8 เรื่องพื้นฐาน SEO ที่ต้องรู้สำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์

แชร์ไปยัง:
คัดลอกลิงก์:
May 30, 2022
Author: Antonio Fernandez
Results Image

ต้องยอมรับว่าในตอนนี้ ใครที่กำลังมีความคิดอยากจะดันอันดับเว็บไซต์ด้วยการทำ SEO แต่ไม่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ อาจเป็นเรื่องยากที่จะคาดหวังผลลัพธ์ที่ดี เพราะอย่างที่รู้กันว่าองค์ประกอบการทำ SEO ในปัจจุบันครอบคลุมตั้งแต่การสร้างเนื้อหาคอนเทนต์ไปจนถึงการปรับปรุงโค้ดของโครงสร้างเว็บไซต์ ฉะนั้นไม่ว่ากรณีใดก็ตาม การได้รับการสนับสนุนจากนักพัฒนาเว็บไซต์โดยตรงหรือมีความรู้เบื้องต้นในการพัฒนาเว็บไซต์กลายเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการทำ SEO

แต่นักพัฒนาเว็บไซต์หลายคนมักจะกังวลกับปรับปรุงให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้องมากกว่าการดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ หากคุณเป็นนักพัฒนาเว็บไซต์และต้องการยกระดับทักษะการพัฒนาเว็บไซต์ในแนวทางการทำ SEO อย่างถูกต้อง ในบทความนี้นำข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ SEO ที่ควรรู้ 8 เรื่องสำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์ รับรองว่าอ่านจบแล้วสามารถนำไปปรับใช้กับการทำงานจริงได้ทันที

1. ความปลอดภัยของเว็บไซต์

หนึ่งในเงื่อนไขหรือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์การทำ SEO ประสบความสำเร็จ คือ ”ความปลอดภัยของการใช้งานเว็บไซต์” การที่เว็บไซต์ถูกแฮกเกอร์หรือถูกมัลแวร์เล่นงานจะส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์ของผู้ใช้งาน และแน่นอนว่าสิ่งเดียวที่กูเกิลคิดคือ “จะทำอย่างไรให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากที่สุด” ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่เว็บไซต์เหล่านั้นจะถูกกูเกิลประเมินและจัดอันดับเว็บไซต์ที่ไม่ดี 

ด้วยเหตุดังกล่าว ต้องไม่ลืมที่จะตรวจสอบเว็บไซต์เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีช่องโหว่ใดๆ ที่จะเปิดช่องให้เว็บไซต์ถูกเล่นงานโดยแฮกเกอร์หรือมัลแวร์ได้แบบง่ายๆ ข้อแนะนำในการแก้ปัญหาเรื่องนี้คือการติดตั้ง SSL Certificate (Secure Socket Layer) เพื่อเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์และถือเป็นการป้องกันเว็บไซต์ขั้นพื้นฐานที่ควรต้องทำเป็นอย่างแรกเสมอ หรือการใช้ปลั๊กอินที่จะช่วยเพิ่มการป้องกันให้กับเว็บไซต์ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่น่าสนใจ แต่ต้องระวังผลข้างเคียงเรื่องความเร็วของเว็บไซต์ด้วยเช่นกัน  

2. Response Code

หากคุณเป็นมือใหม่ที่หัดทำ SEO ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะไม่รู้จัก HTTP Status Code แต่ถ้าคุณนิยามตัวเองว่าเป็นนักพัฒนาเว็บไซต์ที่กำลังจะดันอันดับเว็บไซต์ให้อยู่ในหน้าแรกแต่ยังทำหน้างงกับ HTTP Status Code ว่ามันคืออะไร? ต้องบอกว่าโอกาสติดอันดับหน้าแรกของเว็บไซต์อาจเหลือไม่ถึงครึ่งแน่นอน  เพราะ HTTP Status Code มีความสำคัญในแง่การรับรู้ว่าหน้าเว็บไซต์ในตอนนี้มีปัญหาอะไร เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหานั้นได้ ถือว่าเป็นเรื่องพื้นฐานของ SEO ที่ต้องรู้เลยทีเดียว

