ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่มีความแน่นอนแบบนี้ ทำให้กลุ่มธุรกิจส่วนมากต้องหาทางรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงการพยายามลดความเสี่ยงในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลดต้นทุนการผลิต รวมไปถึงการทำการตลาดออนไลน์
การทำ SEO อาจเป็นการลงทุนที่มีค่าใช้จ่ายสูง แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาถือว่าเป็นเรื่องที่คุ้มค่าจะลองเสี่ยง อย่างไรก็ตาม หากทำ SEO อย่างขาดความรอบคอบหรือไม่ระมัดระวังให้มากพอ จากผลลัพธ์ที่ดีอาจกลายเป็นเรื่องเลวร้ายจนอาจทำให้คิดว่าอยู่เฉยๆ ก็ดีอยู่แล้วได้ ในบทความนี้จะมาแนะนำ 5 สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงหากต้องการผลลัพธ์ที่ดีจากการทำ SEO
1.ไม่กำหนดเป้าหมาย
แน่นอนว่าหากไม่มีการกำหนดเป้าหมายเอาไว้ก่อนตั้งแต่เริ่มต้นแคมเปญ สิ่งที่พยายามทำอย่างแทบเป็นแทบตายก็อาจเป็นลมล้มพับ เมื่อพบว่าปลายทางที่เจอไม่เหมือนอย่างที่คิดเอาไว้ แน่นอนว่าการทำ SEO เป้าหมายคือต้องการให้ผู้คนเห็นสินค้าหรือบริการของเราผ่าน Search Engine ต่างๆ อย่างไรก็ตามการกำหนดเป้าหมายให้มีความเหมาะสมตามจุดเด่นหรือจุดด้อยของแต่ละแบรนด์ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน บางแบรนด์อาจจะต้องการเพิ่มยอดขายให้กับสินค้าหรือบริการมากกว่าการเพิ่มปริมาณคนให้เข้าเว็บไซต์ เพราะฉะนั้นการกำหนดเป้าหมายและมีเครื่องมือชี้วัดที่เหมาะสม จะช่วยให้การทำงานมีความราบรื่นขึ้นและจะช่วยให้บรรลุผลสำเร็จได้ง่ายมากขึ้นแน่นอน
2.การขาดทรัพยากรที่จำเป็น
การทำงานโดยขาดความพร้อมในด้านต่างๆ เป็นหนึ่งในเรื่องที่สร้างความรำคาญใจได้มากที่สุด และอาจเป็นผลให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพที่ดีพอ การขาดทรัพยากรในที่นี้ไม่ว่าจะเป็น
- ผู้คน: การขาดทรัพยากรบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญหรือมีความรู้ในการทำ SEO โดยตรง อาจทำให้ระยะเวลาในการทำงานเพิ่มขึ้น ในทำนองเดียวกันหากต้องการให้แคมเปญมีประสิทธิภาพที่ดีไม่เพียงแค่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ SEO แต่ต้องมีบุคลากรในด้านอื่นๆ ที่จะเข้ามาช่วยซัพพอร์ตด้วยไม่ว่าจะเป็นทีมคอนเทนต์, ทีม UX/UI, ทีมไอที และอื่นๆ ตามความเหมาะสมของแผนงาน
- งบประมาณ: ขาดบุคลากรยังพอถูไถไปได้ แต่ถ้าขาดเงินที่จะคอยรองรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็เปรียบเสมือนกับต้นไม้ที่ต้องการเติบโตไปท้าแดดแต่ไม่มีน้ำคอยหล่อเลี้ยง เช่นเดียวกับการทำ SEO จำเป็นต้องใช้งบประมาณเบื้องต้นไม่ว่าจะเป็นรองรับค่าใช้จ่ายของผู้เชี่ยวชาญ (หากมีความจำเป็นต้องจ้าง) หรือรองรับการซื้อเครื่องมือเฉพาะที่ต้องใช้
- เครื่องมือ: ปัจจุบันมีเครื่องมือที่ข้องเกี่ยวกับการทำ SEO เป็นจำนวนมาก หลายเครื่องมือสามารถใช้งานได้ฟรี แต่หากต้องการได้ผลลัพธ์ที่ดีการเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า (แม้จะต้องเสียเงินเพิ่ม) ก็เป็นเรื่องที่ควรทำ
3.มีความอดทนต่ำ
การทำ SEO เปรียบได้กับการสร้างยอดของพีระมิด เพราะเป็นการลงทุนระยะยาวที่ไม่สามารถเร่งรีบได้ แม้ว่าจะใช้เงินลงทุนไปมากน้อยเพียงใดก็ตาม ธุรกิจหรือแบรนด์ส่วนมากเลือกที่จะดึงปลั๊กออกทันทีเมื่อไม่เห็นผลลัพธ์ที่พึงพอใจในช่วงสองสามเดือนแรก แต่อย่ารีบด่วนสรุปว่าการทำ SEO ไม่ได้ผลเพราะเว็บไซต์ไม่ได้อยู่ในอันดับแรกของหน้าการค้นหาในสองสามเดือนแรก เพราะการทำ SEO เป็นเรื่องของความสม่ำเสมอ อาจใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะได้เห็นผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ ถึงแม้ฟังดูจะเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดหรือดูไม่สมเหตุสมผลกับเงินที่ต้องเสียไป แต่หากมีความอดทนและไว้วางใจในกระบวนการนี้มากพอจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกลับคืนมาแน่นอน
