ใครที่มีประสบการณ์การทำ SEO มาอย่างโชกโชน คงรู้ดีว่าการแข่งขันในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ธุรกิจเล็ก – ใหญ่ ต่างใช้กลยุทธ์มากมายเพื่อเอาชนะอัลกอริทึมของ Search Engine โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำ Local SEO ที่อาจจะมีความแตกต่างจากการทำ SEO แบบทั่วไป จำเป็นต้องอาศัยเทคนิคหรือเคล็ดลับต่างๆ เพื่อปรับปรุงการมองเห็นของเว็บไซต์ เพื่อที่จะได้เป็นการสร้างยอดขายและดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่มากขึ้น (Local SEO คืออะไร)
ดังนั้นในบทความนี้ Relevant Audience ได้รวบรวม 4 กลยุทธ์ในการเพิ่มอันดับสำหรับการทำ Local SEO ใครที่กำลังเริ่มต้นก้าวเท้าเข้ามาในโลกการตลาดออนไลน์อยู่ รับรองเลยว่าอ่านจบแล้วนำไปปรับใช้ได้ทันที
4 กลยุทธ์เพิ่มอันดับให้กับการทำ Local SEO
- วิเคราะห์ Q&A คู่แข่งบน Google Business Profile
แน่นอนว่าพื้นฐานของการเริ่มต้นทำ Local SEO ให้กับเว็บไซต์ของธุรกิจ อย่างแรกเลยคือการรู้จักใช้งาน Google Business Profile ที่เปรียบเสมือนกับสมุดหน้าเหลือง ซึ่งคอยรวบรวมรายชื่อธุรกิจต่างๆ บน Google (อัปเดตโปรไฟล์บน Business Profile ดีอย่างไร) โดย Business Profile จะมีอยู่หนึ่งฟีเจอร์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานทั่วไปหรือลูกค้าของธุรกิจสามารถตั้งคำถามเพื่อให้เจ้าของธุรกิจหรือเจ้าของเว็บไซต์นั้นๆ คอยตอบคำถาม ช่วยคลายข้อสงสัยหรือแก้ปัญหาต่างๆ ที่สำคัญเลยก็คือฟีดแบคเหล่านี้จะส่งผลต่ออัลกอริทึมของกูเกิลโดยตรง เพราะหากอัลกอริทึมของกูเกิลพบว่าธุรกิจหรือแบรนด์สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในการช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ ก็มีโอกาสที่กูเกิลจะดันอันดับเว็บไซต์ให้ติดหน้าแรกเช่นกัน
แต่ไม่เพียงแค่นั้นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่เราอยากนำมาฝากคือ การรู้จักวิเคราะห์ฟีเจอร์ Q&A นี้ของโปรไฟล์ธุรกิจของคู่แข่งของคุณ อย่าลืมว่า “การเข้าใจคู่แข่งฉันใด ก็ย่อมเข้าใจลูกค้าฉันนั้น” โดยเฉพาะฟีดแบคที่คู่แข่งของคุณได้รับจากลูกค้าโดยตรง การรู้จักข้อดีข้อเสียของธุรกิจคู่แข่งและนำมาปรับใช้กับธุรกิจของคุณทันที ย่อมเป็นการสร้างโอกาสในการสร้างความประทับใจแรกพบให้กับลูกค้าใหม่ๆ รับรองได้เลยว่าเคล็ดลับนี้ทำไม่ยาก และเป็นการเพิ่มโอกาสสร้างข้อได้เปรียบต่อคู่แข่งในพื้นที่ใกล้เคียงแน่นอน
- ปรับปรุงหน้ารายการสินค้า Product Listing ให้อัปเดตเสมอ
ในการอัปเดตข้อมูลโปรไฟล์ธุรกิจบน Google Business Profile สำหรับธุรกิจที่มีการขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ หรือสินค้าใดๆ ก็ตาม ต้องไม่ลืมที่จะระบุรายการสินค้าทั้งหมด โดยอาจจะใช้คีย์เวิร์ดช่วยในการระบุข้อมูลลงไป และนอกจากการระบุรายการสินค้าแล้ว ต้องไม่ลืมที่จะคอยอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเรื่องของราคา โปรโมชัน หรือสต๊อกสินค้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ฤดูแห่งการลดราคา จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการต้องไม่ลืมที่จะคอยอัปเดตราคา โปรโมชันต่างๆ ให้เหมาะสม เพื่อเป็นการเพิ่มการมองเห็นให้กับกลุ่มลูกค้าเดิมและกลุ่มลูกค้าใหม่อีกด้วย
