Google Trends คืออะไร? ส่องเคล็ดลับการใช้เทรนด์เพิ่มประสิทธิภาพ SEO

แชร์ไปยัง:
คัดลอกลิงก์:
July 23, 2024
Author: Antonio Fernandez
Results Image

คอนเทนต์ตามกระแส หรือเทรนด์เป็นรูปแบบการนำเสนอเนื้อหาที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในโลกดิจิทัล เนื่องจากมักสร้างการมีส่วนร่วม และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่นักการตลาดและคอนเทนต์ครีเอเตอร์นิยมใช้เพื่อค้นหาและติดตามกระแส คือ Google Trends ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจว่า Google Trends คืออะไร และจะนำมาประยุกต์ใช้ในการสร้างคอนเทนต์อย่างไรให้ตอบโจทย์การทำ SEO อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมเจาะลึกเทคนิคการใช้เทรนด์เพื่อยกระดับกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลของคุณ

Google Trends คืออะไร และทำไมถึงสำคัญสำหรับกลยุทธ์ SEO

Google Trends เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราเห็นความนิยมของคำค้นหาต่างๆ บน Google ตลอดช่วงเวลา โดยเป็นแหล่งข้อมูลที่มีค่าสำหรับนักการตลาดดิจิทัลและเหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ เพราะช่วยให้เข้าใจว่าผู้คนกำลังค้นหาอะไร กำลังสนใจอะไร และเมื่อไหร่ที่หัวข้อต่างๆ ได้รับความสนใจมากที่สุด

โดยการใช้ Google Trends ในกลยุทธ์ SEO มีประโยชน์หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยวางแผนการสร้างคอนเทนต์ รวมถึงช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์และประสิทธิภาพการค้นหาได้อย่างมาก โดยเพียงทำให้เนื้อหาสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้คนกำลังสนใจในขณะนั้น

วิธีใช้ Trends เพื่อปรับกลยุทธ์ SEO

1. สร้างเนื้อหาที่ทันสมัยและเกี่ยวข้องกับเทรนด์ในช่วงที่กำลังมาแรง

การทำคอนเทนต์ตาม Keyword ที่มีการค้นหาสูงมักมีการแข่งขันที่สูงตามมาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การประยุกต์ใช้ Google Trends จะช่วยให้สามารถค้นพบประเด็นที่กำลังได้รับความนิยม แต่ยังไม่มีการแข่งขันที่สูงมากนัก แม้ว่าวิธีการนี้จะต้องอาศัยความทุ่มเทและความพยายามมากกว่า แต่ก็เปิดโอกาสที่ดีกว่าในการสร้างสรรค์เนื้อหาที่มีความโดดเด่นและแตกต่าง โดยมีวิธีที่สามารถทำได้ง่ายดังนี้

2. ปรับปรุงเนื้อหาที่มีอยู่ด้วย Keyword ที่กำลังเป็นเทรนด์

Google Trends สามารถช่วยค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่มีอยู่แล้ว หรือที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งการปรับปรุงเนื้อหาเดิมด้วย Keyword เหล่านี้สามารถช่วยเพิ่มในการทำเนื้อหาได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถทำได้ดังนี้

  • ใช้ Google Trends หรือเครื่องมืออื่นๆ หา Keyword ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาและกำลังเป็นที่นิยม
  • ปรับปรุงเนื้อหาเดิมโดยใช้ Keyword ใหม่ที่ค้นพบนี้เข้าไป เช่น ในหัวข้อหลักหรือหัวข้อย่อย
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Keyword ใหม่มีศักยภาพในการเข้าถึงผู้ชมมากกว่า Keyword เดิม

3. วางแผนเนื้อหาสำหรับเทรนด์ที่เกิดขึ้นซ้ำ

แนวทางนี้เน้นการใช้ข้อมูลในอดีตเพื่อคาดการณ์เทรนด์ที่จะเกิดขึ้นซ้ำในช่วงเวลาเฉพาะของปี เช่น ช่วงเทศกาลต่างๆ ซึ่งต่างจากสองวิธีแรกที่เน้นการทำอย่างรวดเร็ว วิธีนี้เป็นการวางแผนล่วงหน้าอย่างมีกลยุทธ์ โดยสามารถวางทำตามขั้นตอนได้ดังนี้

  • วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ศึกษาข้อมูลการเข้าชมในอดีตและช่วงเวลาที่มีการมีส่วนร่วมสูง
  • ใช้เครื่องมือวิเคราะห์เทรนด์ ค้นหารูปแบบของเทรนด์ที่เกิดขึ้นซ้ำและช่วงเวลาที่เกิดขึ้น
  • ตั้งค่าการแจ้งเตือน กำหนดเกณฑ์การเติบโต เช่น เปอร์เซ็นต์การเติบโตรายปี เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อเทรนด์เริ่มปรากฏ
  • เตรียมเนื้อหาล่วงหน้า โดยสร้างเนื้อหาให้พร้อมก่อนที่เทรนด์จะถึงจุดที่เป็นกระแสสูงสุด

