ในช่วง 10 ปีก่อนหน้า หากใครพูดถึงเรื่อง Data Privacy อาจจะดูเป็นคนที่มาก่อนกาลไปหน่อย แต่ในปัจจุบัน Data Privacy กลายเป็นเทรนด์ที่ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจไหน แบรนด์ใด ก็จำเป็นที่ต้องศึกษาทำความรู้จักเอาไว้เพื่อตอบสนองพฤติกรรมการบริโภคข้อมูลของคนในปัจจุบันที่ตระหนักถึงสิทธิของข้อมูลส่วนตัวกันมากขึ้น เน้นความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวเป็นหลัก
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้เหล่านักการตลาดหลายต่อหลายคนต้องกุมขมับ เพราะการทำการตลาดออนไลน์ในปัจจุบันจำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อทำการตลาดแบบ Personalized Marketing เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้ารายบุคคแบบตรงจุด อย่างไรก็ตามใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ก็อย่าเพิ่งตกใจไปว่า การมาถึงของ Data Privacy จะกลายเป็นการสร้างภาระอันใหญ่หลวงให้กับนักการตลาดมากเกินไปหรือเปล่า เพราะแท้ที่จริงแล้วเทรนด์นี้ก็ยังมีข้อดีมากมายที่ช่วยให้นักการตลาดทำงานง่ายขึ้น จะมีอะไรบ้าง ในบทความนี้ Relevant Audience ได้รวบรวมมาให้รู้กันแล้ว ไปดูกันเลย
ประโยชน์ 3 ประการ ที่ Data Privacy ช่วยให้นักการตลาดทำงานง่ายขึ้น
- งบประมาณด้านการตลาดเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับเทรนด์การทำ Data Privacy
เมื่อโลกของการตลาดออนไลน์หมุนมาอยู่ในจุดที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ ”เน้นความเป็นส่วนตัวของข้อมูล” มากขึ้น จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่หลายๆ แบรนด์ที่กำลังแข่งขันในโลกของการตลาดออนไลน์ จำเป็นที่จะต้องเพิ่มงบประมาณเพื่อสร้างโซลูชันใหม่แต่ในขณะเดียวกันก็ยังต้องสอดคล้องกับนโยบายของ Data Privacy จึงทำให้แบรนด์จำเป็นต้องเพิ่มงบประมาณในส่วนนี้มากขึ้น โดยมีผลการสำรวจจาก HubSpot พบว่า นักการตลาด 48% ระบุตรงกันว่าในปีที่ผ่านมาบริษัทมีการปรับงบประมาณในส่วนของการตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเทรนด์การเข้ามาของ Data Privacy
- Data Privacy ส่งผลให้ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เทรนด์ Data Privacy กำลังทำให้โลกการตลาดออนไลน์กำลังกลายเป็นโลกแบบ “Cookieless World” หรือก็คือวิธีการเก็บข้อมูลแบบ Third Party กำลังจะหายไป ด้วยวิธีการเก็บข้อมูลผ่านคุกกี้ทำให้แบรนด์จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลของแพลตฟอร์มต่างๆ มาวิเคราะห์ ทำให้แบรนด์ไม่สามารถถือข้อมูลลูกค้าเป็นของตัวเอง แต่เมื่อโลกการตลาดกำลังเปลี่ยนเป็นการเก็บข้อมูลผ่าน First Party Data แบรนด์ก็สามารถวางแผนเก็บข้อมูลที่จำเป็นอย่างเช่น Deep Insights ต่างๆ ในระยะยาวเพื่อเอาไปต่อยอดให้ตรงจุดมากขึ้น (รู้จัก First Party Data มากขึ้นในบทความนี้)
- ความน่าเชื่อถือมากขึ้น = ข้อมูลที่ดีขึ้น
แต่เดิมการเก็บข้อมูลของลูกค้าของแบรนด์จำเป็นต้องเก็บข้อมูลแบบ Third-Party Data ก่อให้เกิดข้อจำกัดต่อแบรนด์แถมยังเป็นการสร้างความรำคาญ นอกจากนี้จากผลสำรวจของเว็บไซต์ Hubspot ยังพบว่า ผู้บริโภคราว 45% มีแนวโน้มที่จะไม่เลือกเข้าเว็บไซต์ที่มีการเก็บข้อมูลของลูกค้าแบบ Third-Party Data เพราะมีความรู้สึกไม่ปลอดภัย หากไม่นับเรื่องความโปร่งใสในการเก็บข้อมูลแบบคุกกี้ที่เป็นหนึ่งในปัญหาหลักแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญก็คือการเก็บข้อมูลแบบ Third Party นั้นไม่มีความแม่นยำมากพอ ส่งผลให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องเจอกับแผนการตลาดแบบเดิมๆ ที่อาจเจอโฆษณาที่เคยซื้อไปครั้งแล้วครั้งเล่า กลายเป็นการสร้างผลเสียให้กับแบรนด์ไปในระยะยาว
ในทางกลับกันการเก็บข้อมูลแบบ First-Party จะกลายเป็นกุญแจสำคัญของแบรนด์-ธุรกิจยุคใหม่ ที่จะเข้ามาทดแทนปัญหาต่างๆ ได้ เรียกได้ว่าช่วยให้นักการตลาดได้รับข้อมูลที่มีคุณภาพเพื่อนำไปปรับใช้กับกลยุทธ์การตลาดในขณะเดียวกันก็ยังเคารพข้อมูลความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคอีกด้วยนั่นเอง
ทิ้งท้าย
ประเด็นเรื่องของ Data Privacy ถือเป็นเรื่องที่มาแรงสำหรับแบรนด์และนักการตลาดที่ต้องทำการตลาดออนไลน์ นักการตลาดมือใหม่จำเป็นที่จะต้องศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดที่อาจส่งผลเสียต่อแบรนด์ในระยะยาว อย่างไรก็ตามหากอยากให้แบรนด์สามารถทำการตลาดที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุดก็อย่าลืมเข้าไป อ่าน Blog ของเราเพิ่มเติมได้เลย รับรองว่ามีบทความใหม่ๆ อัปเดตข่าวสารแวดวงการตลาดออนไลน์ในทุกวันแน่นอน
Source: Hubspot Blog
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com