5 เรื่องที่ไม่ควรทำในการใช้กลยุทธ์ Retargeting นักการตลาดห้ามพลาด!

แชร์ไปยัง:
คัดลอกลิงก์:
June 22, 2022
Author: Antonio Fernandez
Results Image

Retargeting เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การทำแคมเปญ PPC (Pay Per Click) ที่เป็นการติดตามการใช้งานเว็บไซต์หรือบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของกลุ่มเป้าหมาย ในการเลือกดูสินค้าหรือบริการของแบรนด์ จากนั้นจะเป็นการยิงโฆษณาเพื่อไปกระตุ้นให้ลูกค้าเห็นในขณะที่กลุ่มเป้าหมายอยู่ในช่องทางออนไลน์อื่นๆ เพื่อเป็นการย้ำเตือนความสนใจให้กลับมาตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือบริการของแบรนด์อีกครั้งโดยมากจะเห็นกลยุทธ์นี้ในกลุ่มธุรกิจประเภท E-Commerce เป็นส่วนใหญ่ ปัจจุบันแต่ละแพลตฟอร์มก็มีเครื่องมือที่ช่วยในการทำแคมเปญ Retargeting อย่างหลากหลาย เช่น Dynamic Ads บน Facebook, Official Account Retargeting บน Line หรือ Retargeting List for Search Ads (RLSA) บน Google เป็นต้น 

อย่างไรก็ตามการใช้กลยุทธ์ Retargeting ไม่ได้มีแต่ข้อดีเพียงอย่างเดียว หากนักการตลาดใช้อย่างไม่ระมัดระวังมากพออาจทำให้กลุ่มเป้าหมายเกิดอาการหงุดหงิดและส่งผลเสียต่อแบรนด์ในระยะยาวได้ ฉะนั้นในบทความนี้จะนำ 6 เรื่องที่นักการตลาดควรพิจารณาเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดกับการใช้กลยุทธ์ Retargeting บนแคมเปญ PPC กัน ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกันเลย

1.ตรวจสอบกลุ่มเป้าหมายให้ดี

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการใช้กลยุทธ์ Retargeting นั่นคือการกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ข้อมูลจาก Analytics Tools อื่นๆ เพื่อให้สามารถคาดการณ์กลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมในการทำ Retargeting ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น พูดง่ายๆ คือควรศึกษาหรือทำความร้จักกลุ่มเป้าหมายให้ดีพอโดยการตั้งคำถามว่า กลุ่มเป้าหมายคือใคร? มีช่วงอายุเท่าไหร่ เพราะถ้าหากไม่มีการรีเสิร์ชข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายที่ดีและมากพอ จะทำให้การใช้กลยุทธ์ Retargeting ไม่เกิดผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่แบรนด์วางเอาไว้ รวมถึงอาจจะเสียทั้งเวลาและงบประมาณในการโปรโมตแคมเปญอีกด้วย

2. อย่าลืมใช้กลยุทธ์การขายแบบ Up-Selling และ Cross-Selling

สำหรับใครเป็นเซลขายสินค้าคงรู้จักกลยุทธ์การขายที่เรียกว่า Up Selling และ Cross Selling กันดีอยู่แล้ว โดย Up Selling คือกลยุทธ์การขายที่ผู้ขายมีการแนะนำสินค้าหรือบริการที่มีคุณสมบัติและราคาที่เหนือกว่าสิ่งที่ลูกค้ากำลังเลือก ลองนึกภาพตอนที่เวลาคุณเดินเข้าร้านฟาสต์ฟู๊ดแล้วเลือกซื้อเซ็ตไก่ทอดในราคา 99 บาท แต่พนักงานคะยั้นคะยอให้คุณเพิ่มเงินอีก 10 บาทเพื่ออัปไซส์เป็นขนาดจั้มโบ้ ส่วน Cross Selling จะแตกต่างกับ Up Selling คือเปลี่ยนจากการอัปเกรดสินค้าหรือบริการให้ดีกว่าเดิมเป็นการโน้มน้าวให้ลูกค้าซื้อสินค้าหรือบริการหนึ่งเพิ่มเติมที่มีความเกี่ยวข้องกันนั่นเอง เช่นในกรณีที่ลูกค้าเลือกซื้อคอมพิวเตอร์พร้อมกับการนำเสนอเมาส์และคีย์บอร์ดเพิ่มเติมเข้าไปด้วยนั่นเอง

แน่นอนว่าการขายแบบ Up-Selling และ Cross-Selling นี้ก็สามารถนำมาปรับใช้กับการทำแคมเปญ Retargeting ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมข้อเสนอที่เกี่ยวข้องหรือเป็นข้อเสนอเพิ่มเติมแบบพิเศษ จะเป็นการกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือบริการได้ดีขึ้น

3.อย่าทำ Retargeting บนช่องทางเดียว 

อย่างที่บอกไปในข้างต้นว่าปัจจุบันมีแพลตฟอร์มที่หลากหลายในการทำแคมเปญ Retargeting ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์ม Search Engine อย่าง Google, Youtube, Bing หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Line, Twitter ฉะนั้นหากต้องการเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายให้เพิ่มขึ้น เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ตรงมากขึ้น ก็อย่าลืมใช้ช่องทางอื่นๆ เพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตามการพิจารณาช่องทางในการทำ Retargeting ก็เป็นเรื่องสำคัญ อย่าลืมเลือกช่องทางให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและประเภทของสินค้าหรือบริการของแบรนด์ เพราะหากแบรนด์เลือกช่องทางไม่ตรบกับกลุ่มเป้าหมาย การทำ Retargeting หลายช่องทางก็จะเปรียบได้กับการผลาญงบประมาณไปแบบเปล่าประโยชน์ทันที