- ปรับแต่ง Attributes ให้โดดเด่นเหนือใคร
ใน Google Business Profile มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Attributes ที่จะช่วยบอกให้รู้ได้ว่าธุรกิจของคุณมีคุณลักษณะพิเศษเกี่ยวกับอะไร อาจจะเป็นหมวดหมู่การให้บริการ หรือการรองรับบริการอื่นๆ เช่น การติดแท็กเอาไว้ว่าร้านนี้สนับสนุนหรือพร้อมให้การต้อนรับกับกลุ่มลูกค้าที่เป็น LGBTQ+ (Pridemonth บน Business Profile) หรือการติดแท็กสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการที่เป็นคนผิวสี หรือผู้ประกอบการที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของ โดยการใช้แท็กต่างๆ นอกเหนือจากเป็นการสร้างความโดดเด่นให้กับธุรกิจแล้วยังเป็นการเสริมสร้างให้ธุรกิจทันสมัย ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเจนใหม่ๆ ได้ดีมากขึ้นอีกด้วย
- เลือกหมวดหมู่ประเภทของธุรกิจให้ชัด
อย่างที่บอกไปแล้วว่าบน Google Business Profile คุณจำเป็นที่จะต้องกรอกรายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วน และหนึ่งในสิ่งที่ผู้ประกอบการมือใหม่หลายคนชอบละเลยนั่นก็คือการเลือกหมวดหมู่ธุรกิจให้ ”ตรงมากที่สุด” ถ้าถามว่าการเลือกหมวดหมู่ให้ตรงมีผลมากน้อยแค่ไหน อาจไม่สามารถหาคำตอบมาบอกได้ แต่ถ้าถามว่าการเลือกหมวดหมู่ให้ตรงมีผลที่กับการค้นหาธุรกิจของคุณหรือไม่ ขอบอกเลยว่ามีผลมากถึงมากที่สุด
ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเปิดร้านขายอาหารทะเล ก็ควรเลือกหมวดหมู่ธุรกิจที่เป็นประเภท Seafood Restaurant แทนที่จะเลือก Restaurant เฉยๆ หรือหากคุณเปิดเป็นร้านคาเฟ่ที่มีมุมให้บริการรองรับการอ่านหนังสือแบบฟรีๆ ก็ควรเลือกหมวดหมู่เพิ่มเติมที่เป็น Book Shop Cafe แทนที่จะเป็น Book Shop เพียงอย่างเดียว เพียงแค่เท่านี้ก็จะช่วยให้การค้นหาธุรกิจของคุณดีขึ้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถเลือกหมวดหมู่ที่ตรงกับธุรกิจของคุณได้แบบเป๊ะ 100% ก็ควรเลือกที่ใกล้เคียงมากที่สุดแทน
ทิ้งท้าย
หากต้องการให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์ การทำ SEO ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำ Local SEO ที่เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการขยายฐานลูกค้าในพื้นที่ท้องถิ่น ดังนั้นสำหรับแบรนด์หรือนักการตลาดที่กำลังเริ่มต้นสามารถนำกลยุทธ์ต่างๆ ข้างต้นลองไปปรับใช้กันดูก่อน การันตีได้เลยว่าเพิ่มการมองเห็นของแบรนด์ได้มากขึ้นอย่างแน่นอน
Source: SEJ
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital Performance Marketing Agency โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com เว็บไซต์: www.relevantaudience.com