ปัจจุบันผู้คนทั่วโลกนิยมการค้นหาข้อมูลผ่าน Search Engine กันเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะการใช้ Google Search ในการค้นหาสินค้าหรือบริการที่ต้องการ ค้นหาคำตอบของคำถามที่อยากรู้ แต่คำถามคือ? “หากคุณมีเว็บไซต์ที่นำเสนอความต้องการนั้นได้จริง แล้วจะมีวิธีอย่างไรให้เว็บไซต์สามารถไปปรากฏต่อหน้าผู้คนเหล่านั้นได้?” บางคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกบน SERPs ทีนี้ลองมาดูเหตุผลความสำคัญในการลงทุนลงแรงกับการทำ SEO กันหน่อย ประการแรกกูเกิลเป็น Search Engine เจ้าใหญ่สุดในตลาดตอนนี้ โดยมีปริมาณการใช้ข้อมูลทั่วโลกมากกว่า 85% โดยเฉพาะแค่ในสหรัฐอเมริกามีผู้เข้าชมที่ไม่ซ้ำหน้ากันราว 270 ล้านคน ประการที่สอง 75% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่เคยหาข้อมูลไปไกลเกินกว่าหน้าแรกของ Search Engine เลย และสุดท้าย 34.36% ของการคลิกทั้งหมดอยู่ที่ผลการค้นหาอันดับหนึ่ง
เป็นที่ชัดเจนว่าเหตุใดการทำ SEO จึงมีความสำคัญในทุกแง่ของการทำการตลาดออนไลน์ อย่างไรก็ตามทุกคนรู้ดีว่าการทำ SEO เปรียบได้กับการวิ่งมาราธอนไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น โดยเฉพาะการวิ่งแข่งภายใต้กติกาของกูเกิลที่มีการอัปเดตอัลกอริทึมในการจัดอันดับเว็บไซต์หลายสิบครั้งในทุกปี ทำให้ไม่ใช่เรื่องง่ายหากต้องการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับแรกบนหน้า SERPs ฉะนั้นในบทความนี้จะมาแนะนำ 8 สิ่งที่ต้องทำหากต้องการเข้าเส้นชัยเป็นที่หนึ่งภายใต้กติกาของกูเกิล
1. ปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์
บ้านที่มีโครงสร้างรากฐานที่ดีย่อมทำให้บ้านหลังนั้นมีความแข็งแรงและคงทนในระยะยาว เช่นเดียวกันกับเว็บไซต์ที่มีโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีก็จะช่วยให้หลีกเลี่ยงปัญหาทางเทคนิคต่างๆ ที่จะส่งผลให้กูเกิลลดการมองเห็นของเว็บไซต์ได้มากขึ้น และในทางกลับกันก็จะส่งผลดีต่ออันดับของเว็บไซต์ด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น หน้าเว็บไซต์ควรมีการทำ Sitemap เพื่อให้ทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและอัลกอริทึมของกูเกิลสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น พูดง่ายๆ ว่าไล่ตั้งแต่จุดเล็กๆ อย่าง การแก้ไขปัญหา Broken Links (ลิงก์เสีย) ไปจนถึงปัญหาคอนเทนต์ Duplicated (เนื้อหาซ้ำ) จำไว้ว่าการดำเนินการตรวจสอบโครงสร้างเว็บไซต์อย่างละเอียดเป็นสิ่งจำเป็นลำดับต้นๆ ในการดันอันดับเว็บไซต์ตามแนวทางการทำ SEO
2. ให้ความสำคัญ User Experience
รู้หรือไม่ว่าในการทำ SEO ประสบการณ์ของผู้ใช้งานทั่วไปมีความสำคัญทัดเทียมกับตราสินค้า นักการตลาดหลายคนที่ได้ยินอาจจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่บ้าไปแล้ว แต่ใครที่มีประสบการณ์การทำ SEO คงรู้ดีว่ากูเกิลมีการอัปเดตอัลกอริทึมเกี่ยวกับการนำ User Experience (UX) ที่ถูกเรียกโดยรวมๆ ว่า Core Web Vitals มาใช้เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับเว็บไซต์ (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Core Web Vitals ได้ที่นี่)