โดย HTTP Status Code แบ่งได้เป็น 5 กลุ่มหลัก ดังนี้

ซึ่งแต่ละกลุ่มหลักก็จะมีโค้ดย่อยลงไปอีก ที่พบเจอกันบ่อยๆ เลยก็คือ 404 Not Found ซึ่งเป็นโค้ดที่แสดงว่าระบบหาหน้านี้ไม่เจอ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุจากการที่เว็บถูกเปลี่ยนโดเมนหรือโดนลบไป หากเว็บไซต์มีหน้า 404 นี้เยอะมากเท่าไหร่ อัลกอริทึมของกูเกิลก็จะมองว่าเว็บไซต์นี้ไม่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้คนและส่งผลต่ออันดับของเว็บไซต์โดยตรง

3. การทำ Redirects

สำหรับการทำ Redirects อธิบายง่ายๆ คือเป็นการตั้งค่าให้เว็บไซต์เปลี่ยนหน้าเองโดยอัตโนมัติ เมื่อหน้าเว็บไซต์นั้นถูกเรียกใช้งานระบบก็จะทำการเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์ไปเป็นอีก URL ที่ถูกตั้งเอาไว้ 

ลองคิดดูว่าหากวันหนึ่งมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อโดเมนเว็บไซต์ แต่คะแนน SEO ที่ทำมาทั้งหมดก็ไม่อยากเสียไป เทคนิคที่นิยมใช้กันก็คือการทำ 301 Redirect ซึ่งเป็นวิธีที่กูเกิลแนะนำโดยตรงเพราะจะช่วยให้กูเกิลเห็นว่า URL ใหม่นั้นมีตัวตน เว็บไซต์เดิมที่ไม่มีแล้วก็จะไม่เป็นปัญหาเพราะได้มีการตั้งค่าให้มาที่เว็บไซต์ใหม่แทนไปแล้ว คะแนน SEO ที่ทำมาทั้งหมดก็จะไม่ศูนย์เปล่านั่นเอง 

4. การทำ Sitemaps

การทำ Sitemaps หรือแผนผังของเว็บไซต์นอกจากจะเป็นมิตรกับผู้ที่เข้ามาใช้งานเว็บไซต์แล้ว ยังทำให้การเก็บข้อมูลของ Google Bots ทำงานได้แบบสะดวกสบายอีกด้วย ด้วยการทำหน้าที่เปรียบได้กับสารบัญของหนังสือช่วยให้ใครที่อยากหาอะไรก็สามารถเจอได้ในแผนผังนี้ ข้อแนะนำคืออย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกหน้าบนเว็บไซต์ที่ถูกจัดทำ Sitemaps แสดง Response Code 2xx เสมอ เพื่อยืนยันว่าหน้าเว็บนั้นไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้น  

5. เรื่อง URLs

กูเกิลได้ให้คำแนะนำสำหรับโครงสร้าง URL เอาไว้ว่า “ต้องรักษาโครงสร้าง URL ให้ไม่ซับซ้อน” พูดง่ายๆ คือ โครงสร้าง URL ของเว็บไซต์ควรเรียบง่ายที่สุด โดยพิจารณาจัดระเบียบเนื้อหาเพื่อให้การสร้าง URL เป็นไปอย่างสมเหตุสมผลและมีลักษณะที่คนทั่วไปเข้าใจได้ง่ายที่สุด หากเป็นไปได้ให้ใช้คำที่อ่านได้แทนที่จะเป็นตัวเลขรหัสยาวๆ หรือเป็นคำง่ายๆ ที่สื่อความหมายในตัว (สามารถอ่านข้อแนะนำเพิ่มเติมจากกูเกิลได้ที่นี่)

6. Mobile Friendly

มีใครที่สามารถอดทนไม่จับมือถือได้เกิน 8 ชั่วโมงบ้าง? คำตอบคือไม่มีหรือหากมีก็คงจะเป็นคนส่วนน้อยมากๆ และกูเกิลเข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดี จึงเป็นเหตุผลให้กูเกิลต้องปรับเปลี่ยนอัลกอริทึมที่จากเดิมไม่ได้สนใจเรื่องของการแสดงผลเว็บไซต์บนช่องทางอื่นๆ จนปัจจุบันกลายมาเป็นนโยบาย “Mobile First” ที่มีผลมากๆ สำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการมีอันดับที่ดี 