4. ใช้เทรนด์สำหรับกิจกรรมการตลาดที่กว้างขึ้น

การสร้างคอนเทนต์จากเทรนด์ที่เป็นกระแสสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดได้หลากหลาย โดยเฉพาะในด้าน PR ดิจิทัลและการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ โดยการใช้เทรนด์อย่างมีกลยุทธ์ช่วยเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ สร้างเครือข่าย และเพิ่มยอดขายผ่านได้

โดยสามารถเริ่มต้นจากการวิเคราะห์เทรนด์ด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย แล้วนำข้อมูลมาสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่สอดคล้องกับเทรนด์ และสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับคอนเทนต์ได้โดยการนำเสนอข้อมูลเชิงลึก ใส่ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ หรือการร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ที่มีภาพลักษณ์สอดคล้องกับแบรนด์ นอกจากนี้ การใช้ Keyword และ Hashtag อย่างชาญฉลาดจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมในโลกออนไลน์ได้สูงเช่นกัน

5. สร้างและขับเคลื่อนเทรนด์

แบรนด์สามารถใช้ข้อมูลเทรนด์ระดับหมวดหมู่หรือชนิดกลุ่มของสินค้า เพื่อสร้างเทรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์หรือเชื่อมโยงกับแบรนด์ได้ โดยวิธีนี้เป็นที่นิยมในวงการเครื่องสำอางและแฟชั่น ซึ่งจะสร้างเทรนด์ใหม่หรือต่อยอดจากเทรนด์ที่มีอยู่แล้ว โดยเมื่อแบรนด์สร้างเทรนด์ได้สำเร็จ คู่แข่งจะเลียนแบบได้ยาก

การสร้างเทรนด์สามารถทำได้หลากหลายวิธี โดยเริ่มจากการมีส่วนร่วมบนออนไลน์คอมมูนิตี้ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมที่ให้ความรู้และสร้างความน่าสนใจ เช่น การ Live บนโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ การทำคอนเทนต์ UGC ก็เป็นอีกวิธีที่มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนเทรนด์ และสุดท้ายแบรนด์อาจพิจารณานำเทรนด์ที่กำลังเติบโตบนแพลตฟอร์มหนึ่งไปขยายผลบนอีกแพลตฟอร์มหนึ่ง เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างกระแสและการรับรู้ในวงกว้าง

สรุป

บทความนี้ได้ตอบคำถามว่า Google trends คืออะไร พร้อมชี้ให้ว่า การใช้ Google Trends ในกลยุทธ์ SEO สามารถช่วยให้สร้างเนื้อหาที่ทันสมัย น่าสนใจ และตรงกับความต้องการของผู้ชมได้ดียิ่งขึ้น โดยไม่ว่าจะเป็นการสร้างเนื้อหาใหม่ การปรับปรุงเนื้อหาเดิม หรือการวางแผนสำหรับเทรนด์ในอนาคต Google Trends ถือเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากในการทำให้กลยุทธ์ SEO ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการใช้ Google Trends อย่างชาญฉลาดสามารถช่วยให้แบรนด์โดดเด่นในตลาดที่มีการแข่งขันสูง แทนที่จะทำตามกลยุทธ์เดิมๆ เหมือนคู่แข่ง สามารถเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมและสร้างการเชื่อมต่อที่แท้จริงกับชุมชนของคุณได้ ด้วยการผสมผสานเทรนด์เข้ากับกลยุทธ์ SEO โดยไม่เพียงแต่จะปรับปรุงการจัดอันดับเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและน่าสนใจสำหรับผู้ชมได้อีกด้วย

เกี่ยวกับ Relevant Audience

พวกเรา Relevant Audience คือ Digital Performance Marketing Agency ที่เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO และเป็นหนึ่งใน Digital Agency ที่มีบริการด้านการตลาดดิจิทัลครบวงจร เพื่อสนับสนุนธุรกิจให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในเวลา สถานที่ และบนอุปกรณ์ที่เหมาะสม (Right Time, Right Place, Right Device)

บริการของเราครอบคลุมทั้งบริการทำ SEO, Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads ไปจนถึง Influencer Marketing และเรายังเป็น SEO Company ที่เป็น Google Partners อีกด้วย โดยทีมของเราล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมให้คำปรึกษาและค้นหาโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจ

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ปรึกษาทำการตลาดออนไลน์

โทร.: 02-038-5055

อีเมล: info@relevantaudience.com

เว็บไซต์: www.relevantaudience.com

Antonio Fernandez

Antonio Fernandez

ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Relevant Audience ผู้นำด้านการตลาดดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปีในการพัฒนากลยุทธ์การตลาดดิจิทัล เขาได้นำพาทีมงานในการสร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าผ่านโซลูชันดิจิทัลที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพ

แชร์ไปยัง:
คัดลอกลิงก์:

Related Articles

Articles related to the topics covered in this post.

