traffic ที่เข้าสู่เว็บไซต์ลดลง แต่ธุรกิจจะเริ่มเห็น Traffic ที่มีคุณภาพสูงขึ้น ตามที่ Google กล่าวว่า “Let Google do the searching for you.” นั่นหมายความว่า Google จะถามคำถามมากขึ้นเพื่อช่วยให้ผลการค้นหาที่ดีที่สุดสำหรับคำค้นนั้น Google AI Overviews มุ่งเน้นที่จะปรับปรุงการค้นหาและทำให้ผู้ใช้หาสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจใช้เวลานานขึ้นกว่าที่ผู้ใช้จะพบเว็บไซต์ของเรา แต่ถ้าเนื้อหาของเรามีความเกี่ยวข้อง มีคุณภาพ และเป็นประโยชน์ ผู้ค้นหาที่มาถึงเว็บไซต์ของคุณมีแนวโน้มที่จะเป็น Lead ที่มีคุณภาพสูงขึ้น
ผู้คนจะอยู่บน Google นานขึ้นและหาวิธีค้นหาแบบอื่นๆ
ด้วยการมาถึงของ ChatGPT, Perplexity และ Bing เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในวิธีการค้นหาของผู้ใช้งาน แล้ว Google AI Overviews ก็ได้แนะนำวิธีการค้นหาแบบใหม่เช่นกัน การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้หมายความว่าผู้คนอาจจะอยู่บน Google นานขึ้นหรืออาจหันไปลองใช้เสิร์ชเอนจินอื่นๆ ดังนั้น ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเราได้ตั้งค่า Cross-Network Traching Pixels บนเว็บไซต์ เพื่อรวบรวมข้อมูลที่ครอบคลุมมากขึ้น และมุ่งเน้นการสร้างกลุ่มเนื้อหา (Content Clusters) เพื่อตอบคำถามเชิงลึกที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์รีวิวสินค้ากำลังตกอยู่ในความเสี่ยง
เว็บไซต์รีวิวสินค้าได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก Google AI Overviews ด้วยความสามารถในการสร้างคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมือนคนจริงๆ เขียน ทำให้ผู้ใช้งานอยู่บน Google นานขึ้น โดยเมื่อสร้างคำแนะนำผลิตภัณฑ์แล้ว Google จะส่งผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ร้านค้าโดยตรง ทำให้สามารถซื้อสินค้าได้ทันที นั่นหมายความว่า เว็บไซต์รีวิวสินค้าจะสูญเสีย Traffic จากลิงก์ Affiliate อย่างมหาศาล
ถ้าคุณเป็นเจ้าของเว็บไซต์รีวิวสินค้าแล้วละก็ ถึงเวลาแล้วที่ต้องประเมินกลยุทธ์ครั้งใหม่ เพราะเป้าหมายของ AI Overviews คือ การปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ค้นหาให้เจอสิ่งที่ต้องการเร็วขึ้น ส่งผลให้เว็บไซต์รีวิวสินค้าทำหน้าที่เป็น “คนกลาง” ถูกผลักออกจากผลการค้นหานั่นเอง
Intent Label ต้องตรงกับคำค้นหาเพื่อเพิ่ม Content Personalization
การติด Intent Label ของ Search Query เป็นกลุ่มชุดข้อมูล (เช่น โซลูชัน หรือ บล็อก ฯลฯ) บนเว็บไซต์ ทำให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถฝึก AI ให้จดจำรูปแบบของคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับชุดข้อมูลนั้นๆ ได้ นี่เรียกว่า “Learned Intent” การใช้ความสามารถในการเรียนรู้เจตนาการค้นหาของ AI ช่วยให้สามารถปรับแต่งเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ เพื่อสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจมากขึ้นแก่ผู้ใช้งาน
สรุปผลกระทบ Generative AI
จำนวน Traffic และอันดับเว็บไซต์อาจได้รับผลกระทบจากการเติบโตของ AI ผลการค้นหาแย่ลง และการจัดอันดับที่ผันผวนมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ เป็นความจริงที่ว่า Generative AI จะอยู่กับเราไปอีกนาน ดังนั้น การ “เอาชนะ” และดันอันดับ SEO Ranking จะ ไม่ใช่เพียงแค่การทำตาม “แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด” อีกต่อไป เจ้าของเว็บไซต์ นักทำ SEO และนักการตลาดต้อง “ทดลอง” และ “ทดสอบ” อย่างต่อเนื่องเพื่อดูว่าอะไรได้ผลลัพธ์ดีที่สุดสำหรับเว็บไซต์
เกี่ยวกับ Relevant Audience
พวกเรา Relevant Audience คือ Digital Performance Marketing Agency ที่เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO และเป็นหนึ่งใน Digital Agency ที่มีบริการด้านการตลาดดิจิทัลครบวงจร เพื่อสนับสนุนธุรกิจให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในเวลา สถานที่ และบนอุปกรณ์ที่เหมาะสม (Right Time, Right Place, Right Device)
บริการของเราครอบคลุมทั้งบริการทำ SEO, Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads ไปจนถึง Influencer Marketing และเรายังเป็น SEO Company ที่เป็น Google Partners อีกด้วย โดยทีมของเราล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมให้คำปรึกษาและค้นหาโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ปรึกษาทำการตลาดออนไลน์
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com