เปิดตำรา วิธีเขียนบทความ SEO พิชิตอันดับ Google

การจะเขียนบทความ SEO ให้ติดอันดับต้นๆ ในหน้าการค้นหาไม่ได้อาศัยเพียงคุณภาพของเนื้อหาเท่านั้น แต่ผู้เขียนยังจำเป็นต้องทำความเข้าใจกลไกการทำงานของอัลกอริทึมบนเครื่องมือการค้นหาด้วยเช่นกัน ในบทความนี้ Relevant Audience จะมาเปิดตำรา “วิธีเขียนบทความ SEO” ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณพิชิตอันดับต้นๆ ในหน้าการค้นหาของกูเกิล (Google)

รู้จัก Heading Tag คืออะไร?

โดยปกติแล้ว เสิร์ชเอนจิน (Search Engine) ของกูเกิลทำการจัดอันดับเว็บไซต์โดยอาศัยหลายปัจจัย ทั้งการใช้คีย์เวิร์ด คุณภาพของเนื้อหา ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ไปจนถึงการใช้ Heading Tag หรือ HTML Tag ซึ่งใช้สำหรับกำหนดหัวข้อต่างๆ ของเนื้อหาบนเว็บไซต์ โดยกูเกิลมีการแบ่ง Heading Tag ออกเป็น 6 ระดับ คือ

1. H1 หรือหัวข้อหลัก

ใช้สำหรับชื่อเรื่องหลักของเนื้อหา โดยควรมี H1 เพียงตำแหน่งเดียวในหน้าเนื้อหานั้นๆ และควรจัดอยู่บนสุดของเนื้อหา

2. H2 หรือหัวข้อรอง

ใช้สำหรับแบ่งส่วนหัวข้อหลักของเนื้อหา โดยสามารถมี H2 ได้มากกว่า 1 ตำแหน่ง

3. H3 หรือหัวข้อย่อย

ใช้สำหรับแบ่งหัวข้อย่อยที่อยู่ภายใต้ H2 โดยสามารถมี H3 ได้มากกว่า 1 ตำแหน่ง เช่นกัน แต่จำต้องจัดอยู่รองลงมาจาก H2

4. H4, H5, H6 หรือข้อย่อยลำดับถัดมา

ใช้ำสำหรับการแบ่งหัวข้อย่อยที่มีความสำคัญน้อยลงตามลำดับ โดยควรเรียงตามลำดับตัวเลขอย่างถูกต้อง

การใช้ Heading Tag ช่วยให้เนื้อหาดูเป็นระเบียบ สบายตา และอ่านง่ายขึ้น แต่นอกเหนือจากนั้น Heading Tag ยังช่วยให้อัลกอริทึมของเสิร์ชเอนจินเห็นว่า เนื้อหามีโครงสร้างชัดเจน ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ควรจัดให้เนื้อหาดังกล่าวถูกแสดงผลอยู่บนอันดับต้นๆ ในหน้าการค้นหาของกูเกิล

อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนไม่จำเป็นต้องใช้ Heading Tag ให้ครบตั้งแต่ H1-H6 แต่ควรเขียนบทความให้เนื้อหามีการใช้ Heading Tag อย่างน้อยตั้งแต่ H1-H3

แนะนำวิธีเขียนบทความ SEO

ในฐานะเอเจนซีด้านการตลาดดิจิทัล (Digital) ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับ SEO ทาง Relevant Audience ขอมาแนะนำวิธีเขียน SEO ดังนี้

1. H1 ต้องน่าสนใจ

เนื่องจาก H1 เป็นชื่อเรื่องของเนื้อหา ซึ่งจะแสดงในหน้าการค้นหาด้วย ดังนั้นการเขียน H1 จึงควรน่าสนใจ ดึงดูด ครอบคลุม และมีการใช้คีย์เวิร์ดที่ต้องการโฟกัส

2. อย่าคัดลอกเนื้อหา

หากอัลกอริทึมตรวจพบว่า บทความมีเนื้อหาซ้ำกับเว็บไซต์อื่นหรือเว็บไซต์เดียวกัน อัลกอริทึมจะสรุปผลว่า บทความนั้นๆ เป็น Duplicate Content ซึ่งอาจส่งผลต่อการจัดอันดับได้

3. ใช้รูปภาพประกอบ

บทความที่มีรูปภาพประกอบเนื้อหามีแนวโน้มถูกจัดให้อยู่ในอันดับต้นๆ ของหน้าการค้นหา โดยเฉพาะบทความที่ใช้ภาพประกอบเกี่ยวข้องกับเนื้อหา

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายวิธีเขียนบทความ SEO ให้มีคุณภาพ รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ เพื่อให้เนื้อหาบนเว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ บนหน้าการค้นหา

เกี่ยวกับ Relevant Audience

พวกเรา Relevant Audience คือ Digital Performance Marketing Agency ที่เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO และเป็นหนึ่งใน Digital Agency ที่มีบริการด้านการตลาดดิจิทัลครบวงจร เพื่อสนับสนุนธุรกิจให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในเวลา สถานที่ และบนอุปกรณ์ที่เหมาะสม (Right Time, Right Place, Right Device)

บริการของเราครอบคลุมทั้งบริการทำ SEO, Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads ไปจนถึง Influencer Marketing และเรายังเป็น SEO Company ที่เป็น Google Partners อีกด้วย โดยทีมของเราล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมให้คำปรึกษาและค้นหาโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจ