แพลตฟอร์มสำหรับคนวัยทำงานชื่อดังอย่าง LinkedIn ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานว่าได้ประกาศเปิดตัวเครื่องมือใหม่สำหรับครีเอเตอร์ รวมถึงปรับปรุงฟีเจอร์บางอย่างให้ดียิ่งขึ้น จะมีอะไรเพิ่มเข้ามาใหม่บ้าง วันนี้ Relevant Audience จะพาไปเจาะลึกการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ของ LinkedIn กัน
Creator Mode ตัวช่วยสำหรับนักการตลาด
Creator Mode เป็นฟีเจอร์ที่ถูกเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2021 ปัจจุบันมีผู้ใช้งานมากกว่า 5.5 ล้านคน โดย LinkedIn ระบุว่าในการใช้งานฟีเจอร์นี้จะทำให้ผู้ใช้งานได้รับค่า Engagement เพิ่มขึ้นมากกว่า 30%
โดยในการเปิดใช้งานจะต้องผ่านเกณฑ์ที่ถูกกำหนดโดย LinkedIn ดังนี้
- มียอด Followers หรือ ยอด Connection มากกว่า 150 คน
- ต้องมีการแชร์เนื้อหาประเภทใดก็ได้บนแพลตฟอร์ม LinkedIn
- ปฏิติบัติตามข้อกำหนดนโยบายของ LinkedIn (ไม่โดนแบน)
โดยผู้ที่ใช้งานฟีเจอร์ Creator Mode จะมีเครื่องมือต่างๆ มากมายที่สามารถเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับคอนเทนต์แต่ละประเภทได้ ไม่ว่าจะเป็น LinkedIn Live Video, LinkedIn Newsletters และอื่นๆ (สามารถดูเพิ่มได้จาก ที่นี่)
เครื่องมือใหม่ มีอะไรบ้าง
- Creator Analytics
สำหรับเครื่องมือใหม่อย่างแรกนี้ จะช่วยให้ผู้ใช้งานที่ใช้ฟีเจอร์ Creator Mode สามารถวัดประสิทธิภาพและการเติบโตของเนื้อหาคอนเทนต์ได้สะดวกยิ่งขึ้น เพื่อช่วยในการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดต่างๆ โดยครีเอเตอร์สามารถติดตามผลลัพธ์ของคอนเทนต์ต่างๆ เมื่อเวลาผ่านไป ไม่ว่าจะเป็นค่า Like Impressions หรือ ค่า Engagement ของคอนเทนต์ ก็สามารถตรวจสอบได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ ได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็น ค่า Demographic, Downloadable Analytics เป็นต้น
- Subscribe To Notifications
มาสักทีสำหรับปุ่มกดซับเพื่อเพิ่มผู้ติดตาม บรรดาครีเอเตอร์ต่างต้องกดปุ่มถูกใจให้กับเครื่องมือนี้กันอย่างแน่นอน เพราะในตอนนี้ผู้ใช้งานสามารถที่จะกดปุ่ม Subscribe เพื่อติดตามคอนเทนต์ใหม่ๆ ของครีเอเตอร์ได้แล้วเพื่อไม่ให้พลาดต่อคอนเทนต์ที่น่าสนใจ แน่นอนว่าการอัปเดตครั้งนี้เป็นผลดีต่อทั้ง ครีเอเตอร์และผู้ใช้งาน บอกได้แค่ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เปรียบได้กับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวไปเลย
- Newsletter Featuring
ในปีที่ผ่านมา LinkedIn ได้มีการทดลองให้ครีเอเตอร์ใช้ฟีเจอร์ Newsletter
ซึ่งทำให้ยอดการใช้งานเพิ่มสูงขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะปรับปรุงการเข้าถึง Newsletter ให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการอนุญาติให้ ครีเอเตอร์สามารถระบุ Newsletter ของตนเองในหน้าโปรไฟล์ได้เแล้ว เพื่อที่จะทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถค้นหาคอนเทนต์ได้สะดวกยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์เดิมเพิ่มเติมด้วยอัปเดต
- Post Analytics
สำหรับฟังก์ชัน Post Analytics มีการปรับปรุงให้มีความชัดเจนของข้อมูลเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มหน้า Summary Pages นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนตัวชี้วัดใหม่ โดย “Views” จะถูกนับหากคอนเทนต์หรือบทความถูกเปิดอ่าน และ “Impressions” คือจำนวนครั้งที่โพสต์คอนเทนต์หรือบทความ
- Profile Videos
ในตอนนี้ครีเอเตอร์สามารถใช้วิดีโอแทนรูปโปรไฟล์ได้แล้ว โดยจะมีวงแหวนสีน้ำเงินล้อมรอบเพื่อระบุว่าเป็นวิดีโอ และสามารถที่จะตรวจสอบถึงจำนวนการเข้าถึงรูปโปรไฟล์แบบวิดีโอได้ อย่างไรก็ตามรูปโปรไฟล์แบบวิดีโอนี้สามารถสร้างได้บนมือถือเท่านั้น
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com