นักการตลาดท่านใดที่มีประสบการณ์ในการทำ SEO คงทราบกันดีว่าในแต่ละปีกูเกิลจะมีการอัปเดตอัลกอริทึมสำหรับการทำ SEO อยู่ตลอดเวลา จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่นักการตลาดทุกคนจะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการติดตามศึกษารายละเอียดการอัปเดตต่างๆ เหล่านั้นเพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับกลยุทธ์ทางการตลาดของตนเอง
ทีมงานวิจัยของ HubSpot ซึ่งเป็นเครื่องมือชั้นนำสำหรับนักการตลาดได้ออกมาเผยแพร่บทความล่าสุดในเว็บไซต์ของตนเองเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ที่เป็นปัญหาของคนทำ SEO ส่วนใหญ่ที่พบเจอเป็นประจำในปี 2022 ดังนั้นในบทความนี้จะมาสรุปปัญหาต่างๆ ให้ฟังกัน พร้อมกับวิธีรับมือเบื้องต้น นักการตลาดท่านใดที่อยากให้เว็บไซต์ติดอันดับหนึ่งในหน้าการค้นหาต้องห้ามพลาด ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
4 เรื่องท้าทายคนทำ SEO ในปี 2022
ในปี 2022 นี้ นับได้ว่าเป็นปีทองของวงการตลาดออนไลน์ แต่นั่นก็หมายถึงการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น หากต้องการให้เว็บไซต์มีอันดับที่ดีบนหน้า SERPs มาดู 4 เรื่องที่นักการตลาดสาย SEO ทุกคนต้องรู้ เริ่มจาก
1.รู้เท่าทันการอัปเดตอัลกอริทึม
ใครที่ทำ SEO อยู่แล้วคงรู้ว่าการทำ SEO ที่ดีไม่ใช่แค่การปรับปรุงเว็บไซต์ให้ผู้รับชมทั่วไปมีความรู้สึกพึงพอใจเท่านั้น แต่ยังต้องทำให้ถูกต้องตามหลักการของอัลกอริทึมของ Search Engine ด้วย ดังนั้นการเรียนรู้หรือเข้าใจ”วิธีการทำงาน” ของอัลกอริทึม จึงเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆ ในการทำ SEO
เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าอัลกอริทึมของ Google ในแต่ละปีมีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลา นับตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงตอนนี้มีอัปเดตใหญ่ๆ ปาเข้าไปถึง 6 รายการ และหากนับรวมรายการอัปเดตขนาดใหญ่ของปีที่ผ่านมาก็มีมากถึง 22 รายการ และแน่นอนว่าในทุกการอัปเดตก็จะสร้างผลกระทบมากบ้างน้อยบ้างกันตามแต่ละเว็บไซต์ ซึ่งอาจเป็นผลดีหรือไม่ดีต่อเว็บไซต์ของคุณก็ได้ อย่างไรก็ตามอย่าตื่นตระหนกตกใจจนเกินเหตุ เพียงแค่เริ่มศึกษารายละเอียดการอัปเดตในแต่ละครั้งหรือจะลองมองดูเว็บไซต์คู่แข่งที่มีผลอันดับดีขึ้นก็ได้ว่าเป็นเพราะอะไรหรือมีสาเหตุไหนเป็นปัจจัยสำคัญแล้วลองนำมาเทียบเคียงกับเว็บไซต์ของตนเอง อาจจะทำให้เข้าใจถึงการอัปเดตอัลกอริทึมในแต่ละครั้งได้บ้างไม่มากก็น้อยแน่นอน
2.อันดับเว็บไซต์ไม่ยอมขึ้นสักที
สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำ SEO แล้วติดปัญหาในการดันอันดับเว็บไซต์ อุตส่าห์ลงทุนลงแรงไปก็มากแต่ทำไมผลลัพธ์ไม่เห็นได้อย่างที่คาดหวังเอาไว้ อาจจะต้องกลับมานั่งทบทวนกันก่อนว่าการทำ SEO นั้นเปรียบได้กับการวิ่งมาราธอน หมายความว่าต้องใช้ระยะเวลาสักพักในการสร้างผลลัพธ์ที่ดี ที่สำคัญคือต้องปรับปรุงเว็บไซต์ให้ถูกต้องตามหลักการทำ SEO ทั้งการทำ On-Page และ Off-Page ลองเริ่มต้นตรวจสอบเรื่องพื้นฐานต่างๆ ต่อไปนี้กันดูเพื่อที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับที่ดีขึ้นบนหน้า SERPs
- Heading Tags
- Alt Text
- Keyword, Secondary Keyword
- Link Building
- กลยุทธ์ในการทำคอนเทนต์
