![Copy of [NEW] Blog Size [1200x628px] (96)](https://www.relevantaudience.com/wp-content/uploads/elementor/thumbs/Copy-of-NEW-Blog-Size-1200x628px-96-q4w0rq6ml76vt14ik1p61f6zmpri0xzzi6583y28aw.png "Copy of [NEW] Blog Size [1200x628px] (96)")
เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน มีรายงานจากสื่อต่างๆ ที่ระบุตรงกันว่า Apple จะมีการเปิดตัว Ad Placement เพิ่มเติมในตำแหน่งโฆษณาต่างๆ ภายในสิ้นปี 2022 โดยก่อนหน้านี้ Ad Placement (พื้นที่ในการแสดงโฆษณา) ของ Apple จะมีเพียงแค่หน้า Apple Search Resulte Pages และ Search Tab เท่านั้น
ล่าสุด Apple ก็ได้ประกาศ Ad New Placement ใหม่ให้แบรนด์และนักการตลาดเลือกเพิ่มเติมได้แล้ว โดยจะเพิ่มในส่วนของ Today Tab และ หน้า Product Page (ด้านล่างของแอปแต่ละรายการ) รายละเอียดจะเป็นอย่างไร เราได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่แบรนด์และนักการตลาดควรรู้เอาไว้แล้ว มาดูไปพร้อมกันเลย
ขยายการเข้าถึงทุกแคมเปญผ่าน Today Tab Ads
ใครที่ใช้งานโทรศัพท์ไอโฟนผ่านระบบปฏิบัติการ iOS คงเคยใช้งาน App Store ที่เป็นแอปฯ ที่เอาไว้ใช้เข้าไปโหลดแอปฯ อื่นๆ โดยจากการประกาศล่าสุด Apple เตรียมแสดงโฆษณาในหน้าเมนู Today ถือเป็นการเพิ่มหน้าโฆษณาจากเดิมที่อยู่แล้วแต่จะเน้นแค่เพียง Search Campaign เป็นส่วนใหญ่
โดยการแสดงโฆษณาในหน้า Today Tab นี้ ตัวโฆษณาจะถูกแสดงผลเป็นกล่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่แบบเดียวกับคอนเทนต์อื่นๆ ในหน้าเดียวกัน เพียงแต่จะมีคำว่า Ad กำกับเอาไว้ให้ผู้ใช้งานทั่วไปรู้ว่าเป็นคอนเทนต์โฆษณา แบรนด์หรือนักการตลาดที่ต้องการสร้างแคมเปญสามารถตั้งค่าได้ที่ App Store Connnect โดยมีข้อกำหนดพื้นฐาน ดังนี้
- ต้องมีเนื้อหา Portrait Assets 4 รายการ หรือ เนื้อหา Landscape Assets 5 รายการ
- เมื่อส่งข้อมูลแล้วให้รอการอนุมัติใน App Store Connect และ Apple Search Ads ก่อนจะนำเนื้อหาไปใช้เพื่อการโฆษณาได้
ตำแหน่งด้านล่าง App Product
สำหรับโฆษณาในตำแหน่ง App Product จะอยู่ในส่วนของด้านล่างบริเวณ “You may also like” โดยหากเป็นการโฆษณาตัวแอปฯ จะมีกรอบสีฟ้าบางๆ และมีข้อความกำกับเอาไว้เพื่อให้รู้ว่าเป็นแอปฯ โฆษณา โดยตัวแอปฯ จะมีความเกี่ยวข้องหรือคล้ายคลึงกับแอปฯ ที่ผู้ใช้งานกำลังค้นหาอยู่ เช่น หากค้นหาแอปฯ ที่เกี่ยวกับการแต่งภาพ ก็อาจมีแอปฯ แต่งภาพเจ้าอื่นๆ แสดงผลโฆษณาอยู่ข้างใต้ด้วย
ทั้งนี้ผู้ซื้อโฆษณาจะไม่สามารถระบุแอปฯ แบบเจาะจงสำหรับการแสดงผลโฆษณาได้ แต่จะเป็นการแสดงผลโฆษณาควบคู่กับแอปฯ ที่ผู้ใช้งานค้นหาอยู่ และการโฆษณาบน App Store จะสามารถทำได้เฉพาะแอปฯ ที่ผ่านการรับรองจากทาง Apple แล้วเท่านั้น เนื่องด้วยนโยบายความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวดของ Apple นั่นเอง
ทิ้งท้าย
ในแง่ของการตลาดออนไลน์แล้วก็ถือว่าเป็นอีกก้าวของ Apple ที่จะช่วยให้แบรนด์หรือนักการตลาดมีตัวเลือกในการโฆษณามากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ในอีกมุมหนึ่งยังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การกระทำในครั้งนี้ของ Apple อย่างทวิตของ Florian Mueller นักพัฒนาแอปและซอฟต์แวร์ชื่อดัง ที่ได้ระบุว่า “การอัปเดตครั้งนี้ของ Apple เปรียบเสมือนเป็นการบังคับให้นักการตลาดหรือแบรนด์จำเป็นต้องซื้อเงินเพิ่มเติมในการซื้อโฆษณาบนหน้า App Page ของตัวเอง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เสียฐานลูกค้า”
แน่นอนว่าจากรายงานล่าสุดจาก Mark Gurman คอลัมนิสต์ชื่อดังแห่งเว็บไซต์ Bloomberg ได้ออกมาเผยเอาไว้ว่า Apple หวังที่จะเพิ่มรายได้จากการโฆษณาให้มากขึ้นเกือบ 3 เท่า (คิดเป็น 10 พันล้านดอลลาร์ต่อปี) ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ดังนั้นก็อาจเป็นไปได้ว่านโยบายการเพิ่มตัวเลือก Ad Placement ในครั้งนี้จะเป็นการตอบรับกับแนวทางที่ Apple วางแผนเอาไว้ก็เป็นได้
สำหรับแบรนด์หรือนักการตลาดที่ต้องการโฆษณาในช่องทางต่างๆ ในตอนนี้ Apple ก็เปิดให้ใช้งานได้อย่างเป็นทางการตั้งแต่หลังวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมาแล้ว ยกเว้นแค่เพียงประเทศจีนเท่านั้น
Source: SEJ
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com
