ในโลกของการตลาดดิจิทัลที่มีการแข่งขันสูงและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ธุรกิจและนักการตลาดจำเป็นต้องรู้และเข้าใจอย่างลึกซึ้ง คือ Target Audience คืออะไร เพราะช่วยให้สามารถออกแบบกลยุทธ์และการสื่อสารออกมาได้อย่างตรงจุด และสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่คุ้มค่า ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึก Target Audience และวิธีการใช้ Audience Targeting เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดดิจิทัล
Target Audience คืออะไร?
Target Audience คือ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มจะบริโภคสินค้าหรือบริการของธุรกิจ โดยสามารถดูได้จากลักษณะประชากรศาสตร์ (Demographics) ที่มักมีความคล้ายคลึงกัน เช่น เพศ อายุ สถานะทางเศรษฐกิจ การศึกษา อาชีพ และอื่นๆ หรือดูจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิต และความสนใจ เป็นต้น ซึ่งธุรกิจและนักการตลาดต้องให้ความสำคัญเพื่อปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายนี้
โดย Target Audience ตัวอย่างเช่น เพศหญิงอายุ 25-35 ปี ที่อาศัยในเขตเมืองใหญ่, กลุ่มคนที่ชอบออกกำลังกายเป็นประจำ, กลุ่มเจ้าของธุรกิจ SME และกลุ่มคนที่ชื่นชอบการทำงาน เป็นต้น
โดยวิธีการทำให้ธุรกิจรู้จักกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง คือ Audience Targeting ทำให้เข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นใคร มีพฤติกรรมอย่างไร ชื่นชอบหรือไม่ชื่นชอบสิ่งใด เพื่อให้สามารถนำมาปรับใช้ในกลยุทธ์ทางการตลาดได้
ทำไม Audience Targeting ถึงมีความสำคัญ?
การค้นหาและการโฆษณาออนไลน์กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ที่น่าตื่นเต้น โดย Google กำลังลดบทบาทของคีย์เวิร์ดแบบดั้งเดิม และหันมาใช้ข้อมูลเชิงลึกของผู้ใช้เพื่อคาดการณ์ความต้องการ ซึ่งแคมเปญโฆษณาอาจมีการมุ่งเน้นไปที่ Theme การค้นหามากกว่าคีย์เวิร์ดเฉพาะได้ในอนาคต ทำให้ Audience Targeting กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญ ซึ่งต้องอาศัยข้อมูล พฤติกรรม และความสนใจของผู้ใช้งานเข้ามาช่วย นักการตลาดจึงต้องปรับตัวโดยใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนี้ และสร้างสรรค์เนื้อหาที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่อาจเกิดขึ้น ถือเป็นการเปิดโอกาสทางการตลาดให้กว้างขึ้นกว่าเดิม
4 วิธีการทำ Audience Targeting สำหรับแคมเปญ Search
การทำ Audience Targeting สำหรับ Search Campaign สามารถทำได้ตามนี้
1. การกำหนดเป้าหมายตามความสนใจในแบรนด์
การใช้ Audience Targeting ผ่าน Remarketing Lists for Search Ads (RLSA) เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการโฆษณา Google Ads โดยมีสองโหมด คือ โหมดสังเกตการณ์และโหมดกำหนดเป้าหมาย วิธีนี้ช่วยให้สามารถกำหนดเป้าหมายโฆษณาได้แม่นยำมากขึ้น แม้แต่กับคีย์เวิร์ดที่มีการค้นหาสูงแต่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจ โดยให้เลือกแสดงโฆษณาเฉพาะกับผู้ที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ เช่น เยี่ยมชมเว็บไซต์ สมัครรับอีเมล หรือดูวิดีโอ YouTube ของแบรนด์ ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสสนใจสินค้าหรือบริการมากขึ้น
2. การกำหนดเป้าหมายตามพื้นฐานของผู้บริโภค
แบ่งกลุ่มลูกค้า เพื่อสามารถใช้คำที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต่างกันได้ เช่น แบ่งระหว่างกลุ่มลูกค้า B2B และ B2C โดยใช้ข้อมูลเช่น ขนาดบริษัท อุตสาหกรรม หรือความสนใจส่วนตัว
3. การกำหนดเป้าหมายตามมูลค่าการสั่งซื้อ
