นักการตลาดสายคอนเทนต์คงรู้กันดีว่าแค่การเขียนและเผยแพร่คอนเทนต์บนเว็บไซต์ของตนเองเพียงที่เดียวนั้นไม่เพียงพอต่อการสร้างยอด Traffic ให้เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ ในปัจจุบันนั้นเรากำลังอยู่ในยุคที่เรียกว่า “Content is Everywhere” ในทุกๆ เดือนบนโลกอินเทอร์เน็ตจะมีคนที่โพสต์คอนเทนต์ประมาณ 70 ล้านรายการ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ไม่ว่าจะขยับสายตาไปที่ไหนก็จะเห็นคอนเทนต์ละลานตาเต็มไปหมด
หากคุณเป็นนักการตลาดสายคอนเทนต์ที่ต้องการยืนอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่นี้ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ การรู้จักมองข้ามช็อต นั่นคือไม่เพียงแค่เผยแพร่คอนเทนต์บนเว็บไซต์ของตนเองเท่านั้น แต่ยังต้องมองหาช่องทางหรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ในการแชร์เนื้อหาของคุณเพื่อขยายการเข้าถึงต่อผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ลองถามตัวเองดูกันหน่อยว่าพร้อมที่จะขยายการเข้าถึงคอนเทนต์ของคุณรวมไปถึงปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ที่จะเพิ่มขึ้นแล้วหรือยัง? ในบทความนี้มาแนะนำ 10 เว็บไซต์ต่างประเทศที่เหมาะจะเป็นช่องทางเสริมในการแชร์เนื้อหาคอนเทนต์ ตั้งแต่แบบ เว็บไซต์สุดแมส Mainstream ไปจนถึงเว็บไซต์สุดจะ Niche
1.Medium
สำหรับ Medium เป็นเว็บไซต์ที่หลายคนยกไปเทียบกับ YouTube แพลตฟอร์มแชร์วิดีโอชื่อดัง เพราะ Medium.com คือเว็บไซต์ที่รวบรวมบทความจากนักเขียนทั้งมือสมัครเล่นไปจนถึงชื่อดังระดับโลก รวมถึงสำนักพิมพ์ นิตยสารชื่อดัง และแน่นอนว่ามีพื้นที่ให้เขียนบทความฟรีเหมือนกับบล็อกทั่วไปอีกด้วย
นอกจากนี้อินเทอร์เฟซของเว็บไซต์ยังดูเรียบง่ายน่าใช้งาน แถมไม่มีโฆษณารบกวนหรือทำให้เกิดความรู้สึกรำคาญระหว่างการอ่านบทความในเว็บหรือบนแอปฯ เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักอ่านเลย
อย่างไรก็ตาม ในบทความที่จะนำมาเผยแพร่ควรมีลิงก์ที่เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของเราด้วย อย่างในภาพตัวอย่างการเขียนบทความโดย DrumUp ก็มีการแนบลิงก์ไว้ในตอนท้าย ใครที่กำลังมองหาเว็บไซต์ต่างประเทศในการเผยแพร่บทความอยู่ อยากให้ลองมอง Medium เป็นตัวเลือกแรกๆ รับรองว่าถ้าอยากเพิ่ม Traffic บนเว็บไซต์ไม่มีผิดหวังแน่นอน
2.Reddit
ใครที่ไม่รู้จัก Reddit อธิบายง่ายๆ ก็คือเป็น Pantip ของฝรั่งนั่นเอง ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีลักษณะเป็นชุมชนออนไลน์ขนาดใหญ่ ด้วย Reddit เป็นเว็บไซต์ที่มีคนเข้าอันดับต้นๆ ของโลก และมีอิทธิพลทางสังคมออนไลน์ พอๆ กับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ อย่าง Facebook หรือ Twitter ฉะนั้นจึงเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ดูคุ้มค่าในการแชร์เนื้อหาคอนเทนต์
อย่างที่บอกว่า Reddit เป็นแพลตฟอร์มคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ดังนั้นการจะเลือกแชร์คอนเทนต์จะต้องทำอย่างถูกวิธี ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมอย่าง ”การสแปมเนื้อหาที่ดูจงใจเกินไป” เช่น การสมัครบัญชีเพื่อเข้ามาโพสต์แต่คอนเทนต์เนื้อหาของตนเอง ไม่เช่นนั้นแอคเคาท์อาจจะโดนชาว Redditors รุมกดรีพอร์ตก็ได้
3.LinkedIn Articles
LinkedIn เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถเผยแพร่บทความลงในบล็อกโพสต์ได้ในฟีเจอร์ LinkedIn Artiels ได้ แน่นอนว่าด้วยความเป็นแพลตฟอร์มโซเชีลมีเดียที่อาจจดูไม่ฮอตเท่ากับ Facebook แต่ด้วยความที่ LinkedIn มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ค่อนข้างสูงด้วยการที่เป็นแหล่งรวมคนทำงานเข้าไว้ด้วยกัน ฉะนั้นหากเนื้อหาคอนเทนต์สามารถตอบโจทย์ให้กับผู้ใช้งานเหล่านี้ได้ ผู้ใช้งานก็สามารถเลือกที่จะกดติดตามเพื่อสมัครติดตามโพสต์ต่างๆ นั่นหมายความว่าใครที่กดติดตามก็จะได้รับการแจ้งเตือนในทุกครั้งที่มีการเผยแพร่คอนเทนต์ใหม่ๆ ทันที
4.Listly
