ล่าสุด Meta ได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดของ Ranking Signals ที่อัลกอริทึมใช้เพื่อเป็นเกณฑ์ว่าวิดีโอคอนเทนต์แบบใดที่จะมีโอกาสแสดงผลต่อผู้ใช้งานให้มากขึ้นบนแพลตฟอร์ม Facebook โดย Ranking Signals ที่เป็นปัจจัยสำคัญต่ออัลกอริทึมของ Facebook ได้แก่
- Originality หรือความสดใหม่ของคอนเทนต์
- Audience Retention หรือการรักษาผู้รับชมให้อยู่จนจบ
- Audience Loyalty หรือความภักดีของผู้รับชม
- Engagement หรือจำนวนการเข้าถึงของผู้รับชม
ในบทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักรายละเอียดของแต่ละปัจจัยที่เป็นตัวช่วยในการเพิ่มโอกาสให้วิดีโอคอนเทนต์ของคุณสามารถแสดงผลต่อผู้รับชมบนแพลตฟอร์มมากขึ้น ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
1.Originality
Facebook ได้จัดลำดับความสำคัญของวิดีโอคอนเทนต์ที่มีความเป็นต้นฉบับให้อยู่ในกลุ่มแรกๆ ที่มีโอกาสถูกอัลกอริทึมนำไปแสดงผลต่อผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม โดย Meta ได้เน้นถึงการหลีกเลี่ยงการเผยแพร่เนื้อหาวิดีโอคอนเทนต์ที่เป็นการคัดลอกมาจากคลิปต้นฉบับอื่นๆ อย่างเด็ดขาด แต่แน่นอนว่าสำหรับเนื้อหาที่ถูกจัดให้อยู่ในประเภทกึ่งออริจินัลที่เป็นการดัดแปลงหรือเพิ่มสิ่งต่างๆ เข้าไปให้กับคอนเทนต์นั้นๆ ก็มีโอกาสที่อัลกอริทึมจะนำวิดีโอคอนเทนต์ไปเผยแพร่ให้กับผู้ใช้งานเช่นกัน
2.Audience Retention
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้อัลกอริทึมของ Facebook มองว่าวิดีโอคอนเทนต์นั้นมีความเหมาะสมที่จะนำไปเผยแพร่ให้กับผู้ใช้งาน คือการที่วิดีโอคอนเทนต์นั้นสามารถทำให้ผู้รับชมสามารถดูตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีในการทำให้อัลกอริทึมมองเห็นถึงคุณภาพของวิดีโอคอนเทนต์ โดย Meta ได้อธิบายในเรื่องนี้เอาไว้บน Meta Blog Post ว่า “วิดีโอคอนเทนต์ที่มีอัตรา Retention ที่สูงเป็นการบ่งบอกว่าผู้ชมสามารถรับเนื้อหาต่างๆ ได้ดีเพียงใด ซึ่งจะตรงกันข้ามกับวิดีโอคอนเทนต์ที่มีอัตราการออกก่อนหรือดูไม่จบนั่นหมายถึงว่าเนื้อหาของคอนเทนต์ไม่เป็นไปตามที่ผู้รับชมคาดหวังหรือต้องการ”
สำหรับคำแนะนำคือควรมีการวางแผนโครงเรื่องต่างๆ สำหรับเนื้อหาวิดีโอคอนเทนต์ และควรที่จะมีการปรับให้เหมาะกับการแสดงผลบนอุปกรณ์ต่างๆ และลงทุนในคุณภาพของขั้นตอน Production เพื่อเป็นการคงอัตรา Audience Retention ให้อยู่ในจุดที่ดีที่สุด
3.Audience Loyalty
นอกเหนือจากอัตรา Audience Retention ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่อัลกอริทึมของ Facebook ใช้เป็นเกณฑ์ในการจัดอันดับวิดีโอคอนเทนต์แล้ว อีกหนึ่งปัจจัยคืออัตรา Audience Loyalty ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยอัตราความภักดีของผู้ชมสำหรับวิดีโอคอนเทนต์ในที่นี้หมายถึงความถี่ที่ผู้รับชมจะกลับมาดูเนื้อหาซ้ำ
Meta ได้แนะนำว่าเทคนิคที่จะเป็นการเพิ่มอัตรา Audience Loyalty คือการอัปโหลด Bonus-Content ตัวอย่างเช่น การผสมผสานการโพสต์ Reels Content ที่เป็น Short Form Content เพื่อเป็นการกระตุ้นอัตรา Audience Loyalty ให้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้การปรับปรุงชื่อคลิปหรือคำอธิบาย การใส่แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องก็เป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้รับชมกลับมาดูวิดีโอคอนเทนต์ได้บ่อยขึ้นเช่นกัน
4.Engagement
สำหรับ Ranking Signals ลำดับสุดท้ายแต่ความสำคัญไม่ท้ายสุดคืออัตรา Engagement ของวิดีโอคอนเทนต์ที่จะแสดงให้เห็นว่าคอนเทนต์นั้นมีส่วนร่วมกับผู้รับชมมากน้อยเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ การแสดงความคิดเห็น กดปุ่มถูกใจ อย่างไรก็ตาม Meta ให้คำแนะนำว่าการสร้างโพสต์ที่ดูล่อเป้าเกินไปหรือมีลักษณะเป็น Watchbait จะเป็นการสร้างผลเสียในการจัดอันดับวิดีโอคอนเทนต์ของอัลกอริทึม
สรุป
สำหรับแบรนด์และนักการตลาดที่กำลังเริ่มต้นแคมเปญโฆษณาผ่านวิดีโอคอนเทนต์ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Facebook ควรที่จะให้ความสำคัญกับ Ranking Signals ข้างต้นเพื่อพยายามสร้างฐานผู้รับชมทั่วไปให้กลายมาเป็น Top Fans ของแบรนด์คุณให้ได้ รับรองว่าถ้าทำตามเคล็ดลับด้านบนทุกข้อ การติดเทรนด์ยอดนิยมจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com