ในปัจจุบันการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ถือเป็นพื้นฐานของบรรดาธุรกิจส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแนวทางการทำ SEO ที่เป็นการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบน Search Engine ที่ยังคงสำคัญในทุกธุรกิจที่มีเว็บไซต์ เนื่องจากเป็นโซลูชันทางการตลาดในระยะยาวที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่ว่าจะช่วยในเรื่องของการเพิ่มการมองเห็น สร้างการรับรู้ จดจำแบรนด์ เรียกว่าช่วยโปรโมตธุรกิจได้ทุกเวลา
เชื่อว่าหลายคนที่กำลังอยากมีเว็บไซต์ในการทำ SEO อาจจะมีคำถามที่ติดอยู่ในหัวว่า แล้วเว็บไซต์แบบไหนที่เหมาะกับการทำ SEO? อย่างในปัจจุบันการสร้างเว็บไซต์ดูจะเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น เพราะไม่จำเป็นต้องอาศัยความรู้ในเรื่องของการเขียนโค้ดจากโปรแกรมเมอร์มืออาชีพ ใครที่อยากมีเว็บไซต์ก็สามารถใช้แพลตฟอร์มสำเร็จรูปสร้างเว็บไซต์ได้ทันที แต่อย่างไรก็ตาม Website Builders ส่วนใหญ่ก็มีฟังก์ชันช่วยเหลือการทำ SEO ที่ต่างกัน ดังนั้นในบทความนี้ Relevant Audience จะมาแนะนำแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับการสร้างเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับการทำ SEO ในปี 2023 นี้กัน ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
1. WordPress
WordPress Website เป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการทำ SEO มาเป็นเวลานาน จากความโดดเด่นเรื่องการใช้งานที่สะดวกและมีเครื่องมือเสริมอย่างปลั๊กอินต่างๆ มากมาย ด้วยความเป็นที่แพลตฟอร์ม CMS (Content Management System) ทำให้มีระบบ Dashboard ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการเนื้อหาบนเว็บไซต์ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าอัปเดตข้อมูล เพิ่มเติมหน้าเว็บไซต์ต่างๆ ในแบบที่ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด
ส่วนในเรื่องของการทำ SEO ก็สะดวกสบายเพราะมีโครงสร้างเว็บไซต์ที่เป็นมิตรกับ Google และสามารถจัดการ Metadata ต่างๆ แก้ไขอัปเดต URL เรียกว่าสามารถปรับแต่งการทำ Onpage-SEO ได้แบบครบและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในตอนนี้
2. Joomla
Joomla หรือที่คนไทยชอบเรียกติดปากกันว่าจูมล่า เป็นโปรแกรมช่วยทำเว็บไซต์สำเร็จรูปหรือ CMS ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ เนื่องด้วยระบบการใช้งานที่เข้าใจง่าย ปรับแต่งธีมได้หลากหลาย ที่สำคัญคือแทบทุกฟีเจอร์ที่ WordPress ทำได้ Joomla ก็สามารถทำได้เหมือนกันเรียกว่าแทบจะทุกอย่างเลยทีเดียว
แถมในแง่ของการแก้ไขเชิงโครงสร้างเว็บไซต์แล้ว Joomla สามารถจัดการระบบได้ดีกว่า ส่วนของปลั๊กอิน (Joomla เรียกว่า Extension) ก็มีเยอะให้เลือกใช้ได้ไม่แพ้ปลั๊กอินบน WordPress เป็นอีกหนึ่ง CMS ที่มีความ SEO Friendly ไม่แตกต่างกับ WordPress เลย
3. Shopify
Shopify เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการสร้างเว็บไซต์ E-Commerce ที่เหมาะกับบริษัทขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ฟีเจอร์หลายอย่างถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการของธุรกิจได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากฟีเจอร์ส่วนใหญ่ที่เหมาะกับธุรกิจ E-Commerce แล้ว ยังเป็นเป็นแพลตฟอร์มแบบ SEO-Friendly คือมีฟีเจอร์ที่สนับสนุนการทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นการปรับ URLs, การทำ Sitemap, การสร้าง Robots.txt รวมถึงการปรับ Meta Data ต่างๆ ได้ทั้งหมด
ทิ้งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ให้เหมาะกับการทำ SEO ที่เราได้นำมาฝากกัน ถือเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในหมู่ของ SEO Specialist ที่เราคัดมาให้เลือกใช้กัน แต่บอกก่อนเลยว่าตัวเลือกที่ดีที่สุดนั้นขึ้นกับกับหลากหลายปัจจัย ข้อพิจารณาสำคัญที่อยากให้ดูให้ดีคือเรื่องของความยืดหยุ่นในการปรับแต่งประสิทธิภาพเว็บไซต์ สำหรับใครที่อยากทำความเข้าใจในเรื่องของการทำ SEO มากขึ้นเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ใน Blog
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัท Digital Performance Marketing Agency ที่ให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com