จากการรวบรวมสถิติโดย Statista พบว่าในปัจจุบันผู้คนทั่วไปนิยมใช้มือถือในการเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ สูงถึง 51.92% เมื่อเทียบจากผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมด ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการใช้งานบนเดสก์ท็อปหรือคอมพิวเตอร์มากกว่าครึ่ง แน่นอนว่าเป็นผลให้แผนการตลาดออนไลน์ของนักการตลาดส่วนใหญ่ที่ยังไม่ได้มีการปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับการแสดงผลบนอุปกรณ์มือถือจำเป็นต้องมีการปรับตัวอย่างเร่งด่วน
ดังนั้นในบทความนี้ได้นำเคล็ดลับดีๆ จาก Digital Marketing Institute มาฝากกัน โดยเป็น 3 วิธีที่จะช่วยให้นักการตลาดพร้อมที่จะเผชิญกับโลกการตลาดที่เทรนด์ Mobile First กำลังเป็นกระแสนิยมอยู่ในตอนนี้ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
1. ปรับข้อความให้เหมาะสม
สำหรับคอนเทนต์บนเว็บไซต์ แน่นอนว่าข้อความหรือตัวอักษรเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด ดังนั้นก่อนที่จะปรับโครงสร้างให้ผู้อ่านรับชมเนื้อหาได้ดีที่สุด คุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเนื้อหาบนมือถือและเนื้อหาบนหน้าเดสก์ท็อปนั้นมีความแตกต่างอย่างไร ดังนี้
รูปแบบในการอ่าน
โดยมีงานวิจัยการทดลองเกี่ยวกับรูปแบบการอ่านโดยอิงจากการอ่านเนื้อหาบนเดสก์ท็อป พบว่ามีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ
- รูปแบบ “Golden Triangle” สำหรับรูปแบบแรกจะเป็นการรับชมเนื้อหาที่ผู้อ่านส่วนใหญ่จะเน้นไปที่มุมซ้ายบนของเนื้อหาเป็นหลัก
- รูปแบบ “F-Shape” เป็นรูปแบบที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยผู้อ่านจะมีการอ่านที่เริ่มจากด้านบนซ้ายและไล่ลงมาจนมีลักษณะที่คล้ายกับตัวอักษร F
ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อพูดถึงหน้าจอมือถือที่มีขนาดเล็กกว่า อย่างในภาพตัวอย่าง Heatmap ด้านบนจะพบว่า ผู้อ่านราว 68% จะพุ่งความสนใจไปยังบริเวณตรงกลางและครึ่งบนของหน้าจอ อย่างไรก็ตามคำแนะนำสำหรับวิธีการปรับปรุงเนื้อหาที่ดีที่สุดคือการปรับในทุกๆ ส่วนของบทความเท่าที่จะทำได้ ดังนี้
- Headline สำหรับ Headline หรือหัวข้อเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของเนื้อหาคอนเทนต์ประเภทบทความ โดยพื้นฐานแล้วหัวข้อควรที่จะกระตุ้นความสนใจของผู้รับชมได้และหากเป็นไปได้จะต้องอธิบายเนื้อหาภาพรวมทั้งหมดอย่างกระชับ นอกจากนี้หากในบทความมีหลายหัวข้อ ต้องมีการจัดวางโครงสร้างให้ชัดเจน อะไรคือหัวข้อหลักและอะไรคือหัวข้อรอง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้อ่านมากขึ้น
- Summary สำหรับเนื้อหาสรุป ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ในส่วนสุดท้ายของบทความเสมอไป เพราะโดยพื้นฐานของผู้ใช้มือถือส่วนมากมักจะต้องการเนื้อหาที่มีความกระชับ ได้ใจความ ดังนั้นการเขียนเนื้อหาสรุปความไว้แบบกระชับตั้งแต่ต้นก็จะช่วยให้ผู้อ่านอยู่บนหน้าเว็บไซต์ได้นานมากขึ้น
- Body สำหรับเนื้อหาควรมีการจัดแบ่งให้ลงตัวเพื่อให้ง่ายต่อการอ่าน เพราะเนื้อหาข้อความที่ถูกแสดงบนโทรศัพท์นั้นมีโอกาสที่จะสร้างความหงุดหงิดต่อผู้รับชมด้วยการจัดแบ่งเนื้อหาที่ไม่ลงตัว ทำให้เกิดความรู้สึกว่าอ่านยาก ดังนั้นการคั่นหน้าด้วยรูปภาพ หัวข้อรอง หรือย่อหน้าสั้นๆ ก็จะช่วยให้เนื้อหาที่ปรากฎดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