วิธีปรับปรุงเนื้อหาให้เหมาะสมกับ Bing Search AI ในปี 2025
เอสอีโอ (Search Engine Optimization)

October 9, 2025

วิธีปรับปรุงเนื้อหาให้เหมาะสมกับ Bing Search AI ในปี 2025
เรียนรู้วิธีปรับปรุงเนื้อหาของคุณสำหรับเครื่องมือ Microsoft Search AI เช่น Copilot และ Bing Chat รับกลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วเพื่อการมองเห็นที่ดีขึ้น...
Google ยกเลิกพารามิเตอร์ n=100 ในหน้าผลการค้นหา: ผลกระทบต่อ SEO คืออะไร
เอสอีโอ (Search Engine Optimization)

September 26, 2025

Google ยกเลิกพารามิเตอร์ n=100 ในหน้าผลการค้นหา: ผลกระทบต่อ SEO คืออะไร
Google ลบพารามิเตอร์ n=100 ในหน้าผลการค้นหาในปี 2025 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเครื่องมือ SEO และการติดตามอันดับ เรียนรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์ SEO และข้อมูลของคุณอย่างไร...
10 สุดยอดบริษัทเอสอีโอที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ปี 2568
เอสอีโอ (Search Engine Optimization)

September 11, 2025

10 สุดยอดบริษัทเอสอีโอที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ปี 2568
ค้นหาบริษัทเอสอีโอที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ สำหรับปี 2568 เปรียบเทียบบริษัทชั้นนำ บริการ และราคา เพื่อเพิ่มอันดับเว็บไซต์ธุรกิจของคุณ...

Latest Updates

Our most recently updated articles across all topics.

แคมเปญ Google Shopping เข้าแทนที่ Google Search Ads
General topics

March 11, 2021

แคมเปญ Google Shopping เข้าแทนที่ Google Search Ads
เป็นเวลานานหลายปีที่นักการตลาดและบริษัทอีคอมเมิร์ซใช้จ่ายเงินไปกับ Google Search Ads เพื่อให้เว็บไซต์และโฆษณาของตนปรากฏอยู่ด้านบนของผลการค้นหาแบบออร์แกนิก อย่างไรก็ตาม Google ได้ลดระดับ Search Ads ลงหนึ่งขั้น และเพิ่ม “แคมเปญ Google Shopping” ไปยังด้านบนของผลการค้นหา แคมเปญ Google Shopping คืออะไร?...
Google Remarketing Ads คืออะไร
General topics

March 11, 2021

Google Remarketing Ads คืออะไร
คุณเป็นเจ้าของธุรกิจอีคอมเมิร์ซหรือมีเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหรือไม่? ถ้าใช่ ข้อมูลต่อไปนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณเท่านั้น หรือพูดง่ายๆ ก็คือ คุณมาถูกที่แล้ว! สถิติ แสดงให้เห็นว่าอัตราการละทิ้งตะกร้าสินค้าออนไลน์ทั่วโลกกำลังเพิ่มขึ้นและปัจจุบันสูงถึง 69.57% เราทุกคนเคยผ่านประสบการณ์ในการเข้าชมเว็บไซต์ออนไลน์เป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้วจากไปโดยหวังว่าจะกลับมาในภายหลัง ซึ่งมักจะไม่เกิดขึ้น นี่เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องได้รับการแก้ไขสำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซทั้งหมดเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายของการซื้อได้ Dynamic Remarketing คืออะไร? กล่าวอย่างง่ายๆ Dynamic Remarketing คือ Google...
General topics

March 11, 2021

ธุรกิจของคุณพร้อมสำหรับพระราชบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแห่งประเทศไทยหรือไม่?
[vc_row][vc_column][vc_column_text] PDPA คืออะไร? พระราชบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 PDPA ประเทศไทยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่สามารถระบุตัวบุคคลได้โดยตรงหรือโดยอ้อม PDPA ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อปกป้องเจ้าของข้อมูลจากการกระทำที่ผิดกฎหมายต่อข้อมูลส่วนบุคคลของตน กฎหมายนี้ใช้กับองค์กรส่วนใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นภายในประเทศหรือต่างประเทศ...