มาดูตัวชี้วัดทางการตลาดออนไลน์ที่น่าสนใจในปี 2022

แชร์ไปยัง:
คัดลอกลิงก์:
July 15, 2022
Author: Antonio Fernandez
Results Image

ในฐานะนักการตลาดแล้ว การติดตามเมตริกหรือตัวชี้วัดทางการตลาดต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจประสิทธิภาพของแคมเปญ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในปัจจุบัน หากต้องการให้แคมเปญนั้นประสบความสำเร็จ แน่นอนว่าหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่นักการตลาดมือใหม่หลายคนต้องเจอคือ “ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี” เพราะในปัจจุบันเมตริกทางการตลาดมีเป็นร้อยเป็นพันตัว จึงเป็นเรื่องง่ายที่หลายคนจะหลงทางและกลายเป็นการเสียเวลาในการทำงานและสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ 

แน่นอนว่าการใช้เมตริกต่างๆ  ในการวัดผลประสิทธิภาพแคมเปญของคุณให้ได้ประโยชน์สูงสุดนั้น ต้องขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ทางการตลาดของคุณเอง ดังนั้นในบทความนี้จึงมาแนะนำตัวชี้วัดทางการตลาดที่เหมาะสมตามแต่ละวัตถุประสงค์พื้นฐานทางการตลาดในปัจจุบัน เริ่มตั้งแต่ Paid Marketing ไปจนถึงการทำ Email Marketing จะมีอะไรบ้าง มาดูกัน

ตัวชี้วัดทางการตลาดคืออะไร?

Metric Marketing หรือตัวชี้วัดทางการตลาดเปรียบเป็นเครื่องมือที่สามารถติดตามประสิทธิภาพและช่วยประเมินความสำเร็จของแคมเปญได้ โดยจะแสดงเป็นค่าที่วัดได้ เช่น ตัวเลข ค่าเปอร์เซ็นต์ เป็นต้น โดยปกติเครื่องมือที่แสดงเมตริกเหล่านี้จะมีการนำเสนอในลักษณะของกราฟหรือแผนภูมิต่างๆ  ที่มีทั้งเป็นรายเดือน รายไตรมาส หรือรายสัปดาห์ ให้นักการตลาดรับรู้เพื่อนำข้อมูลไปปรับใช้ต่อไปในอนาคต

  1. ตัวชี้วัดบน Paid Marketing 

สำหรับแคมเปญการตลาดแบบ Paid Marketing หรือที่หลายคนนิยมเรียกกันว่าการทำการตลาดแบบ PPC (Paid Per Click) ที่เป็นการสร้างแคมเปญบนแพลตฟอร์มต่างๆ อย่าง Google Ads, Bing Ads, Facebook Ads และอื่นๆ มีตัวชี้วัดพื้นฐานที่นักการตลาดมือใหม่ต้องรู้จักไว้ ดังนี้

สำหรับ Conversion Metrics จะเป็นตัวชี้วัดที่สามารถบอกได้ว่ามีผู้ที่รับชมโฆษณาของคุณแล้วเปลี่ยนเป็นการกระทำที่สนใจในบริการหรือสินค้ามากแค่ไหน โดยตัวชี้วัดพื้นฐานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับ Conversion มีดังนี้

  • Conversion Rate
  • Click Through Rate (CTR)
  • Total Number of Conversion
  • ROAS (Return On Ad Spend)

ส่วนของ ROAS จะเป็นตัวชี้วัดที่คอยบอกรายรับที่ได้จากงบประมาณที่ลงทุนไปกับแคมเปญโฆษณา โดยประโยชน์ของการคำนวณ ROAS นั้นจะช่วยให้นักการตลาดทราบว่าการลงทุนกับแคมเปญนั้นๆ คุ้มค่ามากน้อยเพียงใด สำหรับเมตริกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมีดังนี้

  • Customer Acquisition Cost (CAC)
  • Cost Per Lead (CPL)
  • Customer Lifetime Value (CLV)
  1. ตัวชี้วัดบน SEO Marketing

SEO หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ถูกต้องตามหลักการของ Search Engine เพื่อให้เว็บไซต์สามารถติดอันดับในหน้า SERPs ได้ โดยเมตริกพื้นฐานสำหรับนักการตลาดที่เริ่มต้นทำ SEO มีดังนี้

  • Website Visitors
  • Bounce Rate
  • Page Views
  • Landing Page Performance
  • Session Duration
  • Retention Rate
  • Search Traffic

เมตริกต่างๆ เหล่านี้จะเป็นตัวช่วยให้นักการตลาดมือใหม่สามารถเข้าใจ Website Traffic บนเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น โดยสามารถติดตามได้ในเครื่องมืออย่าง Google Analytics, Google Search Console, Semrush, Ahrefs เป็นต้น 