4.ใช้ Audience Exclude เพื่อประหยัดงบประมาณ

จะมั่นใจได้อย่างไรว่ากลุ่มเป้าหมายที่ยิงโฆษณาไปจะมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นลูกค้าได้จริง เพื่อให้การกำหนดกลุ่มเป้าหมายมีความชัดเจนมากขึ้นและหลีกเลี่ยงการใช้งบประมาณอย่างสูญเปล่า

ไม่ว่าจะทำ Retargeting บนแพลตฟอร์มไหนก็ตามอย่าลืมที่จะใช้ฟังก์ชัน Audience Exclusion ก็จะช่วยให้แคมเปญมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยหลักการทำงานจะคล้ายกับฟังก์ชัน Negative Keyword อธิบายง่ายๆ คือ จะมีการจำกัดการเข้าถึงโฆษณาไปยังบางกลุ่มเป้าหมาย เพื่อช่วยให้โฆษณาสามารถแสดงไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ตรงมากขึ้น เพราะโฆษณาถูกจำกัดการเข้าถึงจากผู้ที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายไปแล้วนั่นเอง

ตัวอย่างเช่น หากแคมเปญโฆษณาอยู่ในหมวดหมู่ของกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate)  ก็สามารถเลือกจำกัดการเข้าถึงโฆษณาตามกลุ่มผู้รับชมได้ว่าต้องการให้โฆษณาไปแสดงต่อลูกค้าประเภท Residental หรือ ลูกค้าประเภท Commercial (ในรายละเอียดทางกฎหมายมีความแตกต่างกัน) แน่นอนว่ายิ่งแคมเปญโฆษณาแสดงได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นเท่าไหร่ โอกาสในการขายสินค้าและบริการก็จะสูงเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น 

5.ห้ามทำ Retargeting บ่อยจนเกินไป

กลยุทธ์ Retargeting ถือเป็นการกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แต่การใช้กลยุทธ์นี้ถี่จนเกินไปอาจกลายเป็นการสร้างความรู้สึกที่ไม่ดีให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ ดังนั้นหากตัดสินใจใช้กลยุทธ์ Retargeting โดยเจาะจงไปที่กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถรันแคมเปญ Retargeting และช่วยเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจมากขึ้น

แม้ว่าในตอนนี้การประกาศใช้ PDPA จะดูเป็นการเดินสวนทางกับการทำการตลาดแบบ Personalized Marketing หรือการทำการตลาดส่วนบุคคล แต่นักการตลาดไม่ต้องเป็นห่วงไป หากมีการวางแผนศึกษาการเก็บข้อมูลมาอย่างดี เพื่อไม่ให้ขัดกับหลักของ PDPA การทำการตลาดส่วนบุคคลนี้ก็ยังถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถเพิ่มยอดขายและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายได้ดีเช่นเดิม 

รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience

Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 

โทร.: 02-038-5055 

อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com

Antonio Fernandez

Antonio Fernandez

ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Relevant Audience ผู้นำด้านการตลาดดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปีในการพัฒนากลยุทธ์การตลาดดิจิทัล เขาได้นำพาทีมงานในการสร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าผ่านโซลูชันดิจิทัลที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพ

แชร์ไปยัง:
คัดลอกลิงก์:

Related Articles

Articles related to the topics covered in this post.

Latest Updates

Our most recently updated articles across all topics.

ทำไมทราฟฟิกจาก ChatGPT ถึงแปลงสภาพได้แย่กว่าการค้นหาของ Google
เอสอีโอ (Search Engine Optimization)

October 24, 2025

ทำไมทราฟฟิกจาก ChatGPT ถึงแปลงสภาพได้แย่กว่าการค้นหาของ Google
งานวิจัยใหม่แสดงให้เห็นว่าทราฟฟิกจาก ChatGPT แปลงสภาพได้แย่กว่าการค้นหาของ Google เรียนรู้ว่าการอ้างอิงจาก AI ทำผลงานได้ต่ำกว่าเกณฑ์และสิ่งนี้หมายถึงอะไรสำหรับธุรกิจของคุณ...
ทักษะ Google: แพลตฟอร์มการเรียนรู้ AI เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ
ai

October 24, 2025

ทักษะ Google: แพลตฟอร์มการเรียนรู้ AI เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ
ค้นพบ Google Skills – แพลตฟอร์มการเรียนรู้ AI ฟรีที่มีคอร์ส, ห้องปฏิบัติการ และใบรับรองมากกว่า 3,000 คอร์ส สร้างทักษะ AI ที่เป็นที่ต้องการสำหรับความก้าวหน้าในอาชีพ...
คู่มือช้อปปิ้ง ChatGPT: วิธีเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อการค้าด้วย AI
ai

October 16, 2025

คู่มือช้อปปิ้ง ChatGPT: วิธีเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อการค้าด้วย AI
เรียนรู้วิธีเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ของคุณสำหรับ ChatGPT Shopping ด้วยฟีดที่มีโครงสร้าง กลยุทธ์ GEO และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการค้าด้วย AI...