ในยุคที่เทคโนโลยี AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกวงการ วงการโฆษณาออนไลน์ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง Google Ads ที่กำลังนำ AI มาใช้ในการพัฒนาระบบโฆษณาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบอย่างไรต่อนักการตลาดออนไลน์? แล้วเราจะปรับตัวกับโฆษณา AI อย่างไรในก้าวทันคู่แข่ง?
ในบทความนี้ เราจะมาอธิบายถึงผลกระทบของโฆษณา AI ต่อแคมเปญ PPC โดยรวม พร้อมแนะนำ 5 วิธีใช้ AI ยิงแอดให้มีประสิทธิภาพ สร้าง Conversion ให้ตรงเป้าหมาย
ผลกระทบของ AI ต่อ Search Volume และ CTRs
เมื่อพูดถึงโฆษณา AI ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผลกระทบที่สำคัญประการหนึ่งต่อการค้นหาใน Google คือ การเพิ่มขึ้นของปริมาณการค้นหา อย่างไรก็ตามผลลัพธ์แบบ Organic กลับไม่ได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นนี้ สาเหตุหลักมาจากการที่ Google นำเสนอ AI Overviews บนหน้าผลการค้นหา ซึ่งทำให้ผล Organic Search ถูกดันลงไปอยู่ด้านล่างของหน้า SERPs โดยข้อมูลจาก Crowe ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้อัตราการคลิก (CTR) ลดลงถึง 60% และ Organic Traffic อาจลดลงมากถึง 30% ซึ่งส่งผลกระทบต่อแทบทุกเว็บไซต์อย่างแน่นอน
ผลกระทบของ AI Overviews ต่อ Advertisers
ในทางกลับกัน สถานการณ์ AI ดูจะให้ผลเชิงบวกสำหรับนักโฆษณา เนื่องจาก Google วางตำแหน่งโฆษณาไว้เหนือ AI Overviews ทำให้โฆษณาได้รับการแสดงผลในตำแหน่งที่เด่นชัดกว่าเดิม ดังนั้น นี่จึงอาจเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจในการเพิ่มงบประมาณโฆษณาบน Google Ads เพื่อใช้ประโยชน์จาก Placement ใหม่นี้
ผลกระทบของ AI ต่อ CPC
แม้ว่าบางคนอาจคาดการณ์ว่าราคาต่อคลิก (Cost per Click: CPC) อาจลดลงเนื่องจากมีพื้นที่โฆษณาเพิ่มขึ้น แต่ไม่ควรคาดหวังมากเกินไป เพราะราคา CPC ที่สูงยังคงเป็นปัญหาสำหรับนักโฆษณาส่วนใหญ่ และหากมีการลดลงจริง ก็มีการคาดการณ์ว่าอาจพบได้ในแคมเปญแบบ Performance Max และ Demand Gen มากกว่าใน Search Campaign ทั่วไป
Keyword ในการค้นหาจะเปลี่ยนไปเพราะ AI หรือไม่?
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักโฆษณาทั่วโลกอาจเห็นถึงประสิทธิภาพแคมเปญที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากการใช้คีย์เวิร์ดเดี่ยวๆ ในการกำหนดเป้าหมาย และผู้เชี่ยวชาญด้านโฆษณาหลายคนก็คาดการณ์ว่าแนวโน้มนี้จะยังคงดำเนินต่อไป และด้วยการมาถึงของแคมเปญที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น Performance Max และ Demand Gen ดูเหมือนว่าการโฆษณาแบบค้นหาแบบดั้งเดิมที่ใช้คีย์เวิร์ดเดี่ยวๆ กำลังจะหมดความสำคัญลง
อย่างไรก็ตาม การใช้คีย์เวิร์ดในการโฆษณาที่เคยถูกมองว่ากำลังจะหมดความสำคัญ กลับมีแนวโน้มที่จะได้รับความสนใจอีกครั้ง ด้วยเหตุผล 2 ข้อ คือ
- การลดลงของ Organic Traffic มากถึง 30% อย่างที่คาดการณ์ อาจเป็นการเปิดโอกาสให้ Search Ads เข้ามาแทนที่
- Google ได้ประกาศการปรับปรุงระบบการจับคู่คำค้นหาสำหรับโฆษณาและการควบคุมแบรนด์ (Query Matching และ Brand Controls) ซึ่งเป็นอัปเดตที่ให้ความสำคัญกับการค้นหาที่นักโฆษณารอคอยมานาน
จากผลกระทบทั้งหมดที่ได้กล่าวไปข้างต้น สามารถเห็นได้ชัดเจนว่า นักการตลาดออนไลน์ต้องปรับตัวและเฝ้าศึกษาการเปลี่ยนแปลงทั้งบนแคมเปญ Performance Max ไปจนถึง Display Ads เพื่อ Optimize แคมเปญให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด แล้วจะมีวิธีใช้ AI ยิงแอดอย่างไรบ้าง? อ่านต่อด้านล่างได้เลย!
