กูเกิลเผยปี 2021 บล็อกโฆษณาไปมากกว่า 3.4 พันล้านรายการ

May 9, 2022Author: Antonio Fernandez
Results Image

Table of Contents

  • อันดับแรก คือ โฆษณาประเภท Abusing The Ad Network หรือการใช้เครือข่ายโฆษณาในทางที่ผิด กูเกิลไม่อนุญาตให้สร้างโฆษณาที่มีเนื้อหาที่พยายามหลอกลวง หรือโฆษณาที่จงใจหลีกเลี่ยงขั้นตอนในการให้ระบบตรวจทาน เช่น การพยายามปิดบังหน้าเว็บจริงหรือการใช้เทคนิคอื่นๆ เพื่อซ่อนหน้าเว็บ หรือการตั้งค่าอื่นใดที่พยายามใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของระบบ เป็นต้น
  • อันดับที่สอง คือ โฆษณาประเภท Adult Content เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่บางประเภทเป็นหนึ่งในโฆษณาต้องห้ามสำหรับกูเกิล สาเหตุที่บอกว่า “บางประเภท” เพราะโฆษณาที่ถูกมองว่ามีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่บางอันสามารถใช้ได้หากได้รับอนุญาตตามข้อกำหนด แต่จะต้องถูกแสดงภายใต้เงื่อนไข คือ ห้ามกำหนดกลุ่มเป้าหมายไปยังผู้เยาว์ และแสดงเฉพาะในสถานการณ์ที่ถูกจำกัด และต้องอิงตามกฎหมายท้องถิ่นด้วย เป็นต้น
  • อันดับที่สาม คือ โฆษณาประเภท Trademark เนื้อหาที่มีเครื่องหมายการค้าก็เป็นอีกหนึ่งประเภทที่จะถูกกูเกิลบล็อกหรือลบก็ต่อเมื่อเจ้าของเครื่องหมายการค้ายื่นเรื่องร้องเรียนที่ถูกต้องถึงกูเกิลเท่านั้น

จากการรายงาน Ads Safety Report ประจำปี 2021 ทาง Google พบว่าในปีที่ผ่านมา รายการโฆษณาที่ถูกกูเกิลบล็อกหรือถูกลบออกมีมากถึง 3.4 พันล้านรายการ และตัวเลขของบัญชีผู้ใช้งานที่ถูกแบนยังสูงเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า จากปีก่อนหน้า ว่าแต่รายละเอียดจะเป็นอย่างไร? และจะมีอะไรที่นักการตลาดต้องเป็นกังวลบ้าง? มาดูไปพร้อมกันในบทความนี้เลย

โฆษณา 3.4 พันล้านรายการที่ถูกบล็อก

สำหรับ 3 อันดับแรกของประเภทโฆษณาที่โดนกูเกิลบล็อกหรือลบออกมากที่สุด ได้แก่

มีข้อสังเกตที่น่าสนใจคือหากเปรียบเทียบกับในปี 2021 จะพบว่า

  • ในปี 2020 มีโฆษณา 3.1 พันล้านรายการที่ถูกกูเกิลบล็อกหรือลบออก
  • ในปี 2019 มีโฆษณา 2.7 พันล้านรายการที่ถูกกูเกิลบล็อกหรือลบออก

จะเห็นได้ว่าตัวเลขกระโดดเพิ่มขึ้นสูงทุกปี และหากหันมามองดูคู่แข่งอย่าง Microsoft มีรายงานที่ออกมาบอกว่ามีการบล็อกหรือลบโฆษณาออกไปราว 3 พันล้าน รายการในปี 2021 นั่นหมายความว่าหากรวมตัวเลขทั้งสองบริษัทยักษ์ใหญ่นี้เข้าด้วยกันจะมีตัวเลขโฆษณาที่สูงมากถึง 6.5 พันล้านรายการที่ถูกลบออกไปในปีที่ผ่านมา

โฆษณา 5.7 พันล้านรายการที่ถูกจำกัดการเข้าถึง

โฆษณาบางรายการไม่สามารถแสดงผลต่อผู้ใช้งานได้ เนื่องจากโฆษณาเหล่านี้ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ที่มีความละเอียดอ่อนในแง่ของกฎหมายหรือทางวัฒนธรรมต่อบางประเทศ โดยมีโฆษณาประเภทต่างๆ ดังนี้

  • โฆษณาประเภท Trademark ถูกระงับการเข้าถึง 1.4 พันล้านรายการ
  • โฆษณาประเภท Other Restricted Business ถูกระงับการเข้าถึง 511.4 ล้านรายการ
  • โฆษณาประเภท Financial Services ถูกระงับการเข้าถึง 223 ล้านรายการ
  • โฆษณาประเภท Healthcare and Medicines ถูกระงับการเข้าถึง 219.3 ล้านรายการ
  • โฆษณาประเภท Alcohol ถูกระงับการเข้าถึง 128.5 ล้านรายการ
  • โฆษณาประเภท Adult Content ถูกระงับการเข้าถึง 126.1 ล้านรายการ
  • โฆษณาประเภท Gambling and Games ถูกระงับการเข้าถึง 108.1 ล้านรายการ
  • โฆษณาประเภท Legal Requirements ถูกระงับการเข้าถึง 105.7 ล้านรายการ
  • โฆษณาประเภท Copyrights ถูกระงับการเข้าถึง 68.6 ล้าน 

