5 เหตุผลที่ทำให้ TikTok เป็นที่นิยมในหมู่นักการตลาด

TikTok เป็นโซเชียลมีเดียในรูปแบบ Short Video Platform จากประเทศจีน ที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ และมีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 500 ล้านคน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก ภายในเวลาเพียง 3 ปี แอพ TikTok มียอดดาวน์โหลดไปแล้วมากกว่า 1 พันล้านครั้ง  แน่นอนว่าด้วยจำนวน user ที่มีจำนวนมาก ทำให้นักการตลาดเล็งเห็นถึง “โอกาส” ในการสื่อสารและทำการตลาดที่หลากหลายมากขึ้น

สถิติน่าสนใจของ TikTok

 นอกจากจำนวนผู้ใช้งานที่สูงมากแล้ว Tiktok ยังมีสถิติน่าสนใจอีกมากมาย ดังนี้

  • ผู้ใช้ Tiktok กว่า 48% ในปี 2019 อยู่ในช่วงอายุ 18-24 ปี รองลงมาคือช่วงอายุ 13-17 ปี ซึ่งอยู่ที่ 36% และช่วงอายุ 25-34 ปีคิดเป็น 14%
  • หากแบ่งตามเพศ ผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงมากถึง 75% และผู้ชาย 25% 
  • Tiktok ประเทศไทยในปี 2019 มีจำนวนผู้ใช้งานเติบโตมากขึ้นถึง 100% เมื่อเทียบกับปี 2018

จะเห็นได้ชัดเลยว่ากลุ่มผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่อยู่ Gen Y-Z หรืออายุระหว่าง 13-34 ปี และ Active user ในประเทศไทยก็เป็น Gen Z เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ใช้งานที่ชอบบริโภคคอนเทนต์ที่สั้น สนุกสนาน และถูกผลิตออกมาในรูปแบบวิดีโอ

การมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนและสถิติการใช้งานที่มากขนาดนี้ นักการตลาดทั้งหลายจึงไม่พลาดที่จะคว้าโอกาสทำการตลาดบนสื่อออนไลน์นี้อย่างแน่นอน และเหตุผลที่ทำให้นักการตลาดหันมาสนใจแอพพลิเคชันนี้มีอะไรบ้าง?

เหตุผลที่ 1 ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภค

อย่างที่กล่าวไปเบื้องต้น TikTok เป็น Short Video Platform ที่ให้ผู้ใช้งานผลิตคอนเทนต์สั้นๆ ออกมา ซึ่งเข้ากันได้ดีต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันของกลุ่ม Gen Y-Z ที่มีช่วงเวลาในการให้ความสนใจอยู่เพียง 8 วินาทีและอยู่กับสมาร์ตโฟนมากถึง 10 ชั่วโมงต่อวัน คอนเทนต์สั้นๆ บน TikTok จึงได้รับความนิยมสูงการกลุ่มผู้คนเหล่านี้ 

เหตุผลที่ 2 เพิ่มประสิทธิภาพการทำ Influencer Marketing ได้ดี

Influencer Marketing นั้นเป็นการตลาดที่หลายๆ แบรนด์เลือกทำกัน เพราะความนิยมของ อินฟลูเอนเซอร์ และเซเลบริตี้บนสื่อออนไลน์อย่าง Facebook หรือ Instagram ที่สามารถใช้ชื่อเสียงสร้าง Brand Awareness ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ด้วยเสน่ห์และลูกเล่นต่างๆ บน TikTok ส่งผลให้อินฟลูเอนเซอร์สามารถทำคอนเทนต์ที่แปลกใหม่ สะดุดตาได้มากขึ้น ทำให้แบรนด์ต่างๆ สามารถประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการได้กว้างขวางมากกว่าเดิม  

เหตุผลที่ 3 มีตัวเลือกในการสร้างรูปแบบโฆษณาที่หลากหลาย

โซเชียลมีเดียที่ทุกคนรู้จักกัน สามารถให้แบรนด์ต่างๆ ทำการตลาดหรือโฆษณาลงบนแพลตฟอร์มนั้นๆ เช่น Facebook Ad หรือ Google Ad ส่วน TikTok ก็มีการโฆษณาบนแพลตฟอร์มด้วยเช่นกัน ด้วยวัตถุประสงค์ในการสร้างอัตราการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย (Traffic) และเพิ่มปฏิสัมพันธ์ (Enagement) เป็นหลัก TikTok จึงแบ่งกลุ่มโฆษณาเป็น 2 แบบ ดังนี้