ต่อไปนี้จะเป็นข้อแนะนำสำหรับการปรับปรุง UX เพื่อปรับปรุงการทำ SEO ดังนี้
- ทำ Keyword Research
- ทำ Page Tagging
- ปรับปรุงคอนเทนต์
- ปรับปรุงความเร็วเว็บไซต์
3. ให้ความสำคัญอัลกอริทึมและผู้ใช้งานให้เท่ากัน
นักการตลาดหลายคนมัวแต่โฟกัสกับการปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้ตรงกับความต้องการของกูเกิล จนลืมไปว่าคนอ่านเนื้อหานั้นไม่ได้มีเพียงแต่อัลกอริทึมของกูเกิลเท่านั้น ถึงแม้ว่าอัลกอริทึมของ Search Engine และสายตาของมนุษย์จะมีวิธีการอ่านและแยกแยะเนื้อหาที่มีความแตกต่างกัน แต่ก็มีจุดร่วมบางอย่างที่คล้ายกันอยู่บ้าง เช่น
- เนื้อหาต้องมีความชัดเจนและรัดกุม
- ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
- หลีกเลี่ยงใช้ศัพท์ฟุ่มเฟือย
- หัวข้อย่อยต้องตรงกับหน้าปก
ทั้ง 4 สิ่งนี้ควรต้องคำนึงตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการสร้างคอนเทนต์บนเว็บไซต์เสมอ หากต้องการให้เว็บไซต์มีอันดับที่ดี
4. ชื่อ Title ต้อง Catchy
ชื่อ Title เป็นหนึ่งองค์ประกอบที่มีความสำคัญในการทำ SEO อย่าลืมว่าชื่อ Title เป็นสิ่งแรกที่ผู้คนเห็นเป็นอันดับแรกบนหน้า SERPs ฉะนั้นชื่อ Title จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดในการดึงดูดสายตาผู้คนและกระตุ้นให้เว็บไซต์เกิดการคลิกที่มากขึ้น
ลองใคิดดูเล่นๆ ก็ได้ว่าหากตัวคุณเองเห็นเว็บไซต์ที่มีชื่อ Title เชยๆ เฉิ่มๆ คุณจะกดเข้าไปหรือไม่? BuzzSumo ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการด้านการตลาดได้ออกบทวิเคราะห์ตัวหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับชื่อ Title โดยพบว่า
- ชื่อ Title ที่ดีจะช่วยสร้างอารมณ์ให้เกิดปฏิสัมพันธ์กับเว็บไซต์มากขึ้น
- ชื่อ Title จะช่วยกระตุ้นต่อมความอยากรู้อยากเห็นของผู้คนให้มากขึ้น
- Meta Descriptions แม้จะไม่มีผลโดยตรงต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ แต่ก็ควรมีความเกี่ยวข้องกับชื่อ Title
พูดง่ายๆ ว่าหากต้องให้เว็บไซต์มีอันดับที่ดีก็อย่าลืมเลือกชื่อ Title ให้มีความน่าสนใจ มีประโยชน์ต่อผู้ที่ค้นหา และสามารถกระตุ้นอารมณ์ให้คนอยากคลิกเข้ามาอ่านได้
5. ติดตามการอัปเดตของ Google Algorithm อย่างสม่ำเสมอ
ใครที่มีประสบการณ์การทำ SEO คงพบเจอเหตุการณ์อันดับเว็บไซต์ผันผวนเวลาที่กูเกิลอัปเดตอัลกอริทึมใหม่ๆ เข้ามากันเป็นประจำ เรารู้กันดีว่ากูเกิลพยายามที่จะอัปเดตอัลกอริทึมในการจัดอันดับการแสดงผลเว็บไซต์อยู่เสมอ เพื่อพัฒนาผลการค้นหาให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นการติดตามการอัปเดตจึงเป็นเรื่องที่นักการตลาดมือใหม่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ
6. ให้คำตอบที่ผู้คนอยากรู้
จะเห็นได้ว่าในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมาหนึ่งในฟีเจอร์ที่กูเกิลอัปเดตเข้ามาบน Google Search คือฟีเจอร์ที่เน้นการช่วยเหลือให้ผู้คนหาได้รับคำตอบที่ต้องการได้ไวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์อย่าง
- Featured Snippets (หรือ Answer Boxes)
- People Also Ask
- Knowledge Panels
- Local Packs
- Video Carousels
อย่างฟีเจอร์ Featured Snippets ที่จะเป็นลักษณะกล่องข้อความที่แสดงข้อมูลประเภทคำตอบง่ายๆ เบื้องต้นหรือวิธีทำที่อยู่ในตำแหน่งด้านบนสุด (เหนืออันดับ 1) ฉะนั้นในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ใดๆ อย่าลืมที่จะคาดเดาคำถามจากผู้ใช้งานและพยายามเขียนให้ตอบโจทย์คำถามต่างๆ นั้นให้ได้เพื่อที่จะเพิ่มโอกาสที่กูเกิลจะคัดเลือกคำตอบมาไว้ในตำแหน่ง Featured Snippets เป็นต้น
7. โปรโมตอย่างมีกลยุทธ์
การใช้ประโยชน์จากช่องทางการตลาดออนไลน์อื่นๆ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีความสำคัญในแง่ของการเพิ่มประสิทธิภาพของการทำ SEO ไม่ว่าจะเป็น
- เผยแพร่ผ่านช่องทางแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
- ใช้วิธีการทำ Email Marketing
- ใช้วิธีการทำ Influencer Marketing
- การทำโฆษณาแบบ PPC (Pay Per Click) ตามงบประมาณที่เหมาะสม
- ใช้เว็บไซต์อื่นๆ บล็อกโพสต์ (อ่านบทความแนะนำเว็บไซต์ต่างประเทศเพื่อช่วยโปรโมทเพิ่มเติมได้จากที่นี่)
8. ทำ Local SEO ด้วย Google Business Profile
การสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์กลายมาเป็นส่วนสำคัญของการทำ SEO ในปัจจุบันมากขึ้น การระบุข้อมูลธุรกิจลงใน Business Profile นอกจากการเพิ่มการเข้าถึงให้มายังสถานที่จริงของร้านคุณแล้ว ยังส่งผลโดยตรงต่อการจัดอันดับเว็บไซต์อีกด้วย เพราะโปรไฟล์ธุรกิจของคุณจะช่วยเพิ่มการมองเห็นและให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับผู้ค้นหาที่สนใจสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญคือ Google Business Profile นั้นใช้งานได้ฟรี สำหรับใครที่อยากรู้ว่าการมีโปรไฟล์ธุรกิจบน Business Profile ดีอย่างไร สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความนี้
การทำ SEO เป็นงานที่ไม่มีวันจบสิ้น ถึงแม้ว่าในสักวันหนึ่งกูเกิลจะบอกว่า”นี่จะเป็นการอัปเดต Google Algorithm เวอร์ชันสมบูรณ์แบบเป็นครั้งสุดท้ายก็ตาม” แต่ผลลัพธ์การแสดงผลของเว็บไซต์ก็จะยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ตราบใดที่คู่แข่งของคุณมีการปรับแต่ง SEO นั่นหมายความว่าหากต้องการให้เว็บไซต์มีอันดับที่ดีตลอดเวลาวิธีเดียวนั่นคือการทำงานอย่างหนักต่อไป เพียงจำไว้ว่าการทำ SEO คือการทำงานหนักที่หวังผลในระยะยาว เพียงเพราะว่าไม่เห็นผลลัพธ์ที่ดีในทันทีไม่ได้หมายความว่าคุณมาไม่ถูกทาง แน่นอนว่าตำแหน่งอันดับ 1 ในหน้าแรกของ SERPs เป็นเรื่องที่ยากลำบากพอๆ กับการถูกรางวัลแจ็กพ็อต แต่หากทุ่มเทและปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้ รับรองว่าการพาเว็บไซต์ทะยานขึ้นไปหน้าแรกนั้นไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินความสามารถแน่นอน
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com