ใครที่ติดตามอ่านข่าวสารและเคล็ดลับใน Blog มาตลอด คงรู้กันดีว่าการทำ SEO หรือแนวทางการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการติดอันดับบน Google ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะกับทุกกลุ่มธุรกิจ เพราะสามารถช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้าง Traffic ให้กับเว็บไซต์ได้มากขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสสร้างยอดขาย สร้าง Brand Awareness และประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกมากมาย
แน่นอนว่าในปี 2023 นี้ กลยุทธ์การทำ SEO ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนักการตลาดมือใหม่ มือเก่า แบรนด์เล็กหรือแบรนด์ใหญ่ต่างลงทุนในกลยุทธ์นี้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับการทำ SEO Competetive Analysis ที่จะช่วยให้คุณวิเคราะห์คู่แข่งทั้งทางตรงและทางอ้อม ในมิติที่เราสนใจและมีประโยชน์กับการทำ SEO ของคุณให้มีประสิทธิภาพที่ดีและเหนือกว่าคู่แข่ง ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
Step 1: มองหาคู่แข่งที่เหมาะสม
ต่อให้คุณเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นหรือเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่มีประสบการณ์มายาวนาน สิ่งแรกที่เป็นพื้นฐานในการทำ SEO ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีคือ ต้องรู้ว่าคู่แข่งของเรามีใครบ้าง? ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องเบสิคที่ดูเข้าใจไม่ยาก แต่เชื่อหรือไม่ว่าเรื่องเล็กๆ อย่างการระบุคู่แข่งให้ได้สามารถสร้างผลกระทบที่ดีหรือแย่ให้กับแบรนด์ได้ในระยยาว สำหรับมือใหม่แนะนำให้ลองแบ่งคู่แข่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- คู่แข่งทางตรง (Direct Competitors) คือคู่แข่งที่มีการขายสินค้า หรือบริการประเภทเดียวกัน
- คู่แข่งทางอ้อม (Indirect Competitors) คือคู่แข่งที่มีการขายสินค้า หรือบริการคนละประเภทกับเรา แต่อาจจะทดแทนได้
โดยการระบุคู่แข่ง SEO Competitors นักการตลาดมือใหม่สามารถเริ่มต้นได้จากการค้นหาใน Search Engine อย่าง Google เพื่อใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องในการรวบรวมรายชื่อคู่แข่ง
Step 2: วิเคราะห์กลยุทธ์การทำ SEO ของคู่แข่ง
หลังจากที่รู้แล้วว่าคู่แข่งของคุณคือใคร ก็ถึงเวลามาดูภาพรวมการทำ SEO ของเว็บไซต์กันก่อนว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้เขาติดหน้าแรกก่อนเว็บไซต์ของเรา ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างเว็บไซต์ ทั้ง Page Speed เป็นอย่างไร มีการทำ Mobile Responsive แล้วหรือยัง ประเภทของเนื้อหาคอนเทนต์เป็นอย่างไร และ Target Keywords ที่ใช้ ดังนี้
- วิเคราะห์เนื้อหาคอนเทนต์ของคู่แข่ง ไม่เพียงแค่รู้ประเภทของเนื้อหาคอนเทนต์เท่านั้น แต่ยังต้องรู้ว่าบทความไหน หน้าไหนที่สามารถสร้าง Traffic ได้ดี โดยสามารถใช้ Analytics Tools อย่าง BuzzSumo ในการทำ Content Analyzer