จริงๆ แล้วเว็บไซต์สมัยใหม่ไม่ค่อยพบเจอปัญหาเกี่ยวกับการแสดงผลบนอุปกรณ์มือถือเท่าไหร่ เนื่องจากเครื่องมือที่เป็นตัวช่วยในการสร้างเว็บไซต์หลายอันก็มีฟังก์ชันที่รองรับเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี จะมีก็แต่เว็บไซต์ที่ถูกสร้างมานานแล้วที่มักจะเจอปัญหาเหล่านี้ ฉะนั้นหากอยากให้เว็บไซต์มีอันดับที่ดีก็อย่าลืมปรับปรุงการแสดงผลเว็บไซต์บนอุปกรณ์มือถือเหล่านี้ด้วย

7. ความเร็วของเว็บไซต์

การโหลดหน้าเว็บช้าเพียงเสี้ยววินาทีอาจส่งผลให้คนส่วนใหญ่เลือกที่จะกดปิดเว็บไซต์นั้นทันทีและแน่นอนว่ากับกูเกิลก็เช่นกัน เพราะความเร็วของเว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญที่จะส่งผลต่อการทำอันดับ SEO โดยตรง การปรับปรุงความเร็วของเว็บไซต์สามารถทำได้หลายวิธี แต่ก่อนที่จะเริ่มปรับปรุงเว็บไซต์ต้องหาสาเหตุให้เจอก่อนว่าอะไรที่ทำให้เว็บไซต์ช้า? 

  • ไฟล์รูปภาพหรือวิดีโอ มีขนาดใหญ่เกินไป อาจแก้ไขด้วยการลองย่อหรือบีบอัดไฟล์ลง หรือตรวจดูว่าสกุลไฟล์ที่ใช้ใหญ่เกินไปหรือไม่ 
  • ปลั๊กอินบนเว็บไซต์เยอะเกินไป ใครที่สร้างเว็บไซต์บน WordPress แล้วมีปลั๊กอินเยอะเกินไป ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เว็บไซต์โหลดช้าขึ้นหลายสิบเท่า วิธีแก้ไขคือลองเลือกใช้ปลั๊กอินที่สำคัญๆ เท่านั้น เพื่อเป็นการลดภาระการดาวน์โหลดของเว็บไซต์ให้น้อยลง
  • ปัญหาด้านเทคนิค เช่น โค้ดของเว็บไซต์ สำหรับเว็บไซต์ที่เขียนขึ้นมาเองไม่ว่าจะเป็น HTML JavaScript หรืออื่นๆ ต้องคอยระมัดระวังในการเขียนโค้ดเป็นพิเศษ เพราะหากมีข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย นั่นอาจทำให้ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ตกลงหรือเกิดความไม่เสถียรขึ้นในทันที วิธีแก้ไขคือควรตรวจสอบเป็นประจำว่ามี Error เกิดขึ้นในส่วนไหนของเว็บไซต์หรือเปล่า

8. Heading Tags

Heading Tag พูดแบบนี้หลายคนอาจจะไม่คุ้นเท่าไหร่ แต่ถ้าบอกว่า H1 หรือ H2 หลายคนคงร้องอ๋อกันบ้างแล้วใช่ไหม? Heading Tag เป็นตัวช่วยที่ใช้สำหรับการกำหนดหัวข้อต่างๆ ของหน้าเพจว่าอะไรคือหัวข้อหลัก อะไรคือหัวข้อรอง โดยจะมีตั้งแต่ H1 จนถึง H6 สำหรับคำแนะนำในการใช้ Heading Tag คือ

  • ใช้ในการวางโครงสร้างหน้าเพจ
  • ใช้ H1 สำหรับหัวข้อหลักและเพียงแค่หน้าละ 1 ตำแหน่งเท่านั้น
  • อย่าลืมใส่ Keyword ใน Heading Tag (ด้วยความเหมาะสม)
  • Heading Tag มีผลต่อการแสดงผลบน Featured Snippet 

รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience

Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 

โทร.: 02-038-5055 

อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com

Antonio Fernandez

Antonio Fernandez

ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Relevant Audience ผู้นำด้านการตลาดดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปีในการพัฒนากลยุทธ์การตลาดดิจิทัล เขาได้นำพาทีมงานในการสร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าผ่านโซลูชันดิจิทัลที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพ

แชร์ไปยัง:
คัดลอกลิงก์:

Related Articles

Articles related to the topics covered in this post.

