ผ่านพ้นปี 2022 มาได้สักพักแล้ว สำหรับใครที่ทำงานอยู่ในแวดวงการตลาดออนไลน์คงพอจะรู้กันดีว่า เทรนด์การตลาดในปี 2023 นี้ หนีไม่พ้นรูปแบบการทำโฆษณาแบบวิดีโอคอนเทนต์ ที่ได้กลายมาเป็นช่องทางสำคัญของทั้งแบรนด์และนักการตลาดที่ต้องการขยายการเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ให้มากขึ้น และยังช่วยสร้าง Brand Awareness ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ อย่างที่รู้กันดีว่าในปัจจุบันไลฟ์สไตล์ของผู้คนในตอนนี้ให้ความสำคัญกับการใช้งานสมาร์ทโฟนกันเป็นหลัก ดังนั้นในบทความนี้ Relevant Audience จะมาแนะนำวิธีการสร้างแคมเปญ Video Ads สำหรับโทรศัพท์มือถือ ในแพลตฟอร์ม Facebook, Instagram และ Messenger รับรองได้เลยว่าสามารถนำไปปรับใช้เพื่อให้ได้ Conversion ที่ต้องการ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
1. ปรับรูปแบบความยาวของวิดีโอให้เหมาะสม
ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าเทรนด์ของวิดีโอคอนเทนต์ขนาดสั้น กำลังเป็นที่นิยมสำหรับชาวโซเชียลมีเดียทั่วโลก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจที่มันจะเกิดขึ้นกับคอนเทนต์โฆษณาเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแคมเปญแบบ Mobile Ads ที่เป็นการรันตีให้กับผู้ใช้งานมือถือในการรับชม เพราะหากเนื้อหาวิดีโอไม่ได้มีความน่าสนใจและไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้รับชมได้มากพอ แถมยังมีความยาวที่ดูยืดเยื้อจนเกินไป ก็เตรียมโดนปัดผ่านได้เลย
โดยความยาวของวิดีโอที่ Meta Blog แนะนำคือไม่เกิน 15 วินาที เพราะจะเป็นความยาวที่ไม่สั้นหรือนานจนเกินไป สามารถสร้างอารมณ์ร่วมให้ผู้รับชมสามารถดูคอนเทนต์จนจบได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเภทโฆษณาแบบ Stories และ In-Stream แต่อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าหลังจากนี้จะต้องปรับทุกคอนเทนต์ให้มีความยาวไม่เกิน 15 วินาที เพราะในบางรูปแบบโฆษณาอย่างเช่น หน้าฟีด Facebook, Facebook Marketplaace และ Messenger ก็สามารถเพิ่มความยาวของวิดีโอขึ้นได้ตามความเหมาะสม
2. รู้จัก 4 วินาที Golden Time
ถ้าการจ้องตากันและกัน 8.2 วินาที สามารถทำให้ผู้คนตกหลุมรักกันได้ การใช้เวลาเพียงแค่ 4 วินาทีแรกในการสร้างความประทับใจให้ผู้รับชมดูวิดีโอคอนเทนต์บน Facebook ก็สามารถทำให้ผู้ชมจดจำแบรนด์ได้ดีที่สุด และมีแนวโน้มที่จะทำให้พวกเขาดูคอนเทนต์จนจบ ดังนั้นแล้ววิดีโอคอนเทนต์ที่ดีต้องไม่ยืดเยื้อ รวบรัดแบบรัดกุม ถ้ามี Key Message ที่ต้องการสื่อสาร ก็ควรใส่มาตั้งแต่ช่วงแรกๆ จะเหมาะสมที่ดีสุด
3. ปรับไซส์วิดีโอให้เป็นแนวตั้ง (Vertical Video)
วิดีโอคอนเทนต์แนวตั้ง เป็นอะไรที่เหมาะกับยุคสมัยที่ผู้คนใช้โทรศัพท์เป็นแพลตฟอร์มหลักในการดูวิดีโอคอนเทนต์เป็นอย่างมาก โดย Ratio ที่เหมาะสมที่ครอบคลุมพื้นที่หน้าจอโทรศัพท์ได้ดีที่สุดสำหรับโฆษณาบน Facebook, Instagram และ Meta Audience Network คืออัตราส่วน 4:5 ที่ถือว่าเป็นอัตราส่วนที่ผู้คนส่วนใหญ่คุ้นชินมากที่สุด
