การปรับปรุงด้าน SEO สำหรับเว็บไซต์ E-Commerce ที่หลายท่านมองข้ามไป

แชร์ไปยัง:
คัดลอกลิงก์:
March 11, 2021
Author: Antonio Fernandez
Results Image

ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยนั้นมีการเติบโตสูงขึ้น และมีการแข่งขันกันมากอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของ B2B (Business-to-Business), B2C (Business-to-Consumers) รวมถึง B2G (Business-to-Government) ทำให้ธุรกิจร้านค้าต้องมีการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิตอลอย่างเต็มตัว และต้องเตรียมความพร้อมทางด้านธุรกิจ E-Commerce กันให้มากขึ้น

การวางกลยุทธ์ด้าน E-commerce นั้นอาจทำได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น การใช้สื่อ Social media ต่าง ๆ เช่น การใช้ Facebook, Line, Instagram ช่วยในการขายสินค้าและบริการ, การใช้ E-Marketplace เช่น Shopee, Lazada ช่วยในการขายสินค้าและบริการ รวมถึงการสร้างเว็บไซต์ E-commerce ขึ้นมาเพื่อเป็นตัวกลางการซื้อขายกับลูกค้า เป็นต้น กลยุทธ์ด้าน E-commerce เหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจของท่านบรรลุเป้าหมายได้

โดยเฉพาะการสร้างเว็บไซต์ E-commerce ที่เปรียบเสมือนการสร้างร้านของตัวเอง และเป็น long Term strategy, หากท่านวางโครงสร้างเว็บไซต์ และไม่ได้ตรวจเช็คด้าน SEO ตั้งแต่เริ่มต้น อาจทำให้เกิดผลเสียต่อเว็บไซต์ของท่านในระยะยาวได้ อาจทำให้เกิดปัญหาอาทิ เว็บสร้างมานานแล้วแต่ไม่ติดหน้าแรก Google สักที หรือหลังจากปรับปรุงเว็บ แต่อันดับและ Traffic กลับแย่ลง เรามาดูกันว่าการปรับปรุงปัจจัยด้าน SEO ข้อใดบ้างที่จะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้

  1. SEO Meta tags: เจ้าของเว็บไซต์ E-Commerce หลายท่านอาจไม่เคยตรวจสอบ SEO Meta tags เลยหลังจากเว็บไซต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว, การตั้งค่า SEO Meta tags ที่ดีจะช่วยให้ Google เข้าใจเว็บไซต์ของท่านมากขึ้น และนำไปสู่อันดับการค้นหาที่ดีขึ้นได้
  2. Website Structure: การวางโครงสร้างเว็บไซต์ที่ทำให้ทั้ง User และ Search Engine bot อ่านได้ง่ายนั้น จะส่งผลดีเป็นอย่างมากในด้าน SEO เช่น วาง path ของ URL ให้น้อยลง, การใช้งาน breadcrumb, การแปลง Java Script ให้เป็น Html, การแทรก Schema Markup เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของท่านมีคุณภาพมากขึ้นในมุมมองของ Google
  3. Page Speed: หากท่านเป็น User ที่เข้าชมเว็บไซต์และเว็บไซต์นั้นโหลดช้ามากท่านคงไม่ชอบเว็บไซต์นั้นและปิดไปอย่างแน่นอน, Google bot ก็เช่นกัน หากเว็บไซต์ของท่านโหลดนานเกินไป Google ก็จะมองข้ามเว็บไซต์ของท่านและอาจไปเก็บข้อมูลเว็บไซต์ของคู่แข่งที่โหลดเร็วกว่ามาจัดอันดับก็เป็นได้
  4. การตั้งค่า Canonical tags: ในเว็บไซต์ E-Commerce ขนาดใหญ่ ที่มีสินค้าหลายชิ้น จะพบปัญหาหน้าข้อมูลซ้ำกันได้ง่าย อาจเกิดจาก Pagination page หรือ Category page ที่ทำให้เกิดเนื้อหาซ้ำกัน และคงไม่ดีแน่ หาก Google เข้ามาและเจอแต่เนื้อหาซ้ำกัน การตั้งค่า Canonical tags ที่เหมาะสมจะช่วยจัดกลุ่มให้ Google เข้าใจว่าเว็บไซต์หน้าใดมีเนื้อหาเหมือนกันบ้าง ลดไม่ลดคะแนนเว็บไซต์ของท่านลง
  5. Optimize image: การ Optimize image คือการปรับปรุงรูปภาพให้รองรับ SEO มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน Google สนใจในการนำรูปภาพมาแสดงผลที่หน้าแรก มนส่วนของ Feature Snippet มากขึ้น การ Optimize รูปภาพ ก็จะช่วยเพิ่มคุณภาพด้าน SEO ให้กับเว็บไซต์ของท่านได้
  6. ขาด SEO content: นอกจากการลงข้อมูลสินค้าแล้ว เจ้าของงเว็บไซต์หลายท่านอาจมองข้ามในส่วนของ SEO content ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมให้เว็บไซต์ของท่านมีอันดับที่ดีขึ้นบน Google และช่วยในการเพิ่ม brand awareness ได้อีกด้วย เช่น เว็บไซต์ของท่านขายสินค้าด้านสุขภาพ การลงเนื้อหา SEO content ที่เกี่ยวกับสุขภาพ ก็จะช่วยให้เว็บไซต์ของท่านมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นสำหรับ Google, ช่วยเพิ่ม Organic traffic และเป็นการส่งเสริมให้ keyword เป้าหมายมีอันดับที่ดีขึ้นด้วย
  7. Backlink ไม่มีคุณภาพ: Google นั้นได้ปรับอัลกอริทึมมากมายเพื่อป้องกันการทำ SEO ที่ไม่มีคุณภาพ การสะสม backlink ที่ไม่มีคุณภาพ อาจทำให้ถูก Google ลดความน่าเชื่อถือลงไปจนถึงขั้นถูก Google แบนได้

