การทำ Influencer Marketing เป็นหนึ่งในเทรนด์การทำการตลาดออนไลน์รูปแบบใหม่ ที่อาศัยผู้ที่มีชื่อเสียงบนโลกโซเชียลช่วยโปรโมตสินค้าหรือบริการให้กับแบรนด์ หากนำไปเทียบกับการทำการตลาดบนโซเชียลมีเดียด้วยวิธีการแบบดั้งเดิม การทำ Influencer Marketing ถือเป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งถูกเป็นที่พูดถึงในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา เพราะปัจจุบันนี้แทบทุกแบรนด์ที่ต้องการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ผ่านการใช้แนวทาง Influencer Marketing กันทั้งนั้น
หากคุณกำลังมองหาลู่ทางในการทำการตลาดออนไลน์ด้วยวิธี Influencer Marketing ต้องบอกว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจเพื่อนำมาปรับใช้ให้ตรงกับกลยุทธ์การตลาด นอกเหนือจากความเข้าใจพื้นฐานต่างๆ เช่น อินฟลูเอนเซอร์คืออะไร? การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์คืออะไร? อย่างไรก็ตามคุณจำเป็นที่จะต้องติดอาวุธให้กับแบรนด์ด้วยสถิติและข้อเท็จจริงทางการตลาดของการทำ Influencer Marketing และทั้งหมดต่อไปนี้คือสิ่งที่ในบทความนี้รวบรวมมาให้แล้วจาก Oberlo ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย
1.นักการตลาดส่วนมากนิยมใช้ Influencer Marketing
มาตั้งต้นกับคำถามที่ว่านักการตลาดนิยมการทำ Influencer Marketing นี้มากน้อยแค่ไหน? จากการสำรวจโดย SocialPubli พบว่า 93% ของนักการตลาดในปัจจุบันนิยมการใช้ Influencer Marketing เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การตลาด นอกจากนี้นักการตลาดมากกว่าครึ่งเลือกที่จะใช้ Influencer Marketing นี้ ”เป็นประจำ” และหนึ่งในสี่ของนักการตลาดเลือกใช้แบบ ”บ่อยครั้ง” ในขณะที่เกือบหนึ่งในสามของนักการตลาดเลือกใช้แนวทางนี้เป็นกลยุทธ์การตลาดแบบต่อเนื่อง
ต้องบอกว่าความนิยมของการทำการตลาดแบบอินฟลูฯ กำลังอยู่ในช่วงของการตั้งไข่ เห็นได้จากการเติบโตที่น่าประทับใจในรอบสามปีที่ผ่านมา พบว่า 27.9% ของนักการตลาดใช้ Influencer Marketing มาไม่น้อยกว่าสามปี ในนขณะที่ 20.9% ของนักการตลาดยังใช้ไม่เกินหนึ่งปี และมีเพียง 7% ของนักการตลาดเท่านั้นที่ไม่เคยใช้แนวทางนี้เลย
2.ประสิทธิภาพของการทำ Influencer Marketing
จากการสำรวจโดย Influencer Marketing Hub ระบุว่านักการตลาดมากกว่า 90% เชื่อว่ากลยุทธ์การทำ Influencer Marketing เป็นหนึ่งในรูปแบบการทำการตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพสูง มากถึงขนาดที่ว่าสามในสี่ของนักการตลาดกล่าวว่าพวกเขาพร้อมที่จะจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับการทำ Influencer Marketing เพียงอย่างเดียว ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีการคาดการณ์ว่างบประมาณในการทำ Influencer Marketing ในปี 2022 คิดเป็น 20% ของงบประมาณการตลาดทั้งหมดของบริษัทเอเจนซีในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
3.Influencer Marketing มี ROI ที่ดี
ถ้าสถิติสองอันข้างต้นยังโน้มน้าวใจได้ไม่มากพอ ลองมาดูข้อนี้กันหน่อย แน่นอนว่าสำหรับแบรนด์ที่เลือกใช้แนวทาง Influencer Marketing นี้จะได้รับผลตอบแทน 630 บาท ($18) สำหรับทุกๆ การลงทุน 35 บาท ($1)
ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่าการตลาดด้วยอินฟลูฯ สามารถให้ ROI (Return on Investment) ได้มากที่สุดหากเทียบกับแนวทางการทำการตลาดออนไลน์แบบดั้งเดิม ทั้งการทำ SEO, Email Marketing และการทำ SEM อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแบรนด์นั้นๆ ว่ามีการตั้งเป้าหมายเอาไว้อย่างไร
4.อุตสาหกรรมอินฟลูฯ เติบโตแบบต่อเนื่อง
ด้วย ROI ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจหากอุตสาหกรรมการตลาดอินฟลูฯ จะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันโซเชียลมีเดียได้แทรกซึมไปในทุกแง่มุมของชีวิตประจำวันของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตแล้ว
ตัวเลขจากการสำรวจโดย Business Insider สนับสนุนในเรื่องนี้อย่างแน่นอนด้วย ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าภายในปี 2022 แบรนด์ต่างๆ จะใช้เงินสูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์เพื่อทำการตลาดในรูปแบบ Influencer Marketing ลองคิดดูว่าในปี 2019 ตัวเลขนี้อยู่ที่ 8,000 ล้านดอลลาร์เท่านั้น นั่นหมายความว่าเพียงแค่ 3 ปี อุตสาหกรรมการทำ Influencer Marketing มีศักยภาพที่เติบโตสูงขึ้นถึง 87.5%
5.ช่องทางที่ได้รับความนิยม
ในปัจจุบันมีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมากมายให้คุณเลือกใช้เป็นช่องทางในการทำการตลาดด้วยแนวทาง Influencer Marketing อย่างไรก็ตามคำถามสำคัญคือ จะเริ่มต้นจากแพลตฟอร์มไหนดี? ใครที่สงสัยและรู้สึกกังวล ลองมาดูสถิตินี้กัน ในปี 2021 สำหรับแพลตฟอร์มอันดับ 1 ที่กินส่วนแบ่งทางการตลาดในการทำ Influencer Marketing มากถึง 93% คือ Instagram ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาแบรนด์ต่างๆ ตามมาด้วย Instagram Stories และ TikTok
อย่างไรก็ตามในการทำ Influencer Marketing ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีจำเป็นที่จะต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ หากกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ของคุณใช้ YouTube เป็นหลัก แต่ดันทำการโปรโมทบนแพลตฟอร์ม Instagram ก็อาจจะเป็นเรื่องที่เสียทั้งเงินและเวลาไปแบบเปล่าประโยชน์
6.เป้าหมายสูงสุดของการทำ Influencer Marketing
86% ของนักการตลาดระบุตรงกันว่า การสร้าง Brand Awareness เป็นหนึ่งในสามวัตถุประสงค์หลักของแคมเปญการตลาดแบบ Influencer Marketing รองลงมาคือการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มเป้าหมายใหม่ ที่ 74% Brand Advocacy ที่ 69% และการเพิ่ม Conversion ที่ 46% นอกจากนี้ก็ยังมียอด Engagement การปรับปรุงชื่อเสียงของแบรนด์ และการกระตุ้นสร้างยอดขายที่เป็นจุดประสงค์ที่รองลงมา
7.ผลกระทบของการตลาดแบบอินฟลูฯ ต่อผู้บริโภคทั่วไป
จากสถิติก่อนหน้าทำให้รู้ว่าเป้าหมายการสร้างยอดขายอาจไม่ใช่สาระสำคัญหลักของกลยุทธ์การตลาดแบบ Influencer Marketing แต่ต้องยอมรับว่านี่อาจเป็นผลพลอยได้ที่ดีต่อแบรนด์เช่นกัน จากการรวบรวมโดย Rakuten Marketing ซึ่งเป็นเว็บไซต์ E-Commerce ชื่อดังระบุว่าแปดในสิบของผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าหลังจากเห็นโฆษณาโดยอินฟลูฯ
แน่นอนว่าใครที่กำลังมีความคิดจะใช้กลยุทธ์การทำ Influencer Marketing อยู่ ลองดูสถิติต่างๆ เหล่านี้เพื่อประกอบการตัดสินใจในการวางแผนและจัดการแคมเปญต่างๆ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่สูงที่สุด
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com