เหล่านี้เป็นเรื่องพื้นฐานเบื้องต้นในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ถูกต้องตามหลัก SEO เพื่อที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดี สำหรับใครที่อยากรู้รายละเอียดเคล็ดลับการทำ SEO เพิ่มเติมสามารถอ่านได้ในบทความนี้
3.เรื่องของ Title และ Meta Descriptions
ถ้าเปรียบการทำ On-Page เป็นภารกิจหลักในการทำ SEO ชื่อ Title และ Meta Descriptions ก็คงเป็นเหมือนกับแม่ทัพและรองแม่ทัพ เพราะทั้ง Title และ Descrptions จะเป็นส่วนที่ปรากฏอยู่บนหน้าผลการค้นหาบน Google Search และสามารถโน้มน้าวให้ผู้คนทั่วไปสนใจจนเลือกที่จะกดเข้ามาหรือไม่ก็ได้ จึงเป็นเหตุผลที่คนที่เริ่มต้นทำ SEO ทุกคนต้องใส่ใจเป็นพิเศษ
แม้จะไม่มีกฎตายตัวสำหรับการตั้งชื่อ แต่ผู้เชี่ยวชาญ SEO หลายคนระบุตรงกันว่าการตั้งชื่อ Title ไม่ควรยาวเกิน 75 ตัวอักษร เพื่อไม่ให้มีความยาวที่มากเกินไป และควรตั้งชื่อให้มีความกระชับ น่าสนใจ สำหรับ Meta Description มีลักษณะเป็นชุดคำตัวอักษรสีเทาเล็กๆ ความยาวระหว่าง 175 – 225 คำ ที่จะปรากฏอยู่ใต้ Title Tags โดยการเขียน Meta Description ที่ดีต้องพยายามสรุปใจความสำคัญที่ช่วยให้ผู้ที่ค้นหาข้อมูลเข้าใจว่าเว็บไซต์นั้นมีเนื้อหาอะไร เพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจนั่นเอง
ซึ่งจริงๆ แล้วข้อความข้างต้นล้วนแล้วแต่เป็นหลักการพื้นฐานเบื้องต้น ฉะนั้นเวลาที่ลงมือจริงๆ เปรียบได้กับการสร้างสรรค์ศิลปะ เราจะเขียนข้อความอะไรลงไปก็ตามอย่าลืมนำหลักการข้างต้นมาตรวจสอบอีกรอบ เป็นอันว่าใช้ได้
4.ปัญหา Mobile Responsive
ในทุกวันนี้ผู้บริโภคอินเทอร์เน็ตจำนวนมากนิยมใช้อุปกรณ์พกพาต่างๆ ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากกว่าบนเดสก์ท็อป และนั่นหมายความว่าหากต้องการให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับที่ดีจำเป็นที่จะต้องออกแบบเว็บไซต์ให้รองรับกับอุปกรณ์พกพาต่างๆ เหล่านี้ หรือที่เรียกกันว่า Mobile-Friendly เพื่อตอบโจทย์ต่อผู้ใช้งานและอัลกอริทึมของกูเกิล
สำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์มือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นทำเว็บไซต์โดยใช้ CMS (Content Management System) พื้นฐานอย่าง WordPress, Shopify, Woocommerce และเครื่องมือสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปอื่นๆ อาจไม่ต้องเป็นห่วงมากนักเพราะทีมผู้พัฒนาเครื่องมือเหล่านี้มีการอัปเดตเว็บไซต์ให้รองรับอุปกรณ์พกพาอยู่แล้ว แต่สำหรับเว็บไซต์ที่ถูกสร้างมานานแล้วหรือเป็นเว็บไซต์ประเภทที่ต้องเขียน Coding ขึ้นเอง แล้วยังไม่มีการปรับปรุงในเรื่องนี้จำเป็นที่จะต้องเสียเวลาในการแก้ไขทันทีเพื่อให้เว็บไซต์สามารถรองรับได้ ไม่อย่างนั้นเตรียมตัวโดนเว็บไซต์คู่แข่งของคุณแซงหน้าได้เลย
อ่านมาถึงตอนนี้น่าจะพร้อมแล้วสำหรับการทำ SEO ให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าการทำ SEO ไม่ใช่สิ่งที่ทำแล้วจะเห็นผลลัพธ์ทันทีภายในสองสามวัน แต่ต้องมีการตรวจสอบและใช้เวลาในการปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ แต่รับรองว่าถ้าคุณสามารถเอาชนะความท้าทายทั้ง 5 ข้อ ที่เราได้นำเสนอไปในบทความนี้ได้ ผลลัพธ์ที่ดีของเว็บไซต์รออยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com