หากท่านได้ตรวจเช็คเว็บไซต์ E-Commerce ของท่านตามที่กล่าวมาข้างต้น ก็จะทำให้เว็บไซต์ของท่านมีคุณภาพด้าน SEO ดีขึ้น Organic traffic มีการเติบโตขึ้น และอันดับของ keyword ดีขึ้นได้

หากท่านกำลังมองหา Digital agency หรือมองหา ที่ปรึกษาด้านการทำ SEO ท่านสามารถติดต่อเรา Relevant Audience ได้เลย ทางเรามีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาฟรี โทรศัพท์: 020385055

อีเมล: Info@relevantaudience.com หรือแอดไลน์เรามาได้เลย https://line.me/R/ti/p/@relevantaudience

Antonio Fernandez

Antonio Fernandez

ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Relevant Audience ผู้นำด้านการตลาดดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปีในการพัฒนากลยุทธ์การตลาดดิจิทัล เขาได้นำพาทีมงานในการสร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าผ่านโซลูชันดิจิทัลที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพ

แชร์ไปยัง:
คัดลอกลิงก์:

Related Articles

Articles related to the topics covered in this post.

วิธีปรับปรุงเนื้อหาให้เหมาะสมกับ Bing Search AI ในปี 2025
เอสอีโอ (Search Engine Optimization)

October 9, 2025

วิธีปรับปรุงเนื้อหาให้เหมาะสมกับ Bing Search AI ในปี 2025
เรียนรู้วิธีปรับปรุงเนื้อหาของคุณสำหรับเครื่องมือ Microsoft Search AI เช่น Copilot และ Bing Chat รับกลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วเพื่อการมองเห็นที่ดีขึ้น...
Google ยกเลิกพารามิเตอร์ n=100 ในหน้าผลการค้นหา: ผลกระทบต่อ SEO คืออะไร
เอสอีโอ (Search Engine Optimization)

September 26, 2025

Google ยกเลิกพารามิเตอร์ n=100 ในหน้าผลการค้นหา: ผลกระทบต่อ SEO คืออะไร
Google ลบพารามิเตอร์ n=100 ในหน้าผลการค้นหาในปี 2025 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเครื่องมือ SEO และการติดตามอันดับ เรียนรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์ SEO และข้อมูลของคุณอย่างไร...
10 สุดยอดบริษัทเอสอีโอที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ปี 2568
เอสอีโอ (Search Engine Optimization)

September 11, 2025

10 สุดยอดบริษัทเอสอีโอที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ปี 2568
ค้นหาบริษัทเอสอีโอที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ สำหรับปี 2568 เปรียบเทียบบริษัทชั้นนำ บริการ และราคา เพื่อเพิ่มอันดับเว็บไซต์ธุรกิจของคุณ...

Latest Updates

Our most recently updated articles across all topics.

คู่มือช้อปปิ้ง ChatGPT: วิธีเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อการค้าด้วย AI
ai

October 16, 2025

คู่มือช้อปปิ้ง ChatGPT: วิธีเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อการค้าด้วย AI
เรียนรู้วิธีเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ของคุณสำหรับ ChatGPT Shopping ด้วยฟีดที่มีโครงสร้าง กลยุทธ์ GEO และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการค้าด้วย AI...
แคมเปญ Google Shopping เข้าแทนที่ Google Search Ads
General topics

March 11, 2021

แคมเปญ Google Shopping เข้าแทนที่ Google Search Ads
เป็นเวลานานหลายปีที่นักการตลาดและบริษัทอีคอมเมิร์ซใช้จ่ายเงินไปกับ Google Search Ads เพื่อให้เว็บไซต์และโฆษณาของตนปรากฏอยู่ด้านบนของผลการค้นหาแบบออร์แกนิก อย่างไรก็ตาม Google ได้ลดระดับ Search Ads ลงหนึ่งขั้น และเพิ่ม “แคมเปญ Google Shopping” ไปยังด้านบนของผลการค้นหา แคมเปญ Google Shopping คืออะไร?...
Google Remarketing Ads คืออะไร
General topics

March 11, 2021

Google Remarketing Ads คืออะไร
คุณเป็นเจ้าของธุรกิจอีคอมเมิร์ซหรือมีเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหรือไม่? ถ้าใช่ ข้อมูลต่อไปนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณเท่านั้น หรือพูดง่ายๆ ก็คือ คุณมาถูกที่แล้ว! สถิติ แสดงให้เห็นว่าอัตราการละทิ้งตะกร้าสินค้าออนไลน์ทั่วโลกกำลังเพิ่มขึ้นและปัจจุบันสูงถึง 69.57% เราทุกคนเคยผ่านประสบการณ์ในการเข้าชมเว็บไซต์ออนไลน์เป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้วจากไปโดยหวังว่าจะกลับมาในภายหลัง ซึ่งมักจะไม่เกิดขึ้น นี่เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องได้รับการแก้ไขสำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซทั้งหมดเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายของการซื้อได้ Dynamic Remarketing คืออะไร? กล่าวอย่างง่ายๆ Dynamic Remarketing คือ Google...