  1. ตัวชี้วัดบน Social Media Marketing

เพื่อให้ผลลัพธ์ของการทำแคมเปญบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเกิดประสิทธิภาพสูงสุด การวัดผลด้วยเมตริกต่างๆ ให้ครบถ้วนเป็นเรื่องสำคัญ ดังนี้

  • Engagement Metrics

สำหรับตัวชี้วัด Engagement บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะบน Facebook, Twitter หรือ LinkedIn จะช่วยให้นักการตลาดสามารถติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญต่างๆ และสามารถนำข้อมูลที่ได้มาปรับใช้ในการวางกลยุทธ์การตลาดต่อไปในอนาคตได้ โดยตัวชี้วัดพื้นฐานที่ควรรู้เกี่ยวกับ Engagement Metrics มีดังนี้

  • Engagement Rate
  • Likes
  • Comments
  • Shares
  • Subscribers/Follower
  1. ตัวชี้วัดบน Email Marketing

นอกจากการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายแล้ว การทำ Email Marketing ยังสามารถเพิ่มจำนวน Traffic บนเว็บไซต์ให้เติบโตแบบก้าวกระโดดได้ แถมยังเป็น Organic Traffic แบบไม่ต้องเสียเงินโปรโมตสักบาทเดียว สำหรับตัวชี้วัดพื้นฐานสำหรับการทำ Email Marketing มีดังนี้

  • Open Rate

Open Rate หรืออัตราการเปิดอีเมลเป็นสิ่งสำคัญที่นักการตลาดต้องรู้ว่าผลลัพธ์ในการทำแคมเปญนี้ของคุณมีประสิทธิภาพที่ดีเพียงพอแล้วหรือไม่ โดยมี 2 ตัวชี้วัดที่สำคัญดังนี้

  • Open Rate
  • Number of Email Open
  • Bounce Rate
  • Click Through Rate
  • Unsubscribe Rate
  • New Subscriber

และทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นตัวชี้วัดพื้นฐานที่นักการตลาดมือใหม่ทุกคนควรรู้ไว้ เพื่อที่จะได้สามารถวัดประสิทธิภาพของแคมเปญได้ถูกจุด ทำให้รู้ว่าควรที่จะเลือกโฟกัสตรงส่วนไหนก่อน เพื่อไม่ให้งบประมาณบานปลายและได้ผลลัพธ์กลับมาอย่างคุ้มค่าที่สุด

รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience

Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 

โทร.: 02-038-5055 

อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com

Antonio Fernandez

Antonio Fernandez

ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Relevant Audience ผู้นำด้านการตลาดดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปีในการพัฒนากลยุทธ์การตลาดดิจิทัล เขาได้นำพาทีมงานในการสร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าผ่านโซลูชันดิจิทัลที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพ

แชร์ไปยัง:
คัดลอกลิงก์:

Related Articles

Articles related to the topics covered in this post.

Latest Updates

Our most recently updated articles across all topics.

ai

November 3, 2025

การปรับแต่งเครื่องมือค้นหาสำหรับโรงแรม: เพิ่มการจองโดยตรงมากขึ้น
เรียนรู้วิธีใช้การปรับแต่งเครื่องมือค้นหา (SEO) สำหรับโรงแรมของคุณเพื่อเพิ่มจำนวนการจองโดยตรง คู่มือนี้ครอบคลุม SEO ท้องถิ่น เนื้อหา และเคล็ดลับด้านเทคนิค เพื่อช่วยให้คุณเพิ่มรายได้...
เอสอีโอ (Search Engine Optimization)

October 30, 2025

Google Q3 2025: ฟีเจอร์ AI ขยายการใช้งานการค้นหา
รายงาน Q3 ปี 2025 ของ Google ระบุว่า AI กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในด้านการค้นหา เรียนรู้ว่า AI Mode และ AI Overviews มีความหมายต่อนักการตลาดและผู้เผยแพร่อย่างไร และวิธีวัดผลกระทบอย่างไร...
เอสอีโอ (Search Engine Optimization)

October 29, 2025

วิธีปรับแต่งเพื่อการค้นหาด้วยปัญญาประดิษฐ์และโมเดลภาษาขนาดใหญ่
เรียนรู้วิธีให้แบรนด์ของคุณถูกพบในคำตอบจากการค้นหาด้วยปัญญาประดิษฐ์ คู่มือนี้ครอบคลุมวิธีติดตามและพัฒนาความชัดเจนของคุณในโมเดลภาษาขนาดใหญ่ เช่น ChatGPT...