แจก 4 เว็บไซต์ตัดวิดีโอออนไลน์ฟรี! ใช้งานง่าย ฟีเจอร์ครบ

January 26, 2023Author: Antonio Fernandez
Results Image

Table of Contents

  • ใช้งานง่าย Easy-to-use
  • ใช้งานข้ามแพลตฟอร์มได้
  • สามารถทำงานร่วมกันได้แบบเรียลไทม์
  • ภาพ วิดีโอ เทมเพลต และ Element มากกว่า 100 ล้านรายการ
  • มี Brand Kit, Content Planner และ Extra Folder ง่ายต่อการจัดเก็บ
  • พื้นที่เก็บข้อมูล 1TB

ในปัจจุบันไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นวิดีโอคอนเทนต์ในทุกๆ แพลตฟอร์ม และเป็นที่แน่นอนแล้วว่าเทรนด์ของวิดีโอคอนเทนต์น่าจะยังอยู่กับเราไปอีกนาน หรือพูดง่ายๆ ว่าอย่างน้อยๆ ก็ตลอดปี 2023 นี้แน่นอน ทำให้แบรนด์ขนาดเล็กและนักการตลาดมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นสร้างสรรค์คอนเทนต์ประเภทนี้จำเป็นต้องมีเครื่องมือตัดต่อวิดีโอ แต่ซอฟต์แวร์ดีๆ บางครั้งก็ราคาแพง ครั้นจะซื้อมาใช้เลยก็ยังลังเลไม่แน่ใจว่าจะคุ้มค่ากับงานหรือไม่

ดังนั้นในบทความนี้จะขอพานักการตลาดมือใหม่ทุกคนมาดู 4 เว็บตัดต่อวิดีโอออนไลน์แบบฟรี ที่สามารถตัดต่อวิดีโอได้โดยไม่ต้องใช้โปรแกรม สามารถตัดงานพื้นฐานได้แบบสบายๆ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย

1. Canva

นาทีนี้น่าจะหายากมากที่จะมีคนไม่รู้จัก Canva เว็บไซต์ที่ช่วยให้งานออกแบบเป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าการเดินหาซื้อน้ำใน 7-11 แต่เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่รู้ว่า Canva ไม่เพียงแค่เด่นแต่เรื่องงาน Visual แบบภาพนิ่งอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยในการตัดต่อวิดีโอออนไลน์ได้อีกด้วย โดยจุดเด่นของ Canva หลายคนคงรู้กันอยู่แล้วคือ หน้าตาเครื่องมือต่างๆ นั้น Easy-to-use ต่อให้ไม่เคยมีพื้นฐานมาก่อนก็สามารถเรียนรู้ได้ไม่ยาก และยังสามารถใช้ฟีเจอร์สำหรับงานกลุ่ม ตัดต่อร่วมกันกับคนอื่นก็สามารถทำได้อีกด้วย

ข้อดี

ข้อเสีย

  • ภาพ Stock Photo มีจำกัดหากเป็นเวอร์ชันฟรี

2. Jitter.video

Jitter เป็นเว็บไซต์ที่เหมาะสำหรับการสร้างงาน Motion Design ได้แบบฟรีๆ ได้ความคมชัดระดับ HD ที่สามารถ Export นำไปใช้งานแบบเป็นวิดีโอคลิป หรือสกุลไฟล์ GIF ก็ได้ แต่ถ้าหากต้องการความคมชัดที่มากขึ้นในระดับ Full HD จะต้องใช้เวอร์ชันแบบเสียเงิน

ข้อดี

  • มี Preset ให้สำหรับเลือกใช้แอนิเมชันที่ต้องการ
  • มีเครื่องมือดีไซน์สำหรับการทำ Motion แบบวิดีโอและไฟล์ GIF
  • ใช้งานง่าย

ข้อเสีย

  • เวอร์ชันฟรี ได้ความคมชัด HD 720p 
  • เวอร์ชันฟรี จะติดลายน้ำเวลา Export 

3. WeVideo

จุดเด่นของ WeVideo คือหน้าตา Interface ที่ดูคลีนสะอาดตาและใช้งานง่ายไม่ต้องจาก Canva เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการตัดวิดีโอง่ายๆ แต่ยังคงคุณภาพ สามารถทำวิดีโอได้ทั้ง YouTube, Facebook, TikTok และ Instagram หรือจะเป็นวิดีโอแบบ Video Ads หรือ Meme ก็ได้ทั้งนั้น 

ข้อดี

  • ใช้งานง่าย
  • มีเทมเพลตฟรีให้เลือกใช้งานเยอะพอสมควร

ข้อเสีย

  • เวอร์ชันฟรีตัดต่อวิดีโอได้ไม่เกิน 5 นาทีต่อเดือน
  • เวอร์ชันฟรี Export วิดีโอได้ความคมชัด 480p

4. Clipchamp

Clipchamp เป็นซอฟต์แวร์ที่อยู่ภายใต้ Microsoft ทำให้ผู้ใช้งาน Windows 10/11 สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้แบบฟรีๆ โดยสามารถใช้งานได้ตามจุดประสงค์ต่างๆ ไม่ว่าจะทำคอนเทนต์เกี่ยวกับอินฟลูเอนเซอร์ เกมเมอร์ ดนตรี พ็อดคาสท์ วล็อกเกอร์ โดยในแต่ละหมวดหมู่ก็จะมีฟีเจอร์ที่ถูกออกแบบเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น โดยข้อดีของ Clipchamp คือมีสต็อกวิดีโอ รูปภาพ ตัวอักษร กราฟิกอื่นๆ ให้เลือกใช้ประกอบคลิปได้แบบสะดวกสบาย มี Transition ให้เลือกใช้อีกด้วย

ข้อดี

  • สามารถถ่ายและตัดต่อได้ทันที
  • มี Brand Kit ให้เลือกใช้ คล้ายกับ Canva
  • มีสต็อกรูปภาพ ตัวอักษร เอฟเฟก ฟิลเตอร์ ให้เลือกใช้
  • สร้างโฟลเดอร์เก็บข้อมูลได้สะดวกสบาย
  • Export ไฟล์คุณภาพสูงสุด 1080p

ข้อเสีย

  • Stock โฟโต้ต่างๆ น้อยไปหน่อยในเวอร์ชันฟรี
  • หากเป็นมือใหม่ที่ไม่เคยตัดต่อมาก่อนเลยอาจจะรู้สึกว่าใช้งานค่อนข้างยาก

ทิ้งท้าย

และทั้งหมดนี้ก็เป็นเว็บไซต์ตัดต่อวิดีโอ ที่เราได้หยิบยกมาแนะนำกัน ขอบอกเลยว่าทั้ง 5 เว็บไซต์นี้เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้งานวิดีโอออกมามีคุณภาพ และใช้งานง่ายเหมาะสำหรับมือใหม่นักตัดทุกคน ใครที่ชื่นชอบแบบไหนก็สามารถลองไปใช้งานกันดูได้เลย

รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience

Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 

โทร.: 02-038-5055 

อีเมล: info@relevantaudience.com 

เว็บไซต์: www.relevantaudience.com 

Antonio Fernandez

Antonio Fernandez

Founder and CEO of Relevant Audience. With over 15 years of experience in digital marketing strategy, he leads teams across southeast Asia in delivering exceptional results for clients through performance-focused digital solutions.