4.อย่าลืมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน
การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานเว็บไซต์เป็นเรื่องสำคัญที่คนทำ SEO ทุกคนต้องคำนึงถึงอยู่เสมอ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คิดว่า “คนทั่วไปพบเจอเว็บไซต์บนหน้า SERPs ก็ถือว่าประสบผลสำเร็จแล้ว” อาจกลายเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ การคิดถึงประสบการณ์ที่ผู้ใช้งานเว็บไซต์จะต้องพบเจอเป็นเรื่องสำคัญ ตั้งแต่เริ่มต้นเข้ามาจนได้สิ่งที่ต้องการไป ตัวอย่างเช่น หากมีคนที่สนใจการทำประกันให้กับธุรกิจ อาจมีแนวโน้มว่า ผู้ใช้งานจะเริ่มต้นด้วยการหาข้อมูลต่างๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงเกี่ยวกับประเภทของบริษัทหรือเว็บไซต์ที่ให้บริการ แต่หากเว็บไซต์ที่คุณลงทุนทำ SEO เพื่อให้ติดอยู่บนหน้าแรกของ Google ไม่ได้เตรียมพร้อมในการนำเสนอข้อมูลต่างๆ ที่มากพอเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของเขา แต่กลับมีเพียงแค่แบบฟอร์มให้กรอกและพยายามเริ่มต้นกระบวนการขายอย่างรวดเร็วจนเกินไป แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ได้ก็คงไม่ได้อะไรไปมากกว่ายอดรับชมเว็บไซต์ที่เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว
5.ตัดขาดช่องทางการตลาดอื่นๆ
ใครที่เริ่มต้นการทำ SEO อยู่และผลลัพธ์ที่ได้กำลังดำเนินไปด้วยดี อาจตกม้าตายได้ง่ายๆ หากเผลอวางใจการทำการตลาดออนไลน์เพียงช่องทางเดียว โลกของการตลาดออนไลน์เป็นอะไรที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดควรใช้ช่องทางการทำการตลาดอื่นๆ ร่วมกัน ไม่ควรจำกัดเพียงแค่ช่องทางใดช่องทางหนึ่งแม้จะเป็นเรื่องที่ถนัดที่สุดก็ตาม ตัวอย่างเช่น หากต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วในการอยู่บนอันดับบนของหน้า SERPs การเลือกใช้ช่องทางการโฆษณาแบบ PPC (Pay Per Click) ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าการทำ SEO ที่ต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานกว่า
เคล็ดลับคือเมื่อรู้ว่าการทำ SEO เป็นเรื่องที่ใช้ระยะเวลา ดังนั้นการทำ SEO ร่วมกับใช้ช่องทางการตลาดแบบ PPC ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม ยิ่งไปกว่านั้นช่องทางอื่นๆ อย่าง เช่น โซเชียลมีเดีย อีเมล และการโฆษณาออนไลน์ประเภทอื่นๆ ก็เป็นตัวเลือกที่ดี อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาถึงความเหมาะสมแต่ละแคมเปญในด้านต่างๆ ก่อนเสมอ
การทำ SEO และหวังผลที่ดีที่สุดในทันทีเป็นเรื่องปกติที่พบเจอได้ทั่วไปกับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น แต่เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงรู้กันแล้วใช่ไหมว่าการได้รับผลลัพธ์ที่ดีจากการทำ SEO คือต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างสม่ำเสมอ การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด 5 ข้อในบทความข้างต้นนี้จะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนทำ SEO แน่นอน
รับปรึกษาการทำ SEO ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com