YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่คนไทยใช้กันอยู่ทุกวัน วันละหลายชั่วโมงทั้งในการ ฟังเพลง ดูรายการต่าง ๆ ติดตามคนที่ตัวเองชื่นชอบ และอื่น ๆอีกมากหมาย จึงทำให้เป็นจุดมุ่งหมายสำคัญของคนที่ทำโฆษณาทุกคนที่จะต้องมาลงโฆษณากับ YouTube ซึ่งในปัจจุบันการโฆษณาใน YouTube ผ่านทาง Google ads นั้นมีหลายแบบมาก วันนี้เราจึงมาอธิบายให้ฟังว่าแต่ละแบบคืออะไร
- Bumper ads จะเป็นวีดีโอโฆษณาที่ไม่สามารถกดข้ามได้ มีความยาวสูงสุด 6 วินาที ซึ่งจะเริ่มก่อนที่วีดีโอจะเล่น โฆษณาตัวนี้สามารถทำงานได้ทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์ ประโยชน์ของโฆษณาตัวนี้คือจะเหมาะกับการสร้าง Awareness หรือ Reach มากกว่าเพราะว่าการที่โฆษณาสามารถแสดงผลได้เพียง 6 วินาทีนั้นเราจะไม่สามารถขายสินค้าได้ ทำได้เพียงแค่เน้นไปที่การพูดถึง Brand เท่านั้นจึงเหมาะกับโฆษณาที่ต้องการโปรโมท Brand หรือทำให้คนรู้จักสินค้าโดยตัวโฆษณาจะต้องสั้นๆได้ใจความ การคิดเงินจะทำได้เพียงแค่ Cost per 1,000 impressions (CPM) เท่านั้น
- Non-skippable video ads จะเป็นวีดีโอโฆษณาที่ไม่สามารถกดข้ามได้ มีความยาวสูงสุด 15 – 20 วินาที ขึ้นอยู่กับประเทศ ซึ่งโฆษณาจะแสดงผลได้ทั้งก่อนที่วีดีโอจะเล่นและระหว่างวีดีโอที่มีความยาวเกิน 10 นาที ขึ้นไปโฆษณาตัวนี้สามารถทำงานได้ทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์ ประโยชน์ของโฆษณาตัวนี้คือจะเหมาะกับการสื่อสารที่เน้นไปที่การบอกประโยชน์หรือเล่าเรื่องของสินค้า บอกประโยชน์ที่จะได้ในการใช้งาน การคิดเงินจะทำได้เพียงแค่ Cost per 1,000 impressions (CPM) เท่านั้น และจากประสบการณ์ก็จะมี CPM ที่สูงกว่าแบบอื่น
- True view ad หรือเรียกอีกอย่างว่า Skippable video ads จะเป็นวีดีโอโฆษณาที่แบ่งย่อยออกเป็น 2 TrueView in-stream จะเป็นโฆษณาที่สามารถกดข้ามได้เมื่อแสดงผลไปแล้ว 5 วินาที โฆษณาจะแสดงผลได้ทั้งก่อนที่วีดีโอจะเล่น ระหว่างที่วีดีโอเล่นอยู่ และหลังจากที่วีดีโอจบไปแล้ว โดยเราสามารถใส่ Call to Action ต่าง ๆ ได้เพื่อพาคนเข้าไปยังเว็บไซต์ โฆษณาตัวนี้สามารถทำงานได้ทั้งบนมือถือ คอมพิวเตอร์และ สมาร์ททีวี ประโยชน์ของโฆษณาตัวนี้จะเน้นไปที่การนับ View ซึ่งจะนับก็ต่อเมื่อโฆษณาเล่นเกิน 30 วินาที หรือวีดีโอโฆษณาจบลง เราจะนับว่าเป็น 1 View โดย Google จะคิดเงินค่าโฆษณาเมื่อเกิดการดูจริงเท่านั้น เหมือนกับ Search ads ที่จะนับเมื่อมีการคลิกโฆษณาเท่านั้น จึงทำให้โฆษณานี้เหมาะกับการเน้นไปที่การขายหรือพาคนไปที่เว็บไซต์เลยมากกว่า แต่โฆษณารูปแบบนี้ก็สามารถที่จะคิดเงินแบบ CPM ได้เหมือนรูปแบบอื่นที่กล่าวมาข้างต้น
- TrueView Discovery ads จะเป็นโฆษณาที่จะแสดงผลเมื่อเราทำการค้นหาในช่อง Search ของ YouTube เมื่อผู้ใช้งานกดค้นหาแล้วก็จะแสดงเหนือวีดีโออื่น ๆอย่างชัดเจนเพื่อให้ผู้ใช้งานเห็นและกดคลิกเข้าไปดูวีดีโอหรือจะขึ้นอยู่ทางขวามือของวีดีโอในส่วนของวีดีโอแนะนำ ซึ่งการคิดค่าโฆษณาก็จะคิดเป็น Cost per Click คือเมื่อมีการคลิกเกิดขึ้นก็จะเสียเงินรูปแบบนี้เหมาะกับการโฆษณาที่มีจุดมุ่งหมายไปที่กลุ่มคนที่กำลังสนใจสินค้าอยู่แล้วมากกว่า เพราะโฆษณาจะแสดงผลโฆษณากับคนที่กำลังค้นหาอยู่แล้วเท่านั้น
การโฆษณาบน YouTube ส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปที่วีดีโอมากกว่าแต่ก็มีที่เป็นภาพอย่างเดียวมากเริ่มต้นกันที่
- Overlay ads จะเป็น Banner อันเล็ก ๆด้านล่างของวีดีโอซึ่งจะแสดงผลระหว่างวีดีโอเล่น เมื่อกดไปแล้วก็จะนำคนเข้าไปที่เว็บไซต์ เหมาะกับการสร้าง Awareness
- Display ads จะเป็น Banner ที่จะอยู่ด้านขวาของวีดีโอ โดยจะอยู่ด้านบนของวีดีโอที่แนะนำซึ่งโฆษณารูปแบบนี้จะแสดงผลบน บนคอมพิวเตอร์เท่านั้น
- Sponsored cards โดยจะเป็นแสดงผลชั่วคราวเป็นการ์ดด้านบนขวา เสร็จแล้วก็จะหายไป เหลือเพียง สัญลักษณ์ตัว I ด้านขวาบนซึ่งเมื่อกดแล้วก็จะมีการ์ดรูป เพื่อส่งไปยังวีดีโออื่นหรือเว็บไซต์ของ โฆษณาแบบรูปภาพที่แสดงผลในขณะที่วีดีโอเล่นอยู่
ทั้งหมดนี้ก็จะเป็น YouTube advertising formats ที่คนทั่วไปสามารถทำเองได้เลยแต่ก็จะมี Masthead ads ซึ่งจะขึ้นเป็น Banner อันใหญ่บนหน้าแรกของ YouTube เลยแต่โฆษณานี้จำเป็นที่จะต้องติดต่อไปที่ Google โดยตรงและราคาค่อนข้างแพงมาก