ในแวดวงเทคโนโลยีช่วงนี้คงไม่มีอะไรที่จะโด่งดังและเป็นไวรัลไปมากกว่า “ChatGPT” ที่เป็น AI แชทบอทสุดล้ำที่สามารถสนทนา ตอบคำถาม รวมไปถึงช่วยแก้ปัญหาบางอย่างได้แบบสารพัด ในชนิดที่ว่ามนุษย์เดินดินธรรมดาทั่วไปยังต้องทึ่ง โดย ChatGPT ได้รับการพัฒนาโดย OpenAI ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยที่นำโดย Sam Altman ที่มีจุดมุ่งหมายคือการออกแบบพัฒนาซอฟต์แวร์ที่สามารถจดจำเรียนรู้ข้อมูลต่างๆ และสามารถสร้างชุดข้อความในการเขียนคำอธิบาย คำตอบ บทสนทนา ฯลฯ ที่สำคัญคือ ChatGPT เป็น AI ที่เรียนรู้ผ่านวิธี Reinforcement Learning from human Feedback (RLHF) หรือก็คือทุกครั้งที่มีบทสนทนาเกิดขึ้นกับ AI จะมีการเรียนรู้และมีคุณภาพในการตอบคำถามที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
โดย ChatGPT ได้เปิดให้ทดลองใช้งานตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2022 ที่ผ่านมา และเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็ว เห็นได้จาก อินฟลูฯ ในไทยหลายคนก็มีการหยิบยกมาพูดถึง เช่น นายอาร์ม จากช่อง 9ARM ที่อธิบายที่มาที่ไปและโชว์ให้เห็นถึงศักยภาพของ ChatGPT ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามด้วยความไวรัลของ ChatGPT ไม่เพียงได้รับความนิยมจากชาวเน็ตในไทยเท่านั้นแต่ยังโด่งดังไปทั่วโลก ถึงขนาดที่ว่า Google ซึ่งเป็น Search Engine ยักษ์ใหญ่ ประกาศหมายเตือน Code Red และตั้งทีมพิเศษเฉพาะกิจขึ้นมาพัฒนา AI ให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น เพราะเชื่อว่าการมาถึงของ ChatGPT อาจส่งผลกระทบต่อ Google Search ในอนาคตได้ รายละเอียดในเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร Relevant Audience จะพาทุกคนเจาะลึกพร้อมกัน ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
หมายแดง (Code Red) จากกูเกิลคืออะไร?
ถ้าหากเราลองค้นหาความหมายของคำว่า “Code Red” บน ChatGPT จะพบว่า ChatGPT ให้คำนิยามของ Code Red ว่า ”เป็นศัพท์ที่กูเกิลใช้ในกรณีที่มีภัยคุกคามต่อความปลอดภัยที่สำคัญหรือเหตุฉุกเฉินบางอย่าง โดยทั่วไปแล้วจะใช้เพื่อแจ้งเตือนพนักงานของ Google ให้ตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาทันที นอกเหนือจากเรื่องปัญหาโครงสร้างของระบบที่อาจเกิดช่องโหว่ ก็ยังเป็นการแจ้งเตือนเพื่อตอบสนองต่อปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือเหตุฉุกเฉินอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ Google ได้เช่นกัน”
ซึ่งคำตอบที่ได้จาก ChatGPT ก็ค่อนข้างให้ความหมายหรือคำนิยามที่สมเหตุสมผลและมีความถูกต้องอย่างครบถ้วน เพราะหากลองมาดูความหมายของ Code Red ที่ Richard Hay ซึ่งเป็น Techincal Lead ที่ Google เคยออกมาแชร์เกร็ดความรู้นี้ผ่าน Google+ ที่อยู่ในคอลัมน์ Search Photo of the day เมื่อนานมาแล้วว่า Google จะออกหมายเตือนที่เรียกว่า “Code Red” เพื่อแจ้งเตือนให้พนักงาน “All hands on deck หรือการลงมือทำอย่างเต็มที่” นอกจากหมายเตือน Code Red แล้วก็ยังมี Code Yellow หมายถึงให้พนักงานทุกคน “It’s ok to go home and sleep but It Is still serious situation หรือก็คือทุกคนสามารถกลับบ้านและนอนพักผ่อนได้ แต่สถานการณ์ร้ายแรงยังไม่ได้ถูกแก้ไข” ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันกับ Code Red แต่ปัญหาจะอยู่ในเกณฑ์ที่เบากว่า
กูเกิลออกหมายแดง เพื่อตั้งทีมพิเศษรับมือการมาถึงของ ChatGPT
จากการายงานของ The New York Times ระบุว่า Sundar Pichai ซีอีโอคนปัจจุบันของกูเกิลได้ส่งสัญญาณ Code Red ให้กับพนักงานในบริษัทเพื่อทำงานในการพัฒนา AI ให้ดีขึ้น ถือเป็นการตอบสนองต่อการมาถึงของ AI ที่เป็นแชทบอทสุดล้ำอย่าง ChatGPT ในรายงานจาก NYT ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า กูเกิลกำลังตั้งทีมพิเศษเฉพาะกิจขึ้นเพื่อมุ่งเน้นในการสร้างสรรค์และปรับปรุง AI Product จาก Google ให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีม Google’s Research ในฝ่าย Trust and Safety ได้รับคำสั่งโดยตรงให้เร่งการพัฒนาและเปิดตัว “New AI Prototypes and Products” เช่น AI ที่สามารถสร้างงานศิลปะและกราฟิกที่คล้ายกับ DALL-E ของ OpenAI
ทิ้งท้าย
ประเด็นที่สำคัญจากเรื่องนี้มาจากกระแสความนิยมของ ChatGPT ที่เมื่อเปิดตัวสู่สาธารณะ ได้กลายเป็นข้อถกเถียงว่า เป็นไปได้ไหมที่ AI Chatbot จะกลายเป็น Search Engine ยุคใหม่ที่ไม่เพียงแค่ตอบคำถามทั่วไปได้อย่างเดียว แต่ยังสามารถให้คำแนะนำในการเขียนโค้ดสำหรับโปรแกรมเมอร์ หรือแม้แต่สั่งให้เขียนโค้ดเบื้องต้นพื้นฐานได้อีกด้วย นอกจากนี้ Sridhar Ramaswamy ที่เป็น Google’s Ad Team ได้ออกมาระบุว่า ChatGPT ทำให้ผู้ใช้งานสามารถหลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ Google ที่มีโฆษณา ที่อาจส่งผลต่อรายได้จากกูเกิล ที่รวมแล้วมูลค่าเป็น 81% ของรายได้โดยรวมทั้งหมด จากเหตุผลดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจที่ซีอีโอของกูเกิลออกหมายแดงเพื่อเร่งการพัฒนา AI ของตนเอง
อย่างไรก็ตามใครที่ติดตามข่าวสารในแวดวง AI ก็คงจะพอคุ้นเคยกับ AI LaMDa ของกูเกิลที่ถูกพัฒนามาอย่างยาวนาน แต่ยังไม่ถูกเปิดตัวเนื่องจากกูเกิลยังคงกังวลกับปัญหาบางประการอย่างในเรื่องของปัญหาเหยียดเชื้อชาตหรือเหยียดเพศ แต่เป็นที่แน่นอนแล้วว่าในเร็ววันนี้ เราอาจจะเห็นกูเกิลเร่งเปิดตัว AI LaMDa หรืออาจเปิดตัว AI Product ใหม่ๆ ในงาน Google I/O ที่จะถูกจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมของปี 2023 ก็เป็นไปได้
Source: BI
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com