อีกหนึ่งเว็บไซต์ที่เหมาะแก่การแชร์คอนเทนต์นั่นคือ Listly ด้วยการที่สามารถใช้งานได้ทั้งบนเว็บไซต์และแอปฯ บนมือถือ ทำให้การดูเนื้อหาต่างๆ บนเว็บไซต์เป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ Listly ยังมีฟีเจอร์ที่สามารถให้ผู้ใช้งานกดปุ่มถูกใจทำให้นักการตลาดสามารถนำข้อมูลเชิงลึกนี้มาวัดผลได้ว่าคอนเทนต์ที่แชร์ไปนั้นมีฟีดแบ็กกลับมาอย่างไร
5.BizSugar
BizSugar เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รวบรวมทั้งผู้ประกอบการ ผู้จัดการ หรือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กเข้าด้วยกัน โดยสามารถแชร์วิดีโอ หัวข้อ หรือบล็อกต่างๆ ไปยังผู้ติดตาม ฉะนั้นสำหรับนักการตลาดที่ต้องการสร้างการเข้าถึงคอนเทนต์ที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์บทความ วิดีโอ หรือเนื้อหาประเภทอื่นๆ ก็สามารถทำได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถจัด Online Event ในหัวข้อต่างๆ เพื่อเป็นการขยายฐานผู้ติดตามได้อีกด้วย
6.Copyblogger
CopyBlogger เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมทฤษฎีการเขียนทุกอย่างที่นักเขียนออนไลน์ต้องรู้ ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการเขียน Copywriting ตลอดจนการทำดิจิทัลคอนเทนต์ที่สามารถนำไปปรับใช้กับการสื่อสารการตลาดออนไลน์ หากคุณมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเคล็ดลับสร้างงานเขียนให้น่าสนใจ หรือเรื่องน่ารู้ของการทำคอนเทนต์ที่หาอ่านที่ไหนไม่ได้ ก็สามารถใช้แพลตฟอร์มนี้ในการเผยแพร่เนื้อหาคอนเทนต์ได้เช่นกัน
7.Dzone
หากเนื้อหาของคุณเป็นประเภทฮาวทูหรือเทคนิคที่ค่อนข้างละเอียดเกี่ยวกับการเขียนเว็บและ Data ต่างๆ การใช้งานเว็บไซต์ Dzone เป็นหนึ่งในตัวเลือกลำดับต้นๆ ที่ควรลอง เพราะที่นี่คือแหล่งรวมตัวของบรรดาผู้คนที่หลงใหลการเขียนเว็บ แถมในบล็อกของเว็บไซต์ยังมีการจัดหมวดหมู่เนื้อหาแยกตามประเด็นต่างๆ ไว้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น AI, Big data, Cloud, Databse, DevOps, IoT, Web Dev เป็นต้น
8.Quora
“ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์” คือหนึ่งในคอนเซปต์ของเว็บไซต์ Quora ที่ถูกออกแบบมาเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีการถาม-ตอบ (Q&A) และมีการจัดหมวดหมู่ตามเนื้อหาที่ผู้ใช้งานสนใจ
ด้วยความที่เป็นแพลตฟอร์มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง จึงกลายมาเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และแน่นอนว่าในฐานะนักการตลาดที่ต้องการแชร์เนื้อหาคอนเทนต์ของตนเอง Quora ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางเสริมที่น่าสนใจ
9.GrowthHackers
สำหรับเว็บไซต์ Growthhackers เป็นการรวมความต้องการของกลุ่มธุรกิจส่วนใหญ่ที่ต้องการเติบโตและเอาชนะอุปสรรคใหม่ๆ ฉะนั้นเนื้อหาคอนเทนต์ในเว็บไซต์จะเน้นที่รายละเอียดและข้อมูลเชิงลึกต่างๆ เกี่ยวกับทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง นักการตลาดที่ถือครองคอนเทนต์ประเภทเคล็ดลับที่ไม่ลับ หรือเทคนิคต่างๆ ก็สามารถใช้เว็บไซต์ GrowthHackers นี้เป็นอีกหนึ่งช่องทางเสริมในการโปรโมตคอนเทนต์หรือเว็บไซต์ได้เช่นกัน
10.Scoop.It
Scoop.it เป็นเว็บไซต์ที่มีผู้ใช้รายเดือนมากกว่าสองล้านราย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ทรงพลังสำหรับนักการตลาด โดยการทำงานของ Scoop.it จะทำหน้าที่เป็น Content Curator ที่ผู้ใช้งานจะต้องเลือกหัวข้อที่สนใจ จากนั้นระบบจะเริ่มค้นหาเนื้อหาที่ตรงกับหัวข้อขึ้นมาจาก Source ต่างๆ แล้วผู้ใช้ก็จะสามารถเลือกเนื้อหานั้นๆ เพื่อดูหรือแชร์ต่อก็ได้ โดยเนื้อหาที่ถูกเลือกไว้นั้นยังสามารถนำมาจัดเก็บไว้ในหมวดหมู่ที่สร้างไว้และสามารถแชร์ให้กับคนอื่น สำหรับนักการตลาดก็สามารถโพสต์บทความเพื่อหวังให้ผู้ใช้งานเห็นและเกิดการแชร์ต่อหากเนื้อหานั้นตรงใจก็ได้เช่นกัน
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com