เข้าสู่ปี 2023 แล้ว ใครที่มีประสบการณ์การทำการตลาดออนไลน์ คงพอรู้กันดีว่าการนำข้อมูลเชิงลึกมาวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อนำไปปรับใช้กับแคมเปญการตลาด เป็นหนึ่งในเรื่องท้าทายลำดับต้นๆ ที่นักการตลาดมือใหม่ส่วนใหญ่ต้องเจอ
เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยได้ยินหรือคุ้นชื่อกับ UTM กันมาบ้าง แต่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว UTM มีความสำคัญหรือเกี่ยวข้องกับกระบวนการทำการตลาดอย่างไร ดังนั้นในบทความนี้ จะพาทุกคนมาเจาะลึกและทำความเข้าใจ UTM ที่เป็นเครื่องมือพื้นฐานในการทำ Website / Landing Page Tracking ให้มากขึ้นกัน ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
UTM คืออะไร?
UTM คืออะไร? จริงๆ แล้ว UTM ย่อมาจาก “Urchin Tracking Module” ในกระบวนการทำการตลาดออนไลน์ UTM มีหน้าที่ในการช่วยตรวจสอบว่ามีคนคลิกลิงก์มาจากช่องทางไหน หรือเรียกว่าเอาไว้ดู Traffic (ปริมาณการเข้าเว็บไซต์) โดยจะเป็นการใส่ตัวแปรที่เป็นพารามิเตอร์ (Parameter) ต่างๆ ห้อยท้ายเอาไว้กับ URL ที่ต้องการ Tracking เพื่อนำค่าที่ได้ไปวิเคราะห์ใน Analytics Tools ต่อไป อาทิ Google Analytics 4
ใครที่ยังนึกไม่ออกลองดูตัวอย่างลิงก์ที่ติด UTM ข้างล่าง
https://yourwebaddress.co.th/landingpage?utm_campaign=socialmedia&utm_medium=social&utm_source=facebookspan”>https://yourwebaddress.co.th/landingpage?utm_campaign=socialmedia&utm_medium=social&utm_source=facebookspan
จะเห็นได้ว่าพอใส่ตัวแปรต่างๆ เข้าไปด้วย ก็จะทำให้ URL ดูยาวขึ้นกว่าปกติเป็นพิเศษนั่นเอง
พารามิเตอร์ที่ใช้ทำ UTM Tracking มีอะไรบ้าง
โดยพื้นฐานแล้วการทำ UTM Tracking จะมีองค์ประกอบสำคัญคือการเลือกใช้ Parameter ต่างๆ เพื่อให้สามารถติดตามข้อมูลมาจากช่องทางไหน มาด้วยวิธีหรือแคมเปญอะไร โดยขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน เพียงแค่ต้องเลือกใช้ค่า Parameter ให้ถูก โดยมีทั้งหมด 5 ค่าด้วยกัน
- utm_source เป็นพารามิเตอร์ที่มีหน้าที่ระบุแหล่งที่มาของผู้เข้าชมเว็บไซต์ เช่น อาจจะมาจากช่องทาง Facebook, Instagram หรืออื่นๆ
- utm_medium เป็นพารามิเตอร์ที่มีหน้าที่ระบุว่าคนที่เข้ามาเว็บไซต์ เข้ามาด้วยวิธีใด อาจจะเป็นการคลิกแบนเนอร์ คลิกโฆษณา คลิกลิงก์ หรืออื่นๆ
- utm_campaign เป็นพารามิเตอร์ที่ไว้ระบุแคมเปญ สโลแกนเป็นอะไร ช่วยให้แยกแยะได้ง่ายในกรณีที่มีหลายแคมเปญ
- utm_term เป็นพารามิเตอร์ที่มีหน้าที่สำหรับบอก Keyword ที่ใช้ในแคมเปญนั้นๆ
- utm_content เป็นพารามิเตอร์ที่มีหน้าที่บอกเนื้อหาที่แตกต่างกันในแคมเปญนั้นๆ เรียกว่าเอาไว้ใช้เพื่อแยกเนื้อหาที่มีความใกล้เคียงกัน หรือเป็นลิงก์ภายในโฆษณาเดียวกัน
ทิ้งท้าย
ใครที่เพิ่งเริ่มต้นศึกษาเรื่อง UTM อาจจะสงสัยว่า อ้าวแล้วเครื่องมืออย่าง Google Analytics 4 ไม่สามารถดูรายละเอียด Traffic เหล่านี้ได้เลยหรอ? ต้องบอกว่า Analytics Tools สามารถดูได้เช่นกัน แต่ที่จำเป็นต้องใส่ UTM เพิ่มเข้าไปให้ดูวุ่นวายมากขึ้น เพราะสามารถช่วยให้นักการตลาดสามารถเห็น Performance ในมุมมองที่กว้างและละเอียดมากขึ้น เรียกว่าถ้าอยากให้การวิเคราะห์ผลการตลาดของคุณไม่ผิดเพี้ยน เรียนรู้ศึกษาและเริ่มใช้งานตอนนี้ก็มีแต่จะช่วยให้ผลลัพธ์ทางการตลาดของคุณดีขึ้นแน่นอน
รับปรึกษาการทำ Digital Marketing ที่ Relevant Audience
Relevant Audience บริษัท Digital Performance Marketing Agency ที่ให้บริการด้านการตลาดดิจิทัล โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการในเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ บริการของเราครอบคลุมทั้ง Search Marketing, Social Media Ads, Search Ads และ SEO (Search Engine Optimization) ไปจนถึง Influencer Marketing และยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม Google Partners อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.: 02-038-5055
อีเมล: info@relevantaudience.com
เว็บไซต์: www.relevantaudience.com