10 สุดยอดบริษัทเอสอีโอที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ปี 2568
เอสอีโอ (Search Engine Optimization)

September 11, 2025

10 สุดยอดบริษัทเอสอีโอที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ปี 2568
ค้นหาบริษัทเอสอีโอที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ สำหรับปี 2568 เปรียบเทียบบริษัทชั้นนำ บริการ และราคา เพื่อเพิ่มอันดับเว็บไซต์ธุรกิจของคุณ...
Google ลบข้อมูลโครงสร้างบางส่วน: คู่มือปี 2025 สำหรับเว็บไซต์
เอสอีโอ (Search Engine Optimization)

September 11, 2025

Google ลบข้อมูลโครงสร้างบางส่วน: คู่มือปี 2025 สำหรับเว็บไซต์
เรียนรู้วิธีการที่ Google กำจัดประเภทข้อมูลโครงสร้าง 7 ประเภทส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์ของคุณในปี 2025 รับเคล็ดลับในการปรับปรุงกลยุทธ์ SEO และรักษาอันดับ...
คู่มือ SEO ของ Google: SEO ทำงานอย่างไรและวิธีปรับเว็บไซต์ให้เหมาะสมประจำปี 2025
เอสอีโอ (Search Engine Optimization)

August 28, 2025

คู่มือ SEO ของ Google: SEO ทำงานอย่างไรและวิธีปรับเว็บไซต์ให้เหมาะสมประจำปี 2025
เรียนรู้วิธีการทำงานของ SEO ของ Google ในปี 2025 คู่มือฉบับสมบูรณ์ที่ครอบคลุมเนื้อหา คำหลัก แบ็กลิงค์ SEO ทางเทคนิค และเคล็ดลับการปรับแต่ง SEO ท้องถิ่น...

Latest Updates

Our most recently updated articles across all topics.

ฟีเจอร์โฆษณาใหม่ของ Meta: Reels กำลังมาแรงและการกำหนดเป้าหมายด้วย AI
โฆษณา Facebook Ads

September 12, 2025

ฟีเจอร์โฆษณาใหม่ของ Meta: Reels กำลังมาแรงและการกำหนดเป้าหมายด้วย AI
ค้นพบการอัปเดตโฆษณาล่าสุดจาก Meta รวมถึงโฆษณา Reels ที่กำลังเป็นที่นิยม การปรับปรุง Threads และการกำหนดเป้าหมายด้วย AI เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นสำหรับแบรนด์ของคุณ...
แนวโน้มการท่องเที่ยวของ Google ปี 2025: ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการจองเที่ยวบิน
google-trends

September 10, 2025

แนวโน้มการท่องเที่ยวของ Google ปี 2025: ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการจองเที่ยวบิน
ค้นพบช่วงเวลาที่ควรจองเที่ยวบินเพื่อรับข้อเสนอที่ดีที่สุดโดยใช้ข้อมูลการเดินทางปี 2025 ของ Google ค้นหาสถานที่ยอดนิยมและช่วงเวลาการจองที่เหมาะสมเพื่อประหยัดเงิน...
วิธีวัดผลตอบแทนจากการลงทุนด้านคอนเทนต์และเพิ่มกำไรสูงสุด
Content Marketing

September 5, 2025

วิธีวัดผลตอบแทนจากการลงทุนด้านคอนเทนต์และเพิ่มกำไรสูงสุด
เรียนรู้วิธีคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุนด้านคอนเทนต์ วัดมูลค่าของคอนเทนต์แบบออร์แกนิก และเพิ่มกำไรสูงสุด หยุดติดตามตัวชี้วัดที่ไม่สำคัญและมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์ทางธุรกิจจริง...