ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันผู้คนนิยมการซื้อสินค้าหรือบริการผ่านแพลตฟอร์ม E-Commerce กันเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะบน แอปฯ หรือเว็บไซต์ จะเห็นได้ว่าผลสำรวจในแทบทุกโพลระบุตรงกันว่านักช็อปออนไลน์ในทุกประเทศมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในทุกๆ ปี จะเห็นได้ว่าการช็อปปิ้งออนไลน์ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เริ่มตั้งแต่การสั่งอาหาร ซื้อของใช้เข้าบ้าน หรือจะเป็นของจุกจิกเล็กน้อยใดๆ ก็ตาม
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคสมัยใหม่นิยมในการซื้อสินค้าหรือบริการผ่านแพลตฟอร์ม E-commerce คือความสะดวก ง่าย และรวดเร็วในแบบที่การไปเดินเลือกซื้อสินค้าด้วยตัวเองหน้าร้านไม่สามารถทดแทนได้ ด้วยเหตุนี้เองแบรนด์หรือผู้ประกอบการที่กำลังทำธุรกิจ E-Commerce จึงต้องให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจที่ต้องให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายที่สุด และสามารถเลือกใช้จ่ายได้อย่างอิสระและปลอดภัย พูดง่ายๆ ว่า ช่วยประกันความรู้สึกสะดวก ปลอดภัย รวดเร็ว ให้กับผู้บริโภค เพื่อให้มั่นใจที่จะใช้จ่ายเงินบนแพลตฟอร์มของตัวเองได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว ดังนั้นในบทความนี้จะพาผู้ประกอบการมือใหม่ทุกท่านมาเพิ่มประสิทธิภาพยอดขายให้กับแพลตฟอร์ม E-Commerce ของตนเองอย่างง่ายๆ ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพช่องทางการชำระเงินบนเว็บไซต์ รับรองว่าอ่านจบแล้ว นำไปปรับใช้ได้ทันที ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
ทำไมการเพิ่มประสิทธิภาพช่องทางการชำระเงินถึงสำคัญ
การมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคในการใช้เงินจับจ่ายซื้อสินค้าหรือบริการ เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในแง่ของการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ มีงานวิจัยจากสถาบันวิจัย Baymard ที่พบว่าแพลตฟอร์ม E-Commerce ในปัจจุบันมีผู้บริโภคที่ละทิ้งขั้นตอนสุดท้ายในการชำระเงินสูงถึง 69.8% ถือเป็นเหตุผลที่มากพอที่จะให้เจ้าของธุรกิจ E-Commerce ควรให้ความสำคัญกับหน้าการชำระเงินให้มากขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค
1.แสดงราคาขั้นสุดท้าย (Final Price)
ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเป็นเหมือนฝันร้ายของผู้บริโภค และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้ผู้บริโภคออกจากหน้าขั้นตอนการชำระเงิน ลองนึกภาพตามดูว่าถ้าคุณเป็นผู้บริโภคและตัดสินใจเลือกสินค้าที่มีราคาที่สมเหตุสมผล จากนั้นเมื่อเข้าสู่หน้าขั้นตอนการชำระเงินกลับพบว่าอยู่ดีๆ ก็มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ภาษี และอื่นๆ เชื่อว่าใครหลายคนเมื่อเจออย่างนี้ก็ต้องกดออกทันที ดังนั้นหากรักษาฐานลูกค้าหน้าใหม่เอาไว้ สิ่งแรกที่จำเป็นต้องปรับปรุงคือการแชร์รายละเอียดของราคาสุดท้าย (Final Price) ให้ชัดเจนทั้ง ราคาขายปลีกเป็นอย่างไร ราคาขายส่งเป็นอย่างไร ค่าธรรมเนียมการจัดส่ง ภาษีเพิ่มเติม หรือแม้แต่ราคาที่ถูกหักหลังมีส่วนลด เป็นต้น
2.ขั้นตอนการจ่ายเงินต้องเข้าถึงให้ง่ายที่สุด
เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหลายแห่งนิยมการบังคับให้ผู้บริโภคจำเป็นต้องสร้างบัญชีก่อนที่จะดำเนินการซื้อสินค้าหรือบริการได้ ในแง่หนึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแต่หากมองในแง่มุมของการเพิ่มยอดขายการบังคับให้ผู้บริโภคต้องสมัครสมาชิกเว็บไซต์ก่อนถือเป็นการเพิ่มความรู้สึกยุ่งยากให้กับผู้บริโภค และเป็นการเพิ่มโอกาสให้เกิดการละทิ้งรถเข็น (Cart Abandonment) ได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้นทางที่ดีคือห้ามจำกัดการเข้าถึงขั้นตอนการชำระเงินของผู้บริโภคหากต้องการเพิ่มยอดขายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
3.ช่องทางการชำระเงินเป็นเรื่องสำคัญ
ในปัจจุบันช่องทางในการใช้จ่ายสินค้ามีทางเลือกมากมาย แน่นอนว่าการที่แพลตฟอร์ม E-Commerce เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถชำระเงินได้ตามช่องทางที่ต้องการ จะเป็นการช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรองรับบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ระบบ Digital Wallets เช่น Apple Pay, Google Pay หรือ Samsung Pay รวมไปถึงระบบ Buy Now Pay later (BNPL)
4.รองรับระบบ Live Chat
การที่แพลตฟอร์มรองรับระบบ Live Chat จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถามสดๆ จากพนักงานที่พร้อมให้คำปรึกษา หรือจะเป็นระบบแชทบอทที่ตอบกลับคำถามทั่วไปที่พบได้บ่อยแบบอัตโนมัติก็ได้เช่นกัน
5.ความปลอดภัยสำคัญที่สุด
การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลผู้ทำธุรกรรมทางการเงินของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่เจ้าของธุรกิจ E-Commerce ควรจัดลำดับความสำคัญไว้เป็นอันดับแรกๆ เพื่อให้แน่ใจว่านักช็อปออนไลน์จะสามารถให้ความไว้วางใจกับแพลตฟอร์มของคุณ ควรใช้ระบบอย่าง
- Payment Badges
- SSL Certificates
- รับประกันการคืนสินค้า
- ฯลฯ
สรุป
ในฐานะของผู้ประกอบธุรกิจ E-Commerce ที่กำลังต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของยอดขายให้กับธุรกิจ การปรับปรุงประสิทธิภาพของช่องทางการชำระเงินเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกๆ ที่ผู้ประกอบการควรให้ความคำนึงถึง สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ลองเริ่มต้นทำตามคำแนะนำด้านบนดูก่อน รับรองว่าไม่เพียงแค่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นแต่จะยังช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ให้มากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com