ใครที่มีประสบการณ์ทำ SEO คงรู้กันดีว่าการทำ Link Building หรือโดยเฉพาะ Backlink นั้นมีประโยชน์กับเว็บไซต์ค่อนข้างมาก หากต้องการให้เว็บไซต์มีคนเข้าชมเพิ่มขึ้นแบบไม่ต้องใช้งบประมาณไปกับการลงทุนโฆษณาบน Google Ads มากนัก การมี Backlink ที่ดีก็สามารถตอบโจทย์นั้นได้ แต่ในบางครั้งลิงก์ที่ส่งกลับมายังเว็บไซต์เรา ถ้าหากเป็นลิงก์ที่ไม่ดีหรือไม่มีคุณภาพ ก็อาจส่งผลเสียแทนที่จะเป็นผลดีได้เช่นกัน
ในบทความนี้ จะพาทุกคนไปเจาะลึกกระบวนการตรวจสอบ Backlink แบบทีละขั้นตอนอย่างครอบคลุม พร้อมการทำ Disavow Links เพื่อเอา Backlink ที่ไม่มีคุณภาพออกไปจากเว็บ ใครที่กำลังเริ่มต้นทำ SEO อยู่ห้ามพลาด ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกันเลย
Backlink ที่ไม่ดีมีลักษณะอย่างไร?
ก่อนที่เราจะคัดเอา Backlink ที่ไม่ดีออกจากเว็บไซต์ ต้องเริ่มต้นจากการตรวจสอบก่อนว่าอะไรคือ Backlink ที่ดีที่ควรเก็บไว้ หรืออันไหนคือ Backlink ที่คะแนนไม่ดีที่ต้องรีบเอาออกจากเว็บไซต์ให้ไวที่สุด
สำหรับลักษณะของ Backlink ที่ไม่ดี มีดังนี้
สำหรับการตรวจสอบหรือเช็ก Backlink ของเว็บไซต์สามารถใช้ Google Search Console หรือจะใช้เว็บไซต์ที่เช็ก Backlink โดยเฉพาะก็ได้เช่นกัน เช่น sitechecker.pro, fankwatch.com, freetools.seobility.net และ ahrefs.com เป็นต้น
ในที่นี้จะสอนการทำ Disavow Links คือการปฏิเสธลิงก์ที่ไม่มีคุณภาพที่จะพาลมาทำให้อันดับเว็บไซต์เราตกแบบไม่รู้ตัวกัน สำหรับขั้นตอนการทำ Disavow Links บนเว็บไซต์ มีดังนี้
1. เริ่มต้นเช็ก Backlink ของเว็บไซต์ก่อน
อย่างที่บอกการตรวจสอบ Backlink สามารถใช้เว็บไซต์ตรวจสอบ Backlink โดยเฉพาะหรือ Google Search Console ก็ได้เช่นกัน ในที่นี้จะใช้ Google Search Console เป็นตัวอย่าง โดยเริ่มจาก
- เปิดใช้งาน Google Search Console
- คลิกที่ Property >> Links >> External Links
- คลิกที่ Top Linking Sites
จากนั้นระบบจะแสดงรายการ Backlink ต่างๆ บนเว็บไซต์
2. ตรวจสอบ Backlink ที่ไม่ดี
จากนั้นถึงเวลาตรวจสอบ Backlink ที่ดูจะสร้างปัญหาให้กับเว็บไซต์โดยใช้เกณฑ์ในการตรวจสอบจากข้างบนได้เลย เช่น ดูว่ามีโดเมนหรือ URL ไหนที่แปลกๆ ก็สามารถลิสต์รายการออกมาได้ทันที
3. สร้างไฟล์ .txt เพื่อเตรียมอัปโหลดบน Search Console
สำหรับลิงก์ URL ที่เตรียมจะทำ Disavow บน Search Console จะต้องมีเงื่อนไขตามนี้
- ระบุ URL ที่จะ Disavow 1 รายต่อ 1 บรรทัด โดยจะเลือกปฏิเสธ Subpath ต่างๆ ไม่ได้ เช่น example.com/en/
- ใส่ “domain:” ไว้ข้างหน้าลิงก์ที่ต้องการ Disavow เสมอ เช่น domain:example.com
- ไฟล์ .txt จะต้องสามารถเข้ารหัสด้วย UTF-8 หรือ 7-bit ASCII
- ชื่อไฟล์ จะต้องลงท้ายด้วย .txt
- ความยาวของ URL สูงสุดคือ 2,048 ตัวอักษร
- ขนาดไฟล์สูงสุดคือ 2MB และจำกัดแค่ 100,000 บรรทัด (รวมบรรทัดว่างและบรรทัดหมายเหตุแล้ว) เท่านั้น
- ใส่หมายเหตุลงไปได้ เพียงเริ่มต้นบรรทัดใหม่ด้วยเครื่องหมาย #
4. อัปโหลดไฟล์บน Google Search Console
หลังจากที่สร้างไฟล์ .txt แล้ว ก็สามารถอัปโหลดไฟล์ลงบน Search Console ดังนี้
- ให้เข้ามาที่หน้า Disavow Links
- คลิกเลือก Property
- คลิกปุ่ม Upload Your List
- เลือกไฟล์ Disavow ที่สร้างเอาไว้ก่อนหน้า
- หากไฟล์มีข้อผิดพลาด ระบบจะแสดงรายการข้อผิดพลาดทันที โดยวิธีแก้ปัญหาคือจะต้องแก้ไขรายการใหม่และลองกดอัปโหลดอีกครั้ง
- หากการอัปโหลดเสร็จสมบูรณ์ ระบบอาจจะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์เพื่อรวมรายการและประมวลผลหน้าเว็บไซต์
ท้ายที่สุดอย่าลืมตรวจสอบ Backlink อย่างสม่ำเสมอ ถ้าเป็นไปได้อย่างน้อยทุกๆ 3 เดือน เพื่อให้แน่ใจว่า Backlink บนเว็บไซต์ไม่มีลิงก์สแปมที่เป็นภัยเงียบที่แอบแฝงอยู่บนเว็บไซต์ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงที่ทำให้อันดับเว็บไซต์ตกลง แต่สิ่งสำคัญคือต้องทำอย่างระมัดระวังและเช็กให้ชัวร์ก่อนเสมอว่า Backlink ที่ลบออกไปนั้นไม่มีคุณภาพจริง ไม่อย่างนั้นผลลัพธ์อาจจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือก็ได้
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com