- ดูโซเชียลมีเดียของคู่แข่ง แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นส่วนสำคัญในการทำ SEO เพราะจะทำให้ธุรกิจถูกพูดถึง เป็นการสร้าง Brand Awareness และยังเข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ทำให้เพิ่มโอกาสให้เว็ฐไซต์ติดอันดับใน Google มากขึ้น ดังนั้นอย่าลืมทำความเข้าใจภาพรวมคู่แข่งของคุณว่ามีแนวทางการทำการตลาดผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างไร
Step 3: วิเคราะห์คีย์เวิร์ดของคู่แข่ง
ขั้นต่อมาคือการทำ Competitor Keyword Analysis หรือกระบวนการค้นหาคีย์เวิร์ดของคู่แข่งที่กำลังติดอันดับในหน้า SERPs เพื่อให้รู้ว่า Golden Keyword ของคู่แข่งคืออะไร โดยจะต้องคำนึงถึงการที่คีย์เวิร์ดนี้จะต้องสร้างฐานลูกค้าได้จริง สามารถนำไปปรับใช้กับการทำ On-Page SEO ให้เว็บไซต์ดีขึ้น และมี Search Volume ที่เหมาะสม สำหรับเครื่องมือในการวิเคราะห์สามารถเลือกใช้ได้ตามความถนัดทั้ง Keyword Planner, SimilarWeb, Ahrefs, SEMRush สำหรับใครที่สนใจอยากเข้าใจการทำ Keyword Analysis คู่แข่งให้มากขึ้น สามารถอ่านได้ใน สอนวิเคราะห์ Keyword คู่แข่งแบบเหนือชั้นใน 5 ขั้นตอน
Step 4: วิเคราะห์การทำ On-Page ของคู่แข่ง
การทำ SEO ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมีสิ่งที่เรียกว่าการทำ On-Page Optimization โดยอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือเป็นการทำเว็บไซต์ให้คนใช้งานจริงได้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งชื่อหัวข้อ ใส่คำอธิบายหน้าเว็บไซต์ (รู้จัก 9 ปัจจัยสำคัญสำหรับการทำ On-Page SEO) เป็นต้น ดังนั้นการรู้จักวิเคราะห์ว่าคู่แข่งของคุณมีการทำ On-Page เป็นอย่างไรก็จะช่วยให้คุณนำจุดอ่อนจุดแข็งมาปรับใช้กับเว็บไซต์ได้ โดยองค์ประกอบพื้นฐานของการทำ On-Page SEO ที่สามารถดูได้จากคู่แข่ง มีดังนี้
- Titles
- Meta Data
- Heading
- Internal Link
- Schema Markup
- URLs
- เนื้อหาคอนเทนต์
- รูปภาพและวิดีโอ
Step 5: เช็ก Backlink
ถึงแม้กูเกิลจะลดความสำคัญของ Backlink ลงไปบ้าง เพราะจำนวนของ Backlink ไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ว่าเนื้อหาบนเว็บไซต์นั้นมีคุณภาพดีเสมอไป แต่ก็ยังมีความจำเป็นอยู่ดีในการทำหน้าที่ Reference หรือเพิ่มความน่าเชื่อถือแต่ต้องเป็นลิงก์ที่มาเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ เนื้อหาเกี่ยวข้องกัน และไม่ได้เกิดจากการสแปม
โดยการเช็ก Backlink เว็บไซต์คู่แข่งก็สามารถใช้ Ubersuggest เพื่อตรวจสอบ Backlink ของเว็บไซต์คู่แข่ง จากนั้นก็ลองเปิดตามลิงค์ต้นทางดูว่า มาจากเว็บไซต์ใด ดูน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน จากนั้นก็พิจารณาดูว่าเกี่ยวข้องกับเนื้อหาบนเว็บไซต์ของเราหรือไม่ เพื่อนำมาเป็นไอเดียในการปรับปรุง Backlink ในอนาคต
ทิ้งท้าย
SEO เป็นกลยุทธ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ ปี ดังนั้นหากใครที่กำลังเริ่มต้นทำ SEO การรู้จักภาพรวมว่าการแข่งขันในตอนนี้เป็นอย่างไร จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีว่าจะเริ่มปรับปรุงเว็บไซต์อย่างไร ทำในแนวทางไหน ตรงจุดไหนที่คู่แข่งเรายังทำได้ไม่ดี ก็เอาข้อด้อยตรงนั้นมาปรับใช้กับของตัวเองให้ดีขึ้น เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ก้าวนำคู่แข่งได้ตลอดปี 2023 นี้แล้ว
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com