กำหนดเป้าหมายตามมูลค่าการสั่งซื้อจะช่วยแยกแยะระหว่างลูกค้าองค์กรขนาดเล็กและใหญ่ได้ โดยใช้ข้อมูลประชากรศาสตร์เกี่ยวกับขนาดบริษัทและอุตสาหกรรมที่ใช้งาน วิธีนี้ช่วยให้โฆษณาตรงกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพสูงในการซื้อสินค้าหรือบริการมูลค่าสูงได้
4. การใช้ข้อมูล LinkedIn ใน Microsoft Ads
สำหรับแบรนด์ B2B สามารถใช้ข้อมูลจาก LinkedIn เพื่อกำหนดเป้าหมายตามบริษัท อุตสาหกรรม ตำแหน่งงาน หรือประสบการณ์การทำงานได้
ข้อควรพิจารณาพิเศษสำหรับ eCommerce และ Shopping
สำหรับการทำ Audience Targeting ให้แคมเปญ Paid Search มีข้อควรพิจารณาสำคัญดังนี้
1. Audience
การเพิ่ม bid ในแคมเปญ Shopping จะทำให้ Google จับคู่สินค้าของเรากับคำค้นหาที่กว้างขึ้น เช่น จากการค้นหาชื่อแบรนด์หรือชื่อรุ่น ไปสู่คำทั่วไปอย่างคำว่า เครื่องใช้ในครัว ดังนั้นควรพิจารณาว่าต้องการขยายไปสู่คำค้นหาที่กว้างแค่ไหน และอาจใช้ Audience Targeting เพื่อกรองกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ
2. Product feeds
Google ให้ความสำคัญกับข้อมูลที่ระบุตัวสินค้า (เช่น UPC, GTIN, ชื่อแบรนด์) และชื่อสินค้า โดยเฉพาะคำที่อยู่ต้นชื่อ ดังนั้นควรใส่คีย์เวิร์ดที่สำคัญไว้ในส่วนต้นของชื่อสินค้า
ข้อจำกัดที่ควรรู้ก่อนทำใช้ Audience Targeting
การทำ Audience Targeting ยังมีข้อจำกันในบางประการที่ควรระมัดระวัง เช่น
1. พฤติกรรมการค้นหากำลังเปลี่ยนแปลง
เมื่อพฤติกรรมของคนเปลี่ยนอาจทำให้การแบ่งแยกกลุ่มเป้าหมายอาจไม่ชัดเจน ควรทำความเข้าใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้เข้าใจอย่างลึกซึ่ง
2. RLSA มีข้อจำกัดบางประการ
ยกตัวอย่างเช่น อายุการใช้งานสูงสุด 540 วัน ต้องมีคุกกี้อย่างน้อย 1,000 รายการจึงจะใช้งานได้ และไม่สามารถใช้กับรายการที่สร้างในมุมมองแอปมือถือ
3. อาจต้องใช้งบประมาณในการทดสอบ
ซึ่งอาจเป็นความท้าทายสำหรับแบรนด์ขนาดเล็กที่ต้องการเห็นผลตอบแทนจากการลงทุนโฆษณาอย่างรวดเร็ว
4. ใช้ความอดทนและเวลา
การจะใช้กลยุทธ์นี้ให้ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องใช้เวลาและความอดทน และควรตระหนักว่าการทดลองใช้กลยุทธ์นี้อาจไม่ประสบความสำเร็จเสมอไป
สรุป
การใช้ Audience Targeting และ RLSA ในการทำ Paid Search อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้เราสร้างกลยุทธ์การตลาดแบบ Omnichannel ที่แข็งแกร่งขึ้น โดยสามารถผสมผสานกับช่องทางการตลาดอื่น ๆ เช่น อีเมล คอนเทนต์ โซเชียลมีเดีย และช่องทางอื่น ๆ ได้อย่างลงตัว
การเข้าใจว่า Target Audience คืออะไร และรู้จักใช้ประโยชน์จาก Audience Targeting เป็นทักษะสำคัญสำหรับนักการตลาดดิจิทัลในยุคปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูงและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยการปรับตัวและเรียนรู้เทคนิคใหม่ ๆ จะช่วยให้สามารถทำแคมเปญ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เกี่ยวกับ Relevant Audience
พวกเรา Relevant Audience คือ Digital Performance Marketing Agency ที่เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO และเป็นหนึ่งใน Digital Agency ที่มีบริการด้านการตลาดดิจิทัลครบวงจร เพื่อสนับสนุนธุรกิจให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในเวลา สถานที่ และบนอุปกรณ์ที่เหมาะสม (Right Time, Right Place, Right Device)
บริการของเราครอบคลุมทั้งบริการทำ SEO, Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads ไปจนถึง Influencer Marketing และเรายังเป็น SEO Company ที่เป็น Google Partners อีกด้วย โดยทีมของเราล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมให้คำปรึกษาและค้นหาโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ปรึกษาทำการตลาดออนไลน์
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com