ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในสิ่งท้าทายขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไรนั้นคือการทำการตลาดออนไลน์ท่ามกลางงบประมาณที่ไม่ได้สูงมากนัก ด้วยเนื้อหาส่วนมากจะเป็นเรื่องที่ดูจริงจังซีเรียส จึงเป็นเรื่องยากสำหรับนักการตลาดที่ต้องการผลักดันองค์กรเหล่านี้ให้ประสบความสำเร็จในแคมเปญต่างๆ ฉะนั้นในบทความนี้จะพานักการตลาดทุกคนมาดูเทรนด์ยอดนิยมของ Hubspot ที่จะช่วยให้การทำการตลาดสำหรับองค์กร Non-Profit ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด สามารถนำไปปรับใช้ในการทำคอนเทนต์เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในการทำแคมเปญต่างๆ ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกันเลย
1. ระดมทุนในแพลตฟอร์มที่สนับสนุนโดยเฉพาะ
จะเห็นได้ว่า TikTok เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นสำหรับกลุ่มองค์กรไม่แสวงผลกำไร ด้วยฟีเจอร์ Donation จึงทำให้ TikTok เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่เหมาะสมในการสร้างแคมเปญระดมทุนต่างๆ นั่นเอง
นอกจาก TikTok แล้ว แพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง Facebook หรือ Instagram Reels ก็มีการอัปเดตฟีเจอร์ Fundrasing โดยเฉพาะ (อัปเดตฟีเจอร์ใหม่ Instagram Reel สามารถระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นได้แล้ว)
2. การทำการตลาดแบบ Personalized Marketing
แน่นอนว่าแคมเปญที่ผู้คนทั่วไปสนใจมากที่สุด คือแคมเปญที่ผู้คนเหล่านั้นสนใจอย่างจริงๆ จังๆ แต่อย่าเพิ่งทำหน้างงไป เพราะเมื่อพูดถึงการทำการตลาดของกลุ่มองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรแล้ว การที่จะทำให้แคมเปญนั้นสามารถเตะตาผู้บริโภคทั่วไปได้ดีที่สุดคือการที่เนื้อหาของแคมเปญเหล่านั้นเป็นที่สนใจหรือมีความเกี่ยวข้องอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นการทำการตลาดแบบ Personalized ด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ก่อนจึงเป็นเรื่องสำคัญ ลองมาดูตัวอย่างของการเก็บข้อมูลบน Hubspot กัน ดังนี้
- กลุ่มผู้บริจาค 1 ใน 4 ที่มีอายุระหว่าง 18 – 29 ปี นิยมแคมเปญของกลุ่มองค์กรไม่แสวงหากำไรที่สื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย
- กลุ่ม Gen Z และ Gen X จะชอบบริจาคผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
3. การเป็นพาร์ทเนอร์กับธุรกิจท้องถิ่นอื่นๆ
ในรายงานของ Hubspot ในปี 2021 ที่ผ่านมา ระบุว่ากลุ่มองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรส่วนใหญ่จะนิยมร่วมมือเป็นพาร์ทเนอร์กับธุรกิจท้องถิ่นอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกัน เพื่อใช้ประโยชน์จากคอมมูนิตี้ในการสร้างการรับรู้ถึงแคมเปญและแรงสนับสนุนต่างๆ ตัวอย่างเช่นแคมเปญการช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยในละแวกท้องถิ่นของ Bed-Stuy Strong ที่ร่วมมือกับร้านอาหารท้องถิ่นอย่าง Tamales of Hope เพื่อแจกจ่ายอาหารให้กับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม
4. เทคโนโลยี NFTs
การมาถึงของเทคโนโลยี NFTs หรือ Non-Fungible Token ทำให้มีหลายช่องทางที่เกิดขึ้นใหม่สำหรับการทำแคมเปญการตลาดต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ตัวอย่างเช่น ในวงการศิลปะ โดยเฉพาะศิลปินสายดิจิทัลจากแคมเปญ NFT by FWD Thailand ที่เป็นการเปิดโอกาสให้ศิลปินหน้าใหม่ ได้นำผลงานของตัวเองมาโชว์สู่สายตาของคนทั่วไป โดยจะเป็นการจัดแสดงในแกลเลอรี จะเห็นได้ว่านี่เป็นการร่วมือระหว่างแบรนด์ FWD ที่มองเห็นเทรนด์ NFT ที่มาแรงจึงเข้าไปสนับสนุนด้วยการจัดแคมเปญต่างๆ เป็นต้น
5. อย่าลืมนึกถึง Call to Action
ใครที่คิดว่าแคมเปญตัวเองก็คิดมาอย่างดีแล้ว หรือแพลตฟอร์มที่ใช้ก็เหมาะสมที่สุดแล้ว แต่ทำไมผลลัพธ์ยังไม่ได้อย่างที่ต้องการ นั่นอาจเป็นเพราะว่าประสิทธิภาพของ CTA ยังดีไม่พอ เพราะอย่าลืมว่าการมี CTA ที่ดีจะเป็นการกระตุ้นให้ผู้รับชมเกิดการกระทำที่จะส่งผลต่อแคมเปญนั่นเอง โดยพื้นฐานแล้ว CTA ที่ดี ควรจะ
- สร้าง CTA บนหน้าโฮมเพจต่อหนึ่งคน (แยกตามข้อมูล Personalization Marketing)
- ทดสอบ A/B Testing เพื่อหาผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอยู่เสมอ
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com