![Copy of [NEW] Blog Size [1200x628px] (50)](https://www.relevantaudience.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/Copy-of-NEW-Blog-Size-1200x628px-50-q4w0rtxzcjc13gz1y3bobe8u098yvqewuor611wnm0.png "Copy of [NEW] Blog Size [1200x628px] (50)")
ล่าสุด Google ได้ออกมาเปิดเผย Content Policy ฉบับใหม่แล้วว่าคอนเทนต์ที่มีลักษณะเป็น Duplicate Content ที่เผยแพร่บน Business Profile จะถือว่าเป็นสแปม รายละเอียดจะเป็นอย่างไร และทำไมนักการตลาดที่ใช้งาน Google Business Profile ถึงต้องให้ความสำคัญ? ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
กูเกิลออกข้อกำหนดใหม่มอง Duplicate Content เป็นสแปม
จากทวีตของ Colan Nielsen บนทวิตเตอร์ทำให้รู้ว่ากูเกิลได้ออกข้อกำหนดเพิ่มเติมบน Content Policy โดยมีเนื้อหาที่ระบุถึงการมองเนื้อหาแบบ Duplicate Content เป็นสแปมบน Google Business Profile ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะเป็นรูปภาพ โพสต์ วิดีโอ หรือโลโก้ก็ตาม
สำหรับใครที่อยากเข้าไปดู Content Policy ฉบับเต็มของ Google Business Profile เพิ่มเติมว่ามีเนื้อหาอะไรบ้างสามารถเข้าไปดูได้ที่นี่
หลีกเลี่ยง Duplicate Content
สำหรับนักการตลาดหรือผู้ประกอบการธุรกิจท้องถิ่นที่ใช้งาน Google Business Profile อยู่อาจจะเกิดความรู้สึกสงสัยว่า Policy ใหม่ที่ถูกอัปเดตเข้ามานี้มีความหมายว่าอย่างไร?
ต้องบอกว่ากูเกิลกำลังให้ความสำคัญกับการโพสต์เนื้อหาบน Business Profile มากขึ้น โดยจะไม่อนุญาตให้ผู้ใช้งานโพสต์รูปภาพ วิดีโอ หรือชุดข้อความที่เหมือนกัน ในกรณีที่คุณมีโปรไฟล์ธุรกิจอยู่บน Business Profile และชอบที่จะโพสต์รูปภาพหรือวิดีโอพร้อมกับชุดข้อความเดียวกัน ซ้ำๆ ในทุกสัปดาห์ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นการย้ำเตือนข้อเสนอโปรโมชันของร้านหรืออะไรก็ตาม กูเกิลจะมองว่าคอนเทนต์เหล่านี้คือ Duplicate Content หรือ “เนื้อหาซ้ำ” และมีโอกาสที่กูเกิลจะมองว่าเป็นสแปม และนั่นหมายถึงปัญหายุ่งยากที่จะตามมาบนโปรไฟล์ธุรกิจของคุณ
นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ควรระวังอีกหนึ่งอย่าง นั่นคือการใช้โลโก้แบรนด์ที่บ่อยจนเกินไป ก็อาจทำให้กูเกิลมองว่าเป็น Duplicate Content ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดตามข้อกำหนด Content Policy ใหม่นี้คือการทำให้แน่ใจว่าทุกโพสต์จะต้องไม่มีคอนเทนต์ที่ซ้ำกันรวมไปถึงควรหลีกเลี่ยงการใช้โลโก้แบรนด์ที่ถี่จนเกินไป
สรุป
ต้องบอกว่ากระแสของการอัปเดต Content Policy ในครั้งนี้ทำเอานักการตลาดหรือผู้ประกอบการหลายคนที่ใช้งาน Business Profile จำเป็นต้องปรับตัวกันพอสมควรโดยเฉพาะข้อห้ามในการใช้โลโก้แบรนด์ อย่างไรก็ตามในตอนนี้กูเกิลยังไม่ได้ออกมาประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมว่าการใช้โลโก้แบรนด์นั้นต้องใช้ถี่ขนาดไหนถึงจะถูกมองว่าเป็นสแปม อาจจะต้องรอดูประกาศจากทางกูเกิลต่อไป แต่ทางที่ดีก็ควรหลีกเลี่ยงไปก่อนจะดีที่สุด หวังว่าข่าวสารอัปเดตในครั้งนี้จะช่วยให้คุณสามารถนำไปปรับใช้กับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ได้
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com