นอกจากนี้ยังมีบัญชีผู้ใช้งาน 5.6 ล้านบัญชีที่ถูกกูเกิลระงับการใช้งาน โดยกูเกิลระบุว่าเกิดจากการจงใจหลีกเลี่ยงการถูกตรวจจับ ตัวอย่างเช่น การสร้างบัญชีหลายร้อยหรือหลายพันบัญชีพร้อมกันและพยายามใช้เทคนิคต่างๆ ในการพยายามปิดบังหน้าเว็บหรือปรับเปลี่ยนข้อความเพื่อแสร้งให้ระบบของกูเกิลเห็นเนื้อหาที่ต่างออกไป

บล็อกโฆษณาที่เป็น Fake News เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19

500,000 หน้า คือจำนวนหน้าเว็บไซต์ที่กูเกิลได้บล็อกไป เนื่องจากมีการนำเสนอข้อมูล Fake News เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ไม่ว่าจะเป็น

  • หน้าเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือการทดสอบต่างๆ รวมถึงการโก่งราคาหน้ากากอนามัย 
  • โฆษณาที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ที่โดนบล็อกไปถึง 106 ล้านรายการ 

สถานการณ์ระหว่างยูเครน-รัสเซีย

ตั้งแต่ปัญหาความวุ่นวายระหว่างยูเครน-รัสเซียได้ปะทุขึ้น ไม่เพียงแค่สงครามภาคสนามเท่านั้น แต่ประตูของสงครามข่าวไซเบอร์ก็ถูกเปิดเช่นกัน กูเกิลได้ให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับจำนวนโฆษณาที่ถูกบล็อกออกในปี 2022 นี้ มีมากถึง 8 ล้านรายการ นอกจากนี้กูเกิลยังออกนโยบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์นี้อีกหลายต่อหลายครั้ง (อ่านเพิ่มเติมได้จากที่นี่)

สำหรับการกระทำที่กูเกิลมองว่าเป็นการจงใจให้เกิดความสับสนหรือสร้างความอันตรายแก่ผู้ใช้งานทั่วไป ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะถูกระบบของกูเกิลแบนหรือโดนบล็อก ภาพรวมเหล่านี้ถือเป็นเครื่องเตือนใจที่ดีแก่นักการตลาดหรือแบรนด์ที่กำลังสร้างแคมเปญโฆษณาต่างๆ ด้วยตัวเลขจำนวนมากที่โตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในทุกปีจึงเป็นเหตุผลที่กูเกิลพยายามยกระดับการป้องกันต่างๆ เพิ่มเติม เช่น ระบบ Three Strike System (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่)

รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience

Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 

โทร.: 02-038-5055 

อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com

Antonio Fernandez

Antonio Fernandez

ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Relevant Audience ผู้นำด้านการตลาดดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปีในการพัฒนากลยุทธ์การตลาดดิจิทัล เขาได้นำพาทีมงานในการสร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าผ่านโซลูชันดิจิทัลที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพ

Related Articles

If you enjoyed reading this article, you might like these too.

Google June 2025 Core Update Explained
SEO

July 2, 2025

Google June 2025 Core Update Explained
Learn about the Google June 2025 core update and how it impacts your website. Get tips on monitoring changes and...
ai

June 17, 2025

วิธีทำให้แบรนด์ของคุณปรากฏใน ChatGPT?
เรียนรู้วิธีง่ายๆ ในการทำให้แบรนด์ของคุณถูกกล่าวถึงใน ChatGPT โดยใช้เนื้อหาที่ชาญฉลาดและเทคนิค SEO เพื่อเพิ่มความโดดเด่นด้วยเครื่องมือ AI...
whatsapp-ads

June 17, 2025

เมตาเปิดตัวโฆษณาในวอทส์แอปสำหรับการตลาดดิจิทัล
ค้นพบว่าโฆษณาใหม่ของเมตาในวอทส์แอปกำลังเปลี่ยนแปลงวงการการตลาดดิจิทัลอย่างไร พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับประโยชน์สำหรับธุรกิจและความสำคัญต่อประสบการณ์ผู้ใช้...
อัปเดตของ Microsoft Advertising เดือนมิถุนายน: สิ่งที่นักการตลาดควรทราบ
โฆษณา Microsoft Ads

June 12, 2025

อัปเดตของ Microsoft Advertising เดือนมิถุนายน: สิ่งที่นักการตลาดควรทราบ
ค้นพบการอัปเดตสำคัญจาก Microsoft Advertising ในเดือนมิถุนายน และเรียนรู้ว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อแผนกลยุทธ์ทางการตลาดของคุณอย่างไร ติดตามการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เพื่อไม่ตกเทรนด์...