ก่อนหน้านี้ในช่วงรอบปีที่ผ่านมา Meta ได้มีการประกาศฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมายทั้งใน Facebook และ Instagram โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้ทั้งครีเอเตอร์ แบรนด์ และนักการตลาดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสามารถที่จะสร้างคอมมูนิตี้ใหม่ๆ ขยายการเข้าถึงคอนเทนต์สู่ผู้ใช้งานมากขึ้น รวมไปถึงการรับรายได้ผ่านคอนเทนต์ต่างๆ
ต้องบอกว่าในรอบสองปีที่ผ่านมาการแข่งขันของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมีความเข้มข้นชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใคร เห็นได้จากการเติบโตแบบก้าวกระโดดของ TikTok การมาถึงของ OnlyFans, Clubhouse หรือแม้แต่ Twitter ที่ล่าสุดมีการเปลี่ยนมือ CEO คนใหม่เป็นมหาเศรษฐีเจ้าของ Tesla อย่างอีลอน มัสก์ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม อีลอน มัสก์ ปิดดีลทวิตเตอร์แล้ว) ก็เป็นเรื่องที่น่าติดตามว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
และแน่นอนว่า Meta บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Instagram และ Facebook ก็ย่อมไม่น้อยหน้าในศึกยกนี้ที่เริ่มทยอยปล่อยฟีเจอร์ใหม่ๆ มารองรับผู้ใช้งานทั่วไป ครีเอเตอร์ และแบรนด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดฐานผู้ใช้งานให้เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นในบทความนี้ Relevant Audience ได้รวบรวมฟีเจอร์ใหม่ 4 รายการจาก Meta มาให้รับชมกัน จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย
- ฟีเจอร์ Digital Collectibles
สำหรับ Digital Collectibles เป็นฟีเจอร์บน Instagram ถูกออกแบบมาเพื่อแสดงผลงาน NFTs จากเจ้าของผลงานหรือนักสะสม เพื่อเป็นการขยายฐาน NFTs ให้เติบโตมากขึ้น นึกภาพง่ายๆ ว่าฟีเจอร์นี้จะเหมือนกับการที่เราเอา Digital Assets ของเรามาแชร์ผ่านช่องทางแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ในที่นี้คือ Instagram ไม่ว่าจะเป็นงาน ศิลปะ รูปภาพ วิดีโอต่างๆ ผ่านเทคโนโลยี Blockchains
โดยผู้ใช้งาน ครีเอเตอร์ หรือเจ้าของผลงาน NFTs สามารถแชร์ NFTs ของตัวเองผ่านทางหน้าฟีดหลัก บนไอจีสตอรี่ หรือ DM ก็ได้ นอกจากการแชร์เพื่อการจัดแสดงแล้วยังรวมไปถึงการซื้อขายแลกเปลี่ยน เพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถสนับสนุนผลงาน NFTs จากศิลปินที่ชื่นชอบได้ เพราะตัวฟีเจอร์จะมีการเชื่อมต่อกับ Digital Wallet ไม่ว่าจะเป็น Rainbow MetaMask Trust Wallet รวมไปถึงพวกกลุ่ม Coin Wallet เช่น Phantom Wallet ด้วย
ฉะนั้นแล้วในฐานะแบรนด์หรือนักการตลาดต้องไม่ลืมว่าอุตสาหกรรม NFTs ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ในอนาคตตลาด NFTs ยังมีโอกาสเติบโตขึ้นอีกมาก ดังนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นการเกาะกระแสเพื่อจับเทรนด์นี้ไปใช้ในแคมเปญการตลาด หรือครีเอเตอร์ทั่วไปที่ต้องการสร้างคอนเทนต์ไวรัลให้ Go Mass ไปทั่วโลก สำหรับฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดตัวให้ผู้ใช้งานบางส่วนใน US แล้ว และจะมีการขายไปยังประเทศอื่นๆ ในเร็วๆ นี้ ต้องรอติดตามกันต่อไป
- ฟีเจอร์ “Subscriptions on Instagram”
จากการเปิดตัวให้ผู้ใช้งานใน US เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่บน Instagram ที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย นั่นคือฟีเจอร์ Subscribe ที่จะอนุญาตให้ผู้ใช้งานจ่ายเงิน เพื่อเข้าชมเนื้อหาสุดเอกซ์คลูซีฟของครีเอเตอร์แต่ละคนที่เรากด Subcribe เอาไว้ โดยจะเป็นการแยกโปรไฟล์ออกมาจากโปรไฟล์ปกติ สำหรับผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียชาวไทยคงคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มที่เน้น Subscription Model ประเภทนี้กันมาก่อนแล้ว เช่น OnlyFan ที่ผู้ใช้งานจะต้องยอมเสียเงินเพื่อการเข้าถึงเนื้อหาพิเศษเฉพาะของแต่ละครีเอเตอร์ โดยทางฟีเจอร์ Subcribe ของไอจีนั้นจะมีด้วยกันสองรูปแบบคอนเทนต์ คือ IG Stories และ Live Video โดยตัวครีเอเตอร์สามารถกำหนดได้ว่าจะเลือกเผยแพร่แต่ละคอนเทนต์อย่างไร คอนเทนต์ไหนที่จะเปิดให้ผู้ติดตามแบบปกติได้รับชมหรือคอนเทนต์ไหนจะเป็นให้เฉพาะผู้ติดตามแบบ Subscribe เท่านั้น ก็สามารถตั้งค่าเอาไว้ได้
สำหรับราคาครีเอเตอร์ก็สามารถกำหนดราคาได้โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่ 0.99 ดอลลาร์ ไปจนถึงมากสุดที่ 99.99 ดอลลาร์ต่อเดือน โดยผู้ติดตามที่กด Subscribe ก็จะมี Subscribe Badge หรือสัญลักษณ์ที่บอกว่าผู้ใช้งานคนนี้กด Subscribe ของครีเอเตอร์ช่องนั้น อย่างที่บอกว่าฟีเจอร์นี้ได้เปิดให้ผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ได้ทดลองใช้ไปสักพักแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นาน Meta คงเริ่มทยอยให้ผู้ใช้งานประเทศอื่นๆ ได้ใช้งานกันภายในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน
- ฟีเจอร์ “Stars and Gift”
Meta ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Stars and Gift บน Instagram Reels เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางหารายได้เพิ่มเติมให้กับครีเอเตอร์ โดยระบบนี้เรียกง่ายๆ ว่าเป็นการให้ทิปกับครีเอเตอร์ที่ชื่นชอบได้ เพียงแค่ครีเอเตอร์เปิดระบบ Gift โดยจะมีฟังก์ชันการทำงานที่คล้ายกับฟีเจอร์ Badge บน Facebook ที่หากผู้ติดตามจ่ายเงินเพื่อซื้อ Badge แล้วก็จะมีไอคอนเป็นสัญลักษณ์หน้าชื่อระหว่างการดู Live
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Stars Party โดยเป็นวิธีร่วมสนุกสำหรับผู้ติดตามหลายคนในการส่งของขวัญร่วมกัน จะเป็นเก็บสะสมแต้มเมื่อมีผู้ติดตามส่งของขวัญ และถ้าหากครบหลอดสะสมแล้ว ก็จะมีการแสดงแอนิเมชันขึ้นมาพร้อมตัวครีเอเตอร์ก็จะได้รับโบนัสเพิ่มเติมเป็นของรางวัล โดยฟีเจอร์ Stars and Gifts นี้ได้มีการให้ครีเอเตอร์บางส่วนในสหรัฐฯ แล้ว และจะมีการขยายให้มากขึ้นภายในเร็วๆ นี้
- โปรไฟล์ Facebook แบบ Professional Mode
โปรไฟล์ Facebook แบบ Professeional Mode คือฟีเจอร์ที่ถูกออกแบบมาให้สำหรับครีเอเตอร์ที่ไม่อยากสร้าง Page ของตัวเองใหม่ แต่ยังคงต้องการใช้หน้าโปรไฟล์เดิมของตัวเองในการสร้างรายได้เพิ่มเติมผ่านโฆษณาต่างๆ และสามารถใช้เครื่องมือต่างๆ ที่เทียบเท่ากับหน้าเพจได้ ไม่ว่าจะเป็น Audience Analytics, Education Resources และอื่นๆ อีกมากมาย
โดยครีเอเตอร์ที่ต้องการใช้ฟีเจอร์นี้จำเป็นที่จะต้องเปิดใช้งาน Professional Mode ในหน้าโปรไฟล์ก่อน และเปิดให้ใช้งานได้เฉพาะกลุ่มครีเอเตอร์บางส่วนในสหรัฐฯ เท่านั้นในตอนนี้
ทิ้งท้าย
ฟีเจอร์ข้างต้นจาก Meta นี้ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะเป็นการดึงดูดผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้ง Facebook และ Instagram ให้เพิ่มมากขึ้น และแน่นอนว่าฟีเจอร์เหล่านี้ก็เป็นประโยชน์สำหรับกลุ่มครีเอเตอร์ แบรนด์ หรือนักการตลาดที่กำลังมองหาช่องทางใหม่ๆ ในการทำการตลาดออนไลน์ อย่างไรก็ตามฟีเจอร์ส่วนใหญ่ยังคงถูกเปิดให้ใช้เฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น แต่เชื่อว่าเมื่อเข้าปี 2023 แล้ว ฟีเจอร์เหล่านี้คงเริ่มทยอยเปิดให้ผู้ใช้งานทั่วโลกได้ทดลองกันบ้าง อย่างไรก็เตรียมตัวเอาไว้ก่อน เมื่อมาถึงแล้วจะได้เริ่มก่อนใคร!
Source: Searchengineland
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com