Google เผยรายงานการลบข้อมูลสแปมบน Maps และ Business Profile

แชร์ไปยัง:
คัดลอกลิงก์:
March 28, 2022
Author: Antonio Fernandez
Results Image

จากรายงานของกูเกิล ในวันที่ 24 มีนาคม กูเกิลระบุว่าในปีที่ผ่านมามีการลบข้อมูลโปรไฟล์ที่เป็นสแปมมากกว่า 7 ล้านรายการ เนื่องจากต้องการเพิ่มความน่าเชื่อถือข้อมูลบน Google Maps และ Google Business Profile ให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังป้องกันไม่ให้มีการสร้างข้อมูลที่เป็นสแปมนับสิบล้านรายการ แน่นอนว่าผู้ใช้งานใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี จึงนับเป็นความท้าทายสำหรับกูเกิลที่จะต้องคอยสอดส่องความถูกต้องของข้อมูลใน Google Business Profile และ Google Maps ให้มีความถูกต้องและแม่นยำเสมอ ในบทความนี้ Relevant Audience จะพาไปดูว่ากูเกิลจัดการกับข้อมูลสแปมอะไรไปแล้วบ้าง ถ้าพร้อมแล้วมาดูไปพร้อมกันเลย

กูเกิลลบข้อมูลสแปมมากกว่า 7 ล้าน รายการ?

แน่นอนว่าด้วยโลกของเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้ามากขึ้นทำให้กูเกิลสามารถใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ในการระบุความถูกต้องของข้อมูลได้ง่ายขึ้น ด้วยการใช้การผสมผสานของระบบ Machine Learning ที่เข้ามาช่วยการทำงานให้มีความละเอียดมากขึ้น พบว่า 30% ของข้อมูลที่เพิ่มขึ้นในปี 2021 หากเทียบกับในปีก่อนหน้า มีเพียง 1% ที่เป็นข้อมูลสแปม ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวสถานที่ปลอมที่ใช้เป็นกลวิธีในการทำร้ายธุรกิจคู่แข่ง กิจกรรมที่น่าสงสัยต่างๆ หรือเนื้อหาที่ล่วงละเมิดข้อกำหนด  กูเกิลยืนยันว่าเทคโนโลยีในตอนนี้สามารถที่จะปรับปรุงความสามารถในการตรวจจับข้อมูลสแปมต่างๆ ได้ดีมากขึ้น โดยข้อมูลสแปมที่ถูกลบออกไปใน Google Maps และ Google Business Profile ในปี 2021 ที่ผ่านมา มีดังนี้

กูเกิลยังคงพยายามรักษามาตรฐานในการจัดการกับข้อมูลให้มีความเที่ยงตรง จึงพยายามจำกัดการเข้าถึงข้อมูลที่ละเมิดนโยบายข้อกำหนดต่างๆ อยู่ตลอดเวลา ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตรวจสอบมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากใครพบเห็นข้อมูลที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นสแปม กูเกิลได้เปิดช่องทางในการรายงานไปยังกูเกิลได้โดยตรง

รับปรึกษาการทำ Google Ads ที่ Relevant Audience

Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 

โทร.: 02-038-5055 

อีเมล: info@relevantaudience.com 

เว็บไซต์: www.relevantaudience.com

Antonio Fernandez

Antonio Fernandez

ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Relevant Audience ผู้นำด้านการตลาดดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปีในการพัฒนากลยุทธ์การตลาดดิจิทัล เขาได้นำพาทีมงานในการสร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าผ่านโซลูชันดิจิทัลที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพ

แชร์ไปยัง:
คัดลอกลิงก์:

Latest Updates

Our most recently updated articles across all topics.

แคมเปญ Google Shopping เข้าแทนที่ Google Search Ads
General topics

March 11, 2021

แคมเปญ Google Shopping เข้าแทนที่ Google Search Ads
เป็นเวลานานหลายปีที่นักการตลาดและบริษัทอีคอมเมิร์ซใช้จ่ายเงินไปกับ Google Search Ads เพื่อให้เว็บไซต์และโฆษณาของตนปรากฏอยู่ด้านบนของผลการค้นหาแบบออร์แกนิก อย่างไรก็ตาม Google ได้ลดระดับ Search Ads ลงหนึ่งขั้น และเพิ่ม “แคมเปญ Google Shopping” ไปยังด้านบนของผลการค้นหา แคมเปญ Google Shopping คืออะไร?...
Google Remarketing Ads คืออะไร
General topics

March 11, 2021

Google Remarketing Ads คืออะไร
คุณเป็นเจ้าของธุรกิจอีคอมเมิร์ซหรือมีเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหรือไม่? ถ้าใช่ ข้อมูลต่อไปนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณเท่านั้น หรือพูดง่ายๆ ก็คือ คุณมาถูกที่แล้ว! สถิติ แสดงให้เห็นว่าอัตราการละทิ้งตะกร้าสินค้าออนไลน์ทั่วโลกกำลังเพิ่มขึ้นและปัจจุบันสูงถึง 69.57% เราทุกคนเคยผ่านประสบการณ์ในการเข้าชมเว็บไซต์ออนไลน์เป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้วจากไปโดยหวังว่าจะกลับมาในภายหลัง ซึ่งมักจะไม่เกิดขึ้น นี่เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องได้รับการแก้ไขสำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซทั้งหมดเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายของการซื้อได้ Dynamic Remarketing คืออะไร? กล่าวอย่างง่ายๆ Dynamic Remarketing คือ Google...
General topics

March 11, 2021

ธุรกิจของคุณพร้อมสำหรับพระราชบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแห่งประเทศไทยหรือไม่?
[vc_row][vc_column][vc_column_text] PDPA คืออะไร? พระราชบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 PDPA ประเทศไทยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่สามารถระบุตัวบุคคลได้โดยตรงหรือโดยอ้อม PDPA ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อปกป้องเจ้าของข้อมูลจากการกระทำที่ผิดกฎหมายต่อข้อมูลส่วนบุคคลของตน กฎหมายนี้ใช้กับองค์กรส่วนใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นภายในประเทศหรือต่างประเทศ...