  1. โฆษณาทำยอด Reach ที่มี 3 แบบคือ
  • Brand Takeover: รูปแบบโฆษณาที่สามารถ Reach ได้เยอะที่สุด เหมาะสำหรับแบรนด์ที่มีแคมเปญอยู่แล้ว และอยากโปรโมทข้อความสั้นๆ เพื่อสร้างการรับรู้และตอกย้ำก่อนที่ผู้ใช้งานจะเข้าไปยัง Feed
  • TopView: เป็นรูปแบบโฆษณาที่สร้าง Reach ได้ดีอีกแบบหนึ่ง เหมาะกับธุรกิจที่มีเว็บไซต์อยู่แล้ว โดยโฆษณารูปแบบนี้จะแสดงผลเป็นวิดีโอความยาวไม่เกิน 60 วินาที อยู่ในตำแหน่งด้านบนของแอพพลิเคชันสามารถ Lead คนไปยังหน้าเว็บไซต์ของแบรนด์ได้ และ User สามารถ Comment, Like, Share ได้เหมือนคอนเทนต์ทั่วไป 
  • In-Feed Ads:  เป็นรูปแบบโฆษณาที่จะขึ้นมาระหว่างโพสต์วิดีโอบนหน้าฟีดของผู้ใช้งานที่กำลังรับชม Contents อยู่ โดยสามารถ Lead ไปยังเว็บไซต์หรือ Landing Page ได้ด้วยเช่นกัน
  1. โฆษณาสร้าง Engagement ผ่าน Ads Option 2 แบบคือ
  • Hashtag Challenge: การทำโฆษณาในรูปแบบของแคมเปญ เพื่อให้เกิดการ Challenge  ให้ผู้ใช้งานร่วมกิจกรรมเพื่อความบันเทิงหรือลุ้นรับรางวัลต่างๆ จนกลายเป็นกระแสไวรัล ซึ่งสามารถสร้าง Engagement ให้กับแบรนด์ได้
  • Branded Effect: รูปแบบของการโฆษณาที่มีเฉพาะใน TikTok เท่านั้น คือการสร้าง Effect วิดีโอขึ้นมาเอง ทั้งเสียงและภาพ เพื่อโปรโมทแคมเปญต่างๆ ซึ่งข้อดีก็คือถ้าแบรนด์สามารถสร้าง Effect ได้น่าสนใจ ก็จะทำให้มีคนเลือกมาใช้เล่นในคอนเทนต์ตัวเองเรื่อยๆ 

ด้วยความหลากหลายนี้ในการทำโฆษณานี้เอง ทำให้ TikTok เริ่มกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่นักการตลาดเริ่มหันมาจับจองพื้นที่ในการทำการตลาด

เหตุผลที่ 4 กระแส Challenge Campaign 

สามารถสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจได้ ตามที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า Hashtag Challenge ให้ผู้ใช้งานร่วมกิจกรรม เพิ่ม Engagement ให้กับแบรนด์ 

ผู้ใช้งาน TikTok ก็มักจะชอบรอคอย Challenge ใหม่ๆ ที่จะมาทำให้พวกเขารู้สึกเพลิดเพลิน สำหรับ TikTok การสร้าง Challenge Campaign จึงเป็นหัวใจหลักที่ทำให้แอพพลิเคชันนี้เกิดความเป็น Viral แบบออร์แกนิค 

ตัวอย่างเช่น แบรนด์ Uniqlo ที่ได้สร้างแคมเปญชื่อว่า #UTPlayYourWorld ให้ผู้ใช้งานได้ร่วมสนุกกัน โดยใส่เสื้อยืดของ UT By Uniqlo แล้วเต้นประกอบเพลงตาม Efffect จนเกิดความ Viral ไปทั่วโลก และส่งผลให้ยอดขายของ Uniqlo พุ่งขึ้นสูงเป็นอย่างมาก

เหตุผลที่ 5 ในอนาคต TikTok จะสามารถเติบโตขึ้นอีกมาก

จากสถิติตัวเลขต่างๆ ของผู้ใช้งานในปัจจุบันที่มีจำนวนมาก และมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ตอนนี้กลุ่มเป้าหมายหลักยังคงเป็นวัยรุ่น และ Firstjobber ที่อายุไม่มากนัก TikTok ก็กำลังมีการอัปเดตรูปแบบคอนเทนต์อยู่ตลอด 

จากการสำรวจเมื่อช่วงต้นปี 2020 ในประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มมีอัตราการใช้งาน TikTok ของกลุ่มคนช่วงอายุ “ผู้ใหญ่” มากขึ้นถึง 5 เท่า แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในช่วงอายุผู้ใช้งานมากขึ้น 

หากท่านกำลังวางแผนทำการตลาดออนไลน์ TikTok จึงเป็นอีกหนึ่งแอพพลิเคชันที่มองข้ามไม่ได้ ด้วยข้อดีที่สามารถเข้าถึงตลาดวัยรุ่น Gen Z คอนเทนต์ที่มากมาย และยังทำให้นักการตลาดสามารถสร้างแคมเปญต่างๆ ได้ด้วย ดังนั้นในอนาคตอาจจะเห็น TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ก็เป็นได้

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin
Share on pinterest
Share on tumblr

Related Articles

เมนู