4. อย่าลืมใส่ช่องทางติดต่อแบรนด์
สำหรับการยิง Ads แล้ว ไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่าการแนบช่องทางการติดต่อเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นลิงก์หน้าเพจ Facebook แอคเคาท์ในแพลตฟอร์มอื่นๆ หรือจะเป็นหน้าเว็บไซต์ก็ตาม เช่นเดียวกับ 4 วินาที Goldentime คุณควรทิ้ง CTA ที่จะมั่นใจได้ว่าสามารถสร้าง Action ที่ตามมาได้จริง เช่น ช่องทางการสมัครสมาชิก เพิ่มสินค้านั้นในตะกร้าพร้อมสั่งซื้อทันที หรือหากเป็นแอปฯ ก็ต้องให้พร้อมดาวน์โหลด โดยใส่เอาไว้ในช่วง 15 วินาทีแรกของคลิปวิดีโอจะเหมาะสมที่สุด รับรองเลยว่าแคมเปญโฆษณานั้นจะได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างแน่นอน
5. ให้ความสำคัญกับคนที่ชอบดูแบบปิดเสียง
เชื่อหรือไม่ว่ามีงานวิจัยในโลกของการตลาดออกมารองรับมากมายว่า ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียหลายต่อหลายคนไม่ได้มีความต้องการฟังเสียงวิดีโอก็ได้ โดยใช้แค่การอ่านซับไตเติลแทน หรือวิดีโอคอนเทนต์บางตัวมีแค่ภาพ เสียงประกอบเล็กน้อย ไม่ต้องมีคำพูด ก็ดูรู้เรื่องได้
เรียกได้ว่ากลายเป็นอีกเทรนด์ของวิดีโอคอนเทนต์ไปเลยกับเน้นการอ่านซับ แต่ไม่เปิดเสียง อาจจะเนื่องด้วยไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป และต้องเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกคนที่ชอบดูวิดีโอคอนเทนต์แบบมีเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่อาจจะอยู่ในพื้นที่ที่ไม่สะดวกในการใช้เสียง อย่างเช่น ในกรณีที่อยู่ในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นบนรถสาธารณะ รถไฟฟ้าใต้ดิน หรือในที่ทำงาน เป็นต้น ดังนั้นแล้วการเพิ่มตัวหนังสือหรือซับไตเติ้ลแบบมีคุณภาพเข้ามาช่วยบรรยายวิดีโอ ก็จะเป็นการช่วยให้คอนเทนต์เข้าถึงกลุ่มผู้คนที่มีไลฟ์สไตล์แบบนี้ได้มากยิ่งขึ้น
ทิ้งท้าย
อย่างที่รู้กันดีว่าในปี 2023 น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีทองของการทำ Video Content แต่ในฐานะของแบรนด์และนักการตลาดที่ดีนั้น การรู้จักตามเทรนด์ให้ทันก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่จะดียิ่งกว่าหากสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ออกมาให้มีความน่าสนใจ ไม่ซ้ำกับใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอนเทนต์ประเภทโฆษณาที่ต้องอาศัยปัจจัยหลายๆ อย่างในการที่จะได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการ ที่แน่ๆ คือต้องรู้จักกลุ่ม Audience ของแบรนด์ให้ดี มีการทำ Market Research ที่ดี และรู้จักใช้เครื่องมือต่างๆ หรือช่องทางต่างๆ อย่างชาญฉลาด สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ที่ขาดพื้นฐานของการทำการตลาดออนไลน์ ก็สามารถเข้าไปอ่านเคล็ดลับและเทคนิคต่างๆ ได้ใน Blog ของเราได้เลย
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com