5 วิธีรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของ AI ในโฆษณา Google
1. ทำความเข้าใจกับ Match Types ใหม่
Broad match ในปัจจุบันแตกต่างจากในอดีตมาก โดย AI จะใช้ข้อมูลบริบทและข้อมูลอื่นๆ เช่น คีย์เวิร์ดใน Ad Group, หน้า Landing Page รวมถึงพฤติกรรมการค้นหาและตำแหน่งของ User เพื่อทำความเข้าใจเจตนาของการค้นหา ทำให้นักการตลาดต้องปรับตัวในส่วนนี้ตามไปด้วยเช่นกัน
2. ศึกษารูปแบบแคมเปญใหม่ของ Google
เมื่อ Google ตั้งใจพัฒนา AI อย่างจริงจัง แน่นอนว่าแคมเปญที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่าง Performance Max กำลังมีบทบาทสำคัญมากขึ้น จึงขอแนะนำให้นักการตลาดลองเพิ่มแคมเปญ Performance Max เข้าไปในกลยุทธ์การโฆษณา พร้อมวัดผลลัพธ์ และศึกษาข้อดีข้อเสียของแคมเปญรูปแบบนี้เมื่อเทียบกับแคมเปญปัจจุบันที่ออนไลน์อยู่
3. หาจุดสมดุลระหว่าง Match Types และประเภทแคมเปญ
เพราะไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวในการทำ Performance Max หรือ Search Ads เราจึงต้องทดสอบเพื่อหาจุดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับโฆษณา Google ในแต่ละแคมเปญ
4. หลีกเลี่ยงการ Copy and Paste กลยุทธ์แคมเปญ
สำหรับนักการตลาดในเอเจนซี่หรือแบรนด์ที่ยิงแอดแคมเปญหลายๆ ตัว คงทราบกันดีว่ากลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จในหนึ่งแคมเปญอาจใช้ไม่ได้กับอีกแคมเปญหนึ่ง แม้จะเป็นธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกันก็ตาม ดังนั้นเราต้องปรับแต่งกลยุทธ์ให้เหมาะกับแต่ธุรกิจและเป้าหมายแคมเปญอย่างสม่ำเสมอ
5. ลงทุนในการผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ
เนื่องจาก AI-Generated Content มีจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้ทาง Google กำลังเผชิญกับวิกฤตการ Crawl และ Index เนื้อหา เนื่องจากปริมาณเนื้อหาอันมหาศาล ด้วยเหตุนี้ Google จึงอาจไม่ Index เนื้อหาทั่วไปที่ดูซ้ำๆ เดิมๆ (Generic Content) ดังนั้นจึงขอแนะนำให้นักการตลาดให้ความสำคัญกับการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ สร้างขึ้นจากประสบการณ์ หรือมีการสอดแทรกความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ ก็จะช่วยให้เนื้อหาโดดเด่นและได้อันดับ Ranking ที่ดีขึ้น
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจาก AI ใน Google Ads นี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น นักการตลาดจำเป็นต้องติดตามการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งวิธีใช้ AI ยิงแอดจะยังคงเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในอนาคตอย่างแน่นอน ซึ่งการมาถึงของ AI ในโลกของ โฆษณา Google ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว แต่เป็นโอกาสใหม่สำหรับนักการตลาดที่พร้อมเรียนรู้และปรับตัว การเข้าใจถึงผลกระทบของ AI และการปรับใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ได้อย่างเต็มที่ และประสบความสำเร็จในการทำการตลาดออนไลน์ในยุค AI นี้
เกี่ยวกับ Relevant Audience
พวกเรา Relevant Audience คือ Digital Performance Marketing Agency ที่เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO และเป็นหนึ่งใน Digital Agency ที่มีบริการด้านการตลาดดิจิทัลครบวงจร เพื่อสนับสนุนธุรกิจให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในเวลา สถานที่ และบนอุปกรณ์ที่เหมาะสม (Right Time, Right Place, Right Device)
บริการของเราครอบคลุมทั้งบริการทำ SEO, Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads ไปจนถึง Influencer Marketing และเรายังเป็น SEO Company ที่เป็น Google Partners อีกด้วย โดยทีมของเราล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมให้คำปรึกษาและค้นหาโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ปรึกษาทำการตลาดออนไลน์
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com