หลายคนคงจะคุ้นเคยเวลาที่ใช้งาน Search Engine อย่าง Google Search เพื่อค้นหาข้อมูลอะไรบางอย่าง
Google SERPs คืออะไรกันแน่? ทำไมหลายคนมักได้ยินคำพูดที่ว่า SERPs คือเพื่อนแท้ของการทำ SEO ในวันนี้ Relevant Audience จะพามือใหม่หัดทำ SEO มารู้จักองค์ประกอบต่างๆ ที่สำคัญของหน้า Google SERPs กัน โดยข้อมูลทั้งหมดจะเป็นการรวบรวมมาสรุปให้ฟังจาก Visual Guide ที่กูเกิลได้จัดทำเอาไว้ มาเริ่มกันเลย
Google SERPs คืออะไร
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันก่อนว่า Google SERPs ที่ได้ยินกันบ่อยๆ ในแวดวงของการทำ SEO คืออะไร โดย SERPs เป็นคำที่ย่อมาจาก Search Engine Results Page หรือถ้าแปลเป็นภาษาไทยแบบตรงตัวเลยก็คือ เป็นหน้าที่แสดงผลของการค้นหา ในเวลาที่มีผู้ใช้งานพิมพ์หาข้อมูลต่างๆ นั่นเอง โดยระบบคลังเก็บข้อมูลของ Search Engine ก็จะไปดึงลิสต์รายการของหน้าเว็บเพจต่างๆ มาแสดง ไม่ว่าจะเป็นหน้าเว็บแบบ Organic Listing หรือ Paid Listing ก็ตาม
องค์ประกอบพื้นฐานในหน้า SERPs
กูเกิลก็ได้จัดทำ Visual Elements Gallery ที่ช่วยอธิบายองค์ประกอบพื้นฐานของ SERPs ลงใน Google Blog โดยกูเกิลได้แบ่งสัดส่วนต่างๆ ออก ดังนี้
โดยในการจัดวางโครงสร้างของข้อมูลต่างๆ ก่อนที่จะปรากฏให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้เห็น จะสามารถแบ่งได้ตามหัวข้อข้างต้น โดยในแต่ละส่วนก็จะมีรายละเอียดปลีกย่อย เช่น
Attribution
สำหรับในส่วนแรกของหน้า SERPs ที่หลายคนเห็นกันเป็นประจำ จะถูกเรียกรวมๆ ว่าเป็น Attribution ที่จะเป็นการแสดงแหล่งที่มาของหน้าเว็บเพจนั้นๆ รวมถึงยังมีการแสดงข้อความ รูปภาพและวิดีโอ ชื่อเว็บไซต์ ไอคอนแบบ Favicon และลิงก์ URL ที่จะนำทางผู้ใช้งานไปยังหน้าเว็บไซต์
- Favicon ไอคอนแบบ Favicon จะเป็นไอคอนขนาดเล็กที่เอาไว้ใช้แสดง Logo ของเว็บไซต์
- Site Name เป็นการแสดงชื่อของเว็บไซต์ สามารถปรับแต่งให้ถูกต้องตามหลัก SEO ได้
- Visible URL จะเป็นส่วนของการแสดง URL ของเว็บไซต์ โดยจะแบ่งออกเป็น Domain และ Breadcrumb
- Domain หรือก็คือ Site Address ที่เป็นชื่อของเว็บไซต์
- Bredcrumb หรือเป็นส่วนสารบัญของเว็บไซต์ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานหรืออัลกอริทึมรับรู้ได้ว่าอยู่ส่วนไหนของเว็บไซต์
Text result
Text Result หรือในบางที่อาจจะเรียกว่า Web Result หรือ Plain Blue Link โดยรวมก็คือเป็นส่วนที่ Google จะดึงเนื้อหาต่างๆ ในหน้าเว็บที่เป็นข้อความ หรือองค์ประกอบต่างๆ ขึ้นมาแสดง ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ Title, Attribution, Feature Snippet, Date, Sitelinks group เป็นต้น
- Title Link จะเป็นการแสดงชื่อของหน้าเว็บไซต์นั้นๆ โดยหากคลิกจะเป็นการลิงก์ไปยังหน้าเว็บทันที
- Snippet ในส่วนของ Featured Snippet จะปรากฏในรูปแบบกล่องข้อความที่จะเป็นการสรุปข้อมูลเนื้อหาของหน้าเว็บไซต์โดยอัตโนมัติ (ไม่ได้มีทุกหน้าเว็บไซต์ จำเป็นต้องมีการปรับปรุงเนื้อหาให้ตรงตามความต้องการของอัลกอริทึมเพื่อเพิ่มโอกาสให้หน้าเว็บไซต์นั้นติด Featured Snippets)
- Byline date จะเป็นการแสดงวันที่ประมาณการว่าหน้าเว็บไซต์นี้ได้รับการอัปเดตหรือถูกเผยแพร่เมื่อตอนไหน
- Sitelinks group จะเป็นลิงก์ที่แสดงให้เห็นว่าในหน้าเว็บมีเมนูต่างๆ อะไรบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าทุกหน้าจะถูกเลือกให้มีการแสดงผลเป็นแบบ Site Link
Rich Result
Rich Result คือชื่อเรียกแบบรวมๆ ของการแสดงผลในหน้า SERPs ที่จะเป็นการดึงข้อมูลจาก Structure Data มาแสดงผลในรูปแบบต่างๆ ที่เรียกว่า Rich Snippet โดยหากต้องการให้เว็บไซต์มีการแสดงผลก็จำเป็นที่จะต้องปรับรูปแบบโครงสร้างเว็บไซต์ให้สามารถแสดงผลข้อมูลเพิ่มเติมต่างๆ มากขึ้น โดย Snippet ที่เป็นที่นิยม เช่น Product Snippets, Reviews Snippets, Offer Snippets, Breadcrumb Snippets เป็นต้น (รู้จัก 7 Rich Snippets ที่เหมาะกับเว็บไซต์ E-Commerce)
Image & VIdeo Result
สำหรับ Image Result จะเป็นการแสดงผลจากรูปภาพที่อยู่ในเนื้อหาของหน้าเว็บไซต์นั้นๆ โดยเป็นการเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ปรากฏในส่วนของ Google Images (6 ทิปส์ การทำ Image Optimization ให้เหมาะสมกับเว็บไซต์ )
ในส่วนของ Video Result ก็จะคล้ายกับ Image Result คือระบบอัลกอริทึมของกูเกิลจะนำเนื้อหาที่เป็นวิดีโอจากในหน้าเว็บไซต์นั้นๆ นำมาปรากฏให้เห็นในหน้า SERPs
Exploration Features
ในส่วนของ Exploration Features จะเป็นระบบที่กูเกิลออกแบบมาช่วยให้ผู้คนสามารถค้นหาข้อมูลได้ถูกต้อง แม่นยำมากขึ้น โดยจะแสดงผลในลักษณะของการรวบรวมคำถามยอดนิยมหรือคำตอบยอดนิยมที่ผู้คนส่วนใหญ่มักค้นหา และนำผลลัพธ์จากหน้าเว็บไซต์ต่างๆ ในกรณีที่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ ก็จะถูกอัลกอริทึมของกูเกิลคัดเลือกเพื่อมาแสดงในส่วนของ “People also ask ” นั่นเอง
ทิ้งท้าย
หนึ่งในข้อสำคัญของการทำ SEO คือ การรู้จักภาพรวมทั้งหมดว่าในตอนนี้เรากำลังทำอะไรอยู่ กำลังอยู่ในขั้นตอนใด และเมื่อลงมือทำแล้วผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นอย่างไร ดังนั้นแล้วการรู้จักโครงสร้างต่างๆ ของหน้า Google SERPs ก็เปรียบได้กับเป็นการรู้จักเรื่องพื้นฐานที่จะช่วยให้สามารถนำมาวิเคราะห์ ปรับปรุงให้เว็บไซต์ติดอันดับ SEO ได้อย่างมีคุณภาพ
หวังว่าข้อมูลที่เราได้รวบรวมมาให้ดูกันในวันนี้ จะสามารถลองนำไปปรับใช้เพื่อเพิ่มผลลัพธ์การทำ SEO ได้ดีขึ้น แต่ถ้าหากใครที่ทำมาสักพักแล้วแต่อันดับยังไม่ดีขึ้นก็อย่าเพิ่งท้อ ติดตามข่าวสารและเคล็ดลับจากเรารับรองได้เลยว่าจะช่วยให้การทำงานง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างแน่นอน
Source : Google Search Central Blog
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com