2. ปรับปรุงไฟล์รูปภาพ
หนึ่งในเคล็ดลับที่จะช่วยให้บทความดูน่าสนใจและดึงดูดผู้อ่านให้อยู่บนหน้าเว็บไซต์ได้นานขึ้น นั่นคือการใช้สื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือวิดีโอ แต่ต้องมีการทำ Image Optimization ให้เหมาะสมกับการแสดงผลบนอุปกรณ์มือถือด้วย ไม่งั้นอาจจะทำให้เว็บไซต์เกิดอาการช้า หน่วง กระตุก และส่งผลต่อประสบการณ์การอ่านของผู้รับชม สำหรับเคล็ดลับเบื้องต้นอาจทำได้ ดังนี้
- บีบอัดไฟล์ (Compression) อย่างที่บอกไปว่าขนาดไฟล์เป็นเรื่องสำคัญที่สุด โดยเฉพาะไฟล์รูปภาพที่ยิ่งคมชัดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ไฟล์มีขนาดที่ใหญ่มากขึ้นเท่านั้น สำหรับวิธีแก้ไขปัญหานั้นง่ายนิดเดียวด้วยเครื่องมือต่างๆ ที่ถูกพัฒนาเพื่อการบีบอัดย่อขนาดของรูปภาพ ที่จะยังคงรักษาความละเอียด (Resolution) ของรูปภาพเอาไว้ เช่น TinyPNG, Affinity Photo, Pixlr, ImageCompressor เป็นต้น
- ปรับขนาดรูปภาพให้เหมาะสม หลายเว็บไซต์ชอบตกม้าตายกับเรื่องพื้นฐานอย่างการปรับขนาดรูปภาพให้เหมาะสม เพราะนอกจากขนาดรูปภาพที่ถูกต้องจะช่วยในเรื่องของการแสดงผลที่ความสวยงามแล้ว ยังจะช่วยลดการกินทรัพยากรส่วนเกินบนหน้าเว็บไซต์ได้อย่างมหาศาลอีกด้วย สำหรับเครื่องมือสำเร็จรูปที่ใช้ในการปรับขนาดรูปภาพ เช่น Embed.ly
3. ปรับดีไซน์ให้เหมาะสม
แค่เพียงข้อความและรูปภาพนั้นไม่เพียงพอต่อการแสดงผลที่ดีที่สุดบนมือถือ แต่ยังต้องมีการปรับดีไซน์ของเว็บไซต์ตามขั้นตอนด้านเทคนิคเพิ่มเติมเพื่อให้คอนเทนต์สามารถแสดงผลบนมือถือได้ดีที่สุด โดยเคล็ดลับที่จะนำมาฝากกัน มีดังนี้
Responsive Web Design
Responsive Web Design คือแนวคิดการออกแบบหน้าเว็บไซต์ที่จะสามารถแสดงผลได้อย่างเหมาะสมบนอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน โดยหลายคนมักจะสับสนกับการออกแบบเว็บไซต์ระหว่างแบบ Responsive และ Mobile Version โดยเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆ คือ Responsive จะเหมือนกับชูทสูทฟรีไซส์ แต่กับ Mobile Version จะเหมือนกับสูท Tailor Made คือถูกออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์โทรศัพท์มือถือนั้นๆ โดยเฉพาะ
แน่นอนว่าเทรนด์การออกแบบเว็บไซต์ในปัจจุบันไม่มีใครที่จะไปออกแบบเว็บไซต์แยกตามแต่ละอุปกรณ์อีกต่อไปแล้ว เพราะอย่าลืมว่าในปัจจุบันทั้งมือถือ แท็บเล็ต ก็มีหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ทำให้การออกแบบเว็บไซต์แบบ Mobile Version นั้นไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดี แถมยังทำให้เสียงบประมาณและเวลาไปแบบเปล่าประโยชน์ ดังนั้นออกแบบเว็บไซต์แบบ Responsive Design จึงเป็นเทคนิคที่ตอบโจทย์กับทั้งผู้พัฒนาเว็บไซต์และผู้รับชม อย่างไรก็ตามเคล็ดลับคือต้องมีการทดสอบเว็บไซต์ด้วยหน้าจอขนาดต่างๆ ก่อนการใช้งานจริงเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์จะไม่มีการแสดงผลใดๆ ที่ผิดพลาด
ในฐานะของแบรนด์และนักการตลาด การปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มของเทรนด์การตลาดใหม่ๆ เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าคอนเทนต์นั้นๆ จะสามารถส่งมอบประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยมให้แก่ผู้ใช้งานเสมอ
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com