ผู้ประกอบการธุรกิจที่คุ้นชินกับการใช้งาน Google Business Profile (GBP) อยู่แล้วคงพอจะทราบกันบ้างว่าในปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ กูเกิลมีการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ รวมถึงมีการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องมือให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้นอยู่เสมอ ซึ่งถือว่าเป็นผลดีต่อผู้ใช้งานที่ต้องการขยายฐานลูกค้าให้เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่อย่างไรก็ตาม การอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ หรือการเปลี่ยนข้อกำหนดกฎเกณฑ์บางอย่างของกูเกิล อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นใช้งาน GBP กลายเป็นว่าแทนที่ฟีเจอร์ใหม่ๆ ของกูเกิลจะส่งผลดีต่อการใช้งานแต่ดันเป็นอุปสรรคสำคัญของผู้ใช้งานแทนซะอย่างนั้น
ในบทความนี้จึงนำ 5 คำถามปัญหาสุดฮิตที่ต้องเจอเป็นประจำสำหรับผู้ประกอบการที่กำลังเริ่มต้นใช้งาน Business Profile อยู่ตอนนี้ จะมีข้อไหนบ้างที่เคยเจอแล้วไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร มาดูไปพร้อมกัน
1. บัญชี Business Profile ถูกระงับ มีวิธีแก้ไขอย่างไร?
หนึ่งในปัญหายอดฮิตที่หลายคนเจอ คือ วันดีคืนดีกูเกิลส่งอีเมลแจ้งเตือนมาว่า “ข้อมูลทางธุรกิจบน Business Profile ถูกระงับ” แน่นอนว่าหลายคนที่เคยเจอข้อความแบบนี้คงใจสลายแน่นอน โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจที่ใช้ Google Business Profile เป็นแพลตฟอร์มหลักในแผนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ก็ไม่ต่างกับการใส่ไข่ทั้งหมดลงในตะกร้าใบเดียวแล้ววันดีคืนดีตะกร้าใบนั้นดันแตกขึ้นมา
ต้องอธิบายว่าการระงับข้อมูลทางธุรกิจโดยกูเกิลหลักๆ แล้วจะมีอยู่ด้วยกันสองรูปแบบคือ “Soft Suspension” และ “Hard Suspension”
- สำหรับ Soft Suspension ข้อมูลทางธุรกิจยังคงสามารถแสดงผลบนหน้า SERPs แต่จะไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลใดๆ ได้ และจะต้องทำการ Verified ข้อมูลใหม่ทั้งหมดกับกูเกิล
- แต่หากข้อมูลธุรกิจถูกระงับในลักษณะ Hard Suspension นั่นหมายความว่าข้อมูลธุรกิจจะไม่สามารถปรากฏหรือแสดงผลใดๆ ในเครือข่ายของกูเกิลทั้งหมด
ที่สำคัญคือกูเกิลจะไม่มีการแจ้งเหตุผลประกอบว่าทำไมข้อมูลธุรกิจจึงถูกระงับ ดังนั้นข้อแนะนำคือ ให้เข้าไปอ่านหลักเกณฑ์ไกด์ไลน์เกี่ยวกับข้อมูลทางธุรกิจบน GBP ได้ที่นี่ จากนั้นให้ลองเทียบทีละบรรทัดว่าโปรไฟล์ธุรกิจไปขัดกับส่วนไหนหรือไม่ เมื่อระบุปัญหาได้แล้วทีนี้ก็ถึงเวลาที่จะส่งคำขอไปให้กูเกิลรับทราบและช่วยแก้ไขปัญหาให้ โดยต้องระบุปัญหาที่เกิดขึ้น และแจ้งให้กูเกิลทราบว่าได้มีการแก้ไขปัญหานั้นแล้ว โดยสามารถแสดงหลักฐานประกอบแนบไปด้วยได้ ไม่ว่าจะเป็น
- รูปถ่ายป้ายหน้าร้านทั้งภายในและภายนอกอาคาร
- สำเนาใบอนุญาตการประกอบธุรกิจ
- ใบยืนยันอนุญาตประกอบธุรกิจอื่นๆ ในประเทศนั้นๆ
- รูปถ่ายของยานพาหนะของบริษัท (หากเป็นธุรกิจที่ให้บริการในพื้นที่)
- บิลค่าโทรศัพท์พร้อมชื่อและที่อยู่ธุรกิจ
ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นการพิสูจน์และยืนยันต่อกูเกิลว่าธุรกิจนี้เป็นของจริงและถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากที่ส่งคำขอการแก้ไขแล้วก็เพียงแค่รอให้ทางกูเกิลตรวจสอบข้อมูล โดยปกติจะใช้เวลา 2 – 3 วัน จากนั้นกูเกิลจะส่งอีเมลการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาให้เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
2. ข้อมูลธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ตั้งแล้วแต่ผลการค้นหายังไม่เปลี่ยน มีวิธีแก้ไขอย่างไร?
อีกหนึ่งปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำคือปัญหาการแสดงผลที่ตั้งธุรกิจที่ไม่ได้อัปเดตตรงตามจริง ตัวอย่างเช่น ธุรกิจแบบ Service Area Business มีการย้ายที่ตั้งไปยังอีกจังหวัดหนึ่ง สมมติว่าจากกรุงเทพไปยังชลบุรี ทีนี้เจ้าของธุรกิจมีการเปลี่ยนที่อยู่เป็นที่อยู่ใหม่ในชลบุรีแล้ว โดยหลักก็จะต้องลบที่อยู่เดิมและเลือกชลบุรีเป็นพื้นที่ให้บริการใหม่ ฟังดูแล้วก็ดูปกติไม่น่าเกิดปัญหาอะไรใช่ไหม? แต่ในบางครั้งกลับพบว่าในหน้า SERPs ยังปรากฏที่ตั้งเดิมไม่ใช่ตำแหน่งใหม่
หากพบว่าข้อมูลธุรกิจของคุณอยู่ในสถานการณ์ประหลาดนี้ ในการแก้ไขปัญหานี้วิธีที่ดีที่สุดคือให้ไปที่ Google Business Profile Help Forum จากนั้นให้กรอกรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
- ชื่อธุรกิจ
- ที่ตั้งของธุรกิจทั้งของเก่าและของใหม่
- URL ของเว็บไซต์
- Business Profile ID
จากนั้นรอให้กูเกิลเข้ามารับเรื่องและใช้เวลาในการประเมินและแก้ไขปัญหา
3. ในบัญชีผู้ใช้งาน จะเพิ่ม Managers หรือ Owner ได้อย่างไร?
ในการให้สิทธิ์การแก้ไขข้อมูลธุรกิจแก่คนอื่น จะต้องเริ่มจากการที่คุณเป็นบัญชีผู้ใช้งานหลักของโปรไฟล์ธุรกิจนั้นๆ โดยเริ่มจากจากไปที่หน้า Advance Menu ในหน้า Merchant Panel บน Google Search จากนั้นให้คลิกที่สัญลักษณ์จุดสามจุดตามรูปภาพตัวอย่าง
จากนั้นให้คลิกไปที่ Business Profile Setting
ระบบจะแสดงเมนู Manager Option ที่สามารถเพิ่ม แก้ไขหรือลบสิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูลธุรกิจของบัญชีนั้นๆ ได้
หากต้องการเพิ่ม Manager หรือ Owner สำหรับโปรไฟล์ธุรกิจ ก็คลิกไปที่ Add จากนั้นก็สามารถส่งคำเชิญทางอีเมลไปยังบัญชีที่ต้องการให้สิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูลต่างๆ
สำหรับข้อแตกต่างระหว่าง Manager กับ Owner คือ หากเป็น Owner จะมีสิทธิ์ในการแก้ไข เพิ่มหรือโอนความเป็นเจ้าของโปรไฟล์ธุรกิจนั้นได้ แต่หากเป็น Manager จะอยู่ในลักษณะที่จำกัดกว่า ซึ่งเหมาะสำหรับเอเจนซีการตลาดหรือพนักงานในบริษัทที่มีหน้าที่อัปเดตข้อมูลธุรกิจ
4. Postcard PIN ไม่สามารถใช้งานได้ แก้ไขอย่างไร?
สำหรับใครที่ใช้งาน Google Business Profile จะต้องเคยผ่านขั้นตอนสมัครใช้งานซึ่งจะต้องผ่านขั้นต่อการรอรับ PIN (รหัสยืนยันตัวตนธุรกิจ) ที่ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องบอกว่าเป็นปัญหาที่ทำให้ไมเกรนขึ้นได้ง่ายๆ นั่นคือปัญหา PIN ที่ได้รับมากลับนำไปยืนยันตัวตนเพื่อเปิดการใช้งานโปรไฟล์ไม่ได้! ปัญหานี้มีเหตุผลด้วยกันหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น
- รหัสยืนยัน PIN นี้จะหมดอายุหลังจาก 30 วัน ฉะนั้นหากมีคำขอ PIN นี้นานกว่า 30 วัน รหัส PIN นี้จะหมดอายุและไม่สามารถใช้งานได้ หากพบว่าปัญหาเกิดจาก PIN หมดอายุวิธีแก้ไขคือส่งคำขอรหัสใหม่อีกครั้ง
- ปัญหาข้อกำหนดหลักเกณฑ์ตาม Google’s Address Guidelines ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากที่ผู้ประกอบการธุรกิจจะต้องแน่ใจก่อนยืนยันคำขอเปิดใช้งานว่าที่ตั้งของธุรกิจถูกต้องและเป็นไปตามข้อกำหนด เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหาในการเปิดใช้งาน Business Profile ได้
- การส่งคำร้องขอ PIN ที่ซ้ำซ้อนหรือการแก้ไขข้อมูลสำคัญใดๆ ในโปรไฟล์ธุรกิจ เช่น ชื่อธุรกิจ ที่อยู่ หรืออื่นๆ กูเกิลจะยกเลิก PIN ทันทีหากพบว่ามีการแก้ไขข้อมูลสำคัญๆ บนโปรไฟล์ธุรกิจที่ได้ส่งคำร้องขอ PIN ไปแล้ว ดังนั้นหากเกิดปัญหานี้วิธีแก้ไขคือต้องส่งคำร้องขอ PIN ใหม่อีกครั้ง
- การป้อนรหัส PIN ไม่ถูกต้องเกิน 5 ครั้ง ก็จะเป็นผลให้รหัส PIN นั้นไม่สามารถใช้ได้ วิธีแก้ไขคือต้องลบข้อมูลธุรกิจนั้นออกจากบัญชีผู้ใช้งาน และสร้างโปรไฟล์ใหม่ พูดง่ายๆ คือเริ่มต้นสร้างข้อมูลธุรกิจใหม่อีกครั้งหนึ่งนั่นเอง
ทั้งหมดนี้คือสาเหตุหลักที่ทำให้รหัส PIN ใช้งานไม่ได้
5. แก้ไขข้อมูล Business Profile บน Google Search ได้ไหมและทำอย่างไร?
ใครที่ใช้งาน Google Business Profile คงเคยเห็นแบนเนอร์สีฟ้าเล็กๆ ที่กูเกิลโปรโมตให้ลองแก้ไขข้อมูล Business Profile ผ่าน Google Search กันมาบ้าง
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามการจัดการแก้ไขข้อมูล Business Profile เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการธุรกิจส่วนใหญ่ต้องทำความคุ้นเคย ไม่ว่าคุณจะมีโปรไฟล์ธุรกิจเพียงแห่งเดียวหรือเป็นเอเจนซีที่ต้องคอยจัดการข้อมูลธุรกิจเป็นสิบที่ การเข้าใจวิธีจัดการโปรไฟล์ในรูปแบบใหม่ๆ ก็นับได้ว่าเป็นความคิดริเริ่มในการทำงานการตลาดออนไลน์ที่ดี หากใครที่มีบัญชีผู้ใช้งาน Business Profile และอยากลองใช้งานแก้ไขข้อมูลผ่าน Google Search สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